FunFactMinions_00

7 สิ่งที่คุณอาจเคยไม่รู้ เกี่ยวกับเหล่ามินเนี่ยนสุดน่ารัก

แม้ว่าหนัง Minions: The Rise of Gru จะเป็นภาคที่ 2 ของหนังชุด Minion แต่จริงๆ แล้ว Minion จะปรากฎตัวในหนังใหญ่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 5 ต่อจากหนังชุด The Despicable Me ทั้ง 3 ภาค รวมถึงมินเนียนอีกภาคหนึ่งพอดี ซึ่งจากตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น จะเห็นได้ว่านับตั้งแต่ Despicable Me ภาคแรกนั้น ใช้ มินเนียน ได้อย่างคุ้มค่า เพราะการที่ออกมาเป็นตัวละครขโมยซีนก็เรียกเสียงฮาและน่าจดจำได้ทุกครั้ง

ซึ่งต้องชื่นชมกว่าการออกแบบมินเนียนมานั้น มันทำให้ความโดดเด่นของมันมากกว่าตัวหนังเสียอีก และทำให้ค่ายหนังประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทั้งรายได้ของหนังและ Merchandise ต่างๆ ที่ขายได้กันยาวๆ เลย ซึ่งก่อนที่จะไปดู Minions ภาคล่าสุดนั้น วันนี้เราก็อยากพาทุกคนไปรู้จักกับเบื้องลึก เบื้องหลังที่เราอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับเจ้าตัวมินเนี่ยนมาก่อน เผื่อจะได้รู้จักพวกมันมากขึ้นกว่าเดิม

Pierre Coffin คือคนที่อยู่เบื้องหลังเสียงมินเนี่ยนทุกตัว

เป็นที่รู้กันว่าการพูดคุยกันของมินเนียนเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของตัวละครนี้ เพราะบางทีมันก็พูดภาษาสเปนนิชกับอิตาเลี่ยน หรือบางทีมันก็พูดไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย ซึ่งการพากษ์เสียงทั้งหมดของบรรดามินเนี่ยนทุกตัวนั้นเกิดมาจากชายเพียงคนเดียวที่ชื่อว่า Pierre Coffin โดยเขานั้นเป็น Animator ชาวฝรั่งเศส ที่เป็นผู้กำกับของ Despicable Me ทั้ง 3 ภาค + Minions อีก 2 ภาค 

ซึ่งเขานี่แหละที่นับว่าเป็นผู้ให้กำเนิดเหล่ามินเนี่ยน ที่โด่งดังมาถึงทุกวันนี้อย่างแท้จริงเลย

มีมินเนียนกว่า 10,400 ตัว ใน Poster Despicable Me 2

คงไม่มีใครไปนั่งนับหรือนั่งสังเกตจริงๆ หรอก แต่ค่ายเขาก็เคลมมาว่าใน Poster ของ Despicable Me 2 นั้น อุดมไปด้วยมินเนียน ถึง 10,400 ตัวเลยทีเดียว และที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ ค่ายยังบอกอีกว่า แต่ละตัวนั่นไม่ซ้ำกันเลยด้วย อะไรจะบ้าพลังในการทำ Model ขนาดนั้น!

จริงๆ แล้วภาษามินเนี่ยน มาจากสเปนและอิตาลี่ที่เปลี่ยนนิดหน่อย

Minionese หรือ ภาษามินเนี่ยนนั้น ถ้าสังเกตดูให้ดี ส่วนมากก็จะเป็นภาษาอิตาลี กับสเปนนั่นแหละ อย่างเช่น Ice-Cream ก็จะเป็น Gelato ส่วนที่เหลือก็จะเป็นภาษาอังกฤษที่ถูกแปลงนิดหน่อยเช่น Hello! > Bello!, Apples > Papples แต่ก็มีหลายๆ คำที่หลุดความหมายไปไกลมาก เช่น I Swear เป็น Underwear อะไรแบบนี้ 555+

มินเนี่ยนมีแต่ตัวผู้ แม้ว่าจะมีตัวที่แต่งหญิงบ้างก็ตาม

หลายๆ คนอาจจะเคยคิดว่ามินเนียนนั้นมีทั้งตัวผู้และตัวเมีย แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น มันมีแต่ตัวผู้เท่านั้น ถึงเราจะเคยเห็นหลายๆ ตัวแต่งหญิง หรือจูบกันเอง แต่มันก็เป็นตัวผู้ทั้งหมดอยู่ดี 

Evil Minions ได้รับแรงบันดาลใจมากจากนก Tweety 

หาก ม็อกไกว์ เป็นสัตว์เลี้ยงด้านสว่าง ที่น้ำโดนน้ำเมื่อไรก็กลายเป็น Gremlins แล้วนั้น Evil Minions ก็คือด้านตรงข้ามของเหล่า Minions นั่นเอง เพราะทุกคนก็ย่อมมีด้านมืดของตัวเองเหมือนกัน ซึ่ง Evil Minion นั้นเกิดมาจากเซรุ่มพิเศษที่ทำให้มันกลายร่างเป็นสีม่วง และกินทุกอย่างที่ขวางหน้า ซึ่งส่วนนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากนก Tweety ตัวเหลืองที่โด๊บยาเข้าไปแล้วกลายเป็นกเถื่อนนั่นเอง 

ซึ่งอีกเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ที่มันต้องเป็นสีม่วงก็เพราะว่ามันเป็นสีตรงข้ามของสีเหลืองตามสเปคตรัมพอดี เลยเหมาะที่จะหยิบมาเป็นด้าน Evil มากๆ

จริงๆ แล้วมินเนียน มีส่วนผสมจากแพทเทิร์นไม่กี่แบบ

แม้ว่าเราจะเห็นมินเนียนหลายๆ ตัวในเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน Poster ของ Despicable Me 2 ที่มีถึง 11,400 ตัว แต่ทว่ามันก็เกิดจากส่วนผสมจากแค่มีกี่แบบเท่านั้น แต่สามารถสร้างสรรค์ความหลากหลายออกมาได้เยอะ โดยสิ่งที่จะต่างกันได้ในมินเนียนแต่ละตัวก็คือ 

  1. ขนาดของตัว ที่จะมีทั้ง ตัวเตี้ย ตัวสูง ตัวอ้วน ตัวผอม
  2. ตา ที่จะมีทั้งแบบ 1 ตา และ 2 ตา
  3. ทรงผม ผมยาว ผมสั้น ผมหวี หัวล้าน 

ซึ่งพอเอาส่วนผสมเหล่านี้มาผสมกันก็เกิดหลากหลายรูปแบบมากมายที่ไม่ซ้ำได้เยอะมากๆ โดย Animator เคยบอกว่ามันมีส่วนผสมที่ต่างกันได้ 48 อย่างเลย

มินเนียน ได้รับ แรงบันดาลใจมาจาก Jawas

จริงๆ แล้วตัวมินเนียนในเรื่องมีเอาไว้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ความเป็นวายร้ายให้กับ กรู ตัวเอกของเรื่อง ซึ่งตอนแรกนั้น ผู้กำกับอยากให้มีลักษณะตัวใหญ่เหมือน Orc ด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเปลี่ยนใจในภายหลัง โดยการปรับขนาดให้เล็กลง และเพิ่มปริมาณให้มากขึ้น ซึ่งตริงๆ แล้ว เบื้องหลังแรงบันดาลใจของมินเเนียน ก็คือเจ้าตัว Jawas ใน Star Wars นั่นเอง ซึ่งความคล้ายกันก็คือเจ้าสิ่งมีชีวิตสองอย่างนี้มีความกวน พร้อมทั้งภาษาที่ดูฟังไม่ออก ก็ดูคล้าย Minion อยู่เหมือนกัน