Paranormal Activity (2007)

เรียลลิตี้ขนหัวลุก

Paranormal Activity Poster
7/10

คะแนน
โกดังหนัง

สร้างคอนเซปหนังผีผ่านกล้องได้น่าสนใจ และมีโอกาสให้หลายมุขใหม่ๆ เนื้อเรื่องมีความชวนค้นหา จนต้องหาชื้นส่วนมาประกอบในภาคต่อๆ ไป

หมวดหมู่ : Horror Mystery
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Oren Peli
ความยาว : 1 ชั่วโมง 26 นาที
นักแสดงนำ : Katie Featherston, Micah Sloat, Mark Fredrichs

คำคมจากภาพยนตร์

“You cannot run from this- it will follow you."
“คุณไม่สามารถหนีไปจากนี้ได้ มันจะคอยติดตามคุณ”

เรื่องย่อ

เคธี่ และมิคาห์ คู่รักใหม่ ที่ฝ่ายชายอย่างมิคาห์กำลังเห่อกล้องและใช้มันถ่ายทุกสิ่งทุกอย่างภายในบ้านตลอดเวลา ประกอบกับที่ช่วงเวลานั้นเกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้นในบ้าน ทั้งอาการละเมอของเคธี่ รวมถึงข้าวของต่างๆ ที่เคลื่อนย้ายเอง เขาจึงลองที่จะตั้งกล้องเอาไว้เพื่อหาต้นเหตุของความผิดปกติที่เกิดขึ้น จนได้พบกับความสยองในนั้น และเมื่อยิ่งตามหาข้อมูลลงไปมากขึ้น พวกเขาก็พบความลับอันดำมืดบางอย่างจากตระกูลของเคธี่ ที่จะทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตราย

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Paranormal Activity นั้น เป็นหนังสยองขวัญทุนต่ำอีกเรื่องที่งัดเอาไอเดียหลายๆ อย่างมาขายได้เป็นอย่างดี รวมถึงการสรรหามุขผีหลอกจากการตั้งกล้องเอาไว้ ก็สร้างความน่ากลัวได้อยู่ไม่น้อย แต่ทั้งนี้บางทีฉากผีก็อาจจะเบาๆ ไปหน่อยถ้าไม่นับช่วงท้ายเรื่อง เลยอาจทำให้สายสยองขวัญแบบฮาร์ดคอร์ยังไม่สาแก่ใจเท่าไรนัก แต่หากต้องการมาหาความสร้างสรรค์หามุขๆ ใหม่ๆ หรือเรื่องราวของหนังที่เต็มไปด้วยปริศนาและน่าติดตาม เหมือนอย่างหนังแนว Found Footage เรื่องอื่นๆ อย่าง The Blair Witch Project, Grave Encounters หรือ Rec แล้ว นับว่าเป็นอีกเรื่องที่บริหารทุนคุ้มและทำมาดูดีเลย

  • สายหนังสยองขวัญปีศาจ
  • สายหนัง Found Footage
  • สายหนังสยองทุนต่ำ

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หนังทุนต่ำอีกเรื่องที่สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วทั้งโลก จากค่ายที่เอาความสร้างสรรค์มาใส่ชดเชยความงบน้อยเจ้าเดิมอย่าง Blumhouse ที่เรื่องนี้ใช้ทุนไปแค่เพียง $15,000 เท่านั้น แต่สามารถกวาดรายได้ทั่วโลกไปถึง $193 ล้านอย่างสวยงาม ซึ่งจากในอเมริกาเองก็หนังก็สร้างกระแสแบบปากต่อปากไปถึงในเรื่องความสยองและความน่ากลัวได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อหนังเข้าไปที่ประเทศอื่นๆ แล้ว ความน่ากลัวอาจจะดรอปลงไปบ้าง อาจเป็นเพราะสภาพแวดล้อม หรือตัวบ้านในหนังอาจต่างกับสภาพความเป็นอยู่ของดูที่ต่างกันออกไป เลยทำให้ระดับความอินในเรื่องราวก็ต่างกันตาม แต่กับที่อเมริกาแล้วคือการเชื่อมโยงได้สุดมากๆ 

ในมุขผีๆ อาจจะไมไ่ด้อยู่ในขั้นโฉ่งฉ่าง และเรียกความน่ากลัวได้ตลอด แต่สภาพของหนังจะคล้ายๆ กับการนั่งรถไฟเหาะ ที่ค่อยๆ ไต่ระดับความสยองขึ้นเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ข้าวของขยับเองได้ในคืนแรกๆ จนไปสู่การละเมอชวนหลอนตัวละคร และในที่สุดก็ถึงจุดดิ่งของรถไฟเหาะที่กลายเป็นหนังสยองขวัญบีบหัวใจแบบเต็มตัว โดยที่ไม่ต้องเล่นอะไรแบบหลบๆ ซ่อนๆ กันอีกต่อไป ด้วยความที่หนังเป็น Rate R ด้วย ก็ยิ่งจัดเต็มได้สุดมาก ทั้งเรื่องความน่ากลัว เลือด แผล ต่างๆ แม้ว่าจะไม่ได้โหดจนเบือนหน้าหนี แต่มันก็สร้างความสมจริงจนรู้สึกอินไปกับความเรียลของหนังได้

จริงอยู่ที่หลายๆ ฉากของหนังอาจดูเป็นปาหี่ไปหน่อย และไม่ได้สร้างความรู้สึกสยองให้กับคนดูหลายๆ คนที่อาจจะไม่อินสักเท่าไร เช่น กว่าจะเห็นผี ก็ต้องรอฉากกลางคืนทุกครั้ง ส่วนฉากกลางวันก็แทบไม่ค่อยมีอะไรเท่าไร แต่ตัวหนังเองก็ยังพอที่จะมีบทและเรื่องราวที่น่าสนใจให้กับคนดูที่ชวนติดตามได้อยู่ ว่าแท้จริงแล้วที่มาของวิญญาณหรือสิ่งเลวร้ายในบ้านนั้นมาจากอะไร หรือประวัติของตระกูลเคธี่ที่ส่งผลกับเรื่องราวนั้นคืออะไรกันแน่ แม้ว่าหนังจะยังเล่าออกมาไม่หมดในภาคนี้ แต่มันก็สร้างความอยากรู้จนต้องตามในภาคต่อๆ ไปเพื่อนำเรื่องราวมาปะติดปะต่อให้ได้เรื่องราวที่สมบูรณ์

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ดาราในเรื่องนี้ไม่ได้รับบทเต็มๆ ไปดู แต่จะได้เป็นไกด์ไลน์เท่านั้น ว่าจะแสดงออกมายังไงในฉากเหล่านี้
  • หนังทั้งเรื่องนั้นทำการถ่ายที่บ้านของผู้กำกับ Oren Peli เอง แถมยังถ่ายด้วยกล้องดิจิตอลทั้งเรื่อง (มิน่าล่ะทุนถึงต่ำขนาดนี้)
  • Steven Spielberg เคยออกมาบอกว่าเขาหยุดดูหนังเรื่องนี้กลางครันเพราาะคิดว่ามันน่ากลัวมากๆ จนต้องกลับมาดูให้จบตอนกลางวันในวันถัดมา