One for the Road_0

รวม 5 เรื่องน่ารู้ก่อนไปบอกลาครั้งสุดท้าย กับ One For The Road

หลังจากที่คุณ บาส-นัฐวุฒิ พูนพิริยะ ผู้กำกับ “One for the Road - วันสุดท้าย..ก่อนบายเธอ” ได้พาเอาหนังของเขา ไปตะเวนฉายในต่างประเทศ รวมถึงเทศกาลต่างๆ อย่าง Sundance Film Festival 2021 จนได้รางวัลติดไม้ติดมือกลับมา จนถึงตอนนี้ก็ถึงคิวประเทศบ้านเกิดแล้ว ที่หนังจะได้ฉายให้คนไทยได้ดูกันบ้างในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้ ซึ่งก็นับว่าเป็นหนัง GDH เรื่องล่าสุดที่น่าจับตามองมากจริงๆ

โดย One for the Road เล่าเรื่องของ บอส หนุ่มนักธุรกิจที่มาทำบาร์ลับในต่างแดนอย่าง New York แต่ก็ได้รับการติดต่อจาก อู๊ด เพื่อนสนิทในสมัยเรียน ที่ติดต่อมาแบบไม่คาดคิด เพื่อขอร้องอะไรบางอย่าง ทำให้เขาต้องกลับมาที่ไทยเพื่อพบเพื่อนคนนี้อีกครั้ง และได้พบว่าเพื่อนของเขากำลังจะตายด้วยโรคมะเร็ง และอยากทำภารกิจสุดท้ายในชีวิต นั้นก็คือการไปบอกลาแฟนเก่าทุกคนที่เคยผ่านมาในชีวิต แต่การย้อนกลับไปนั้น ก็ทำให้ความทรงจำหลายๆ อย่างหวนคืนกลับมาทั้งเรื่องที่ดี และไม่ดีก็ตาม

ด้วยความที่เราอยากดูมันมากๆ ก็เลยไปตามเกร็ดต่างๆ ที่น่าสนใจก่อนดู และคิดว่าน่าจะมีคนที่อยากดูมันไปกับเราเหมือนกัน ลองมาดูกันดีกว่าว่าจะมีจะเรื่องน่ารู้ก่อนไปบอกลาครั้งสุดท้ายอะไรบ้าง

เพราะเราอาจเคยมีแฟนเก่า ที่ยังอยู่ในความทรงจำ

ไม่ใช่ทุกคนที่จะพบกับความรักที่สมหวังในครั้งแรก และหลายคนก็อาจต้องเผชิญกับความรักที่หลากหลายมาในชีวิต ไม่ว่าคนๆ นั้นๆ จะกลายมาเป็นชีวิตคู่เราหรือไม่ก็ตาม ทำให้ภารกิจการบอกลาบรรดาแฟนเก่าในชีวิตของตัวละครในเรื่องนั้น จึงน่าจะเป็นอะไรที่น่าจะเชื่อมโยงกับประสบการณ์ของหลายๆ คนได้อยู่ไม่น้อย เพราะมันจะพาให้เราได้ไปสำรวจความทรงจำ และความรู้สึกที่อาจจะยังหลงเหลืออยู่ในใจ ไม่ว่ามันเป็นทั้งเรื่องสุขหรือเศร้าก็ตาม แต่แน่นอนว่าทุกการเลิกราย่อมมีความเศร้าอยู่ในนั้นเสมอ

ทำให้มันเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่อยากเดินทางหวนนึกถึงความรู้สึกนั้นอีกสักครั้ง และอิ่มเอมไปกับเรื่องราวที่หนังเล่าออกมา แต่สิ่งที่ไม่ควรทำที่สุดก็คือการชวนแฟนเก่าไปดูหนังเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่มีแฟนปัจจุบันอยู่แล้วแน่ๆ ล่ะ เดี๋ยวเกิดสปาร์คกันขึ้นมาอีกทีแล้วจะเป็นปัญหาชีวิตไปอีก

หนัง GDH ที่ดูเหงา เศร้า ในสไตล์หว่องๆ

โดยปกติแล้ว GDH มักมีภาพลักษณ์ของค่ายอารมณ์ดี ความฟีลกู้ดที่มักจะมอบความสุขกลับไปให้คนดูอยู่เสมอ แต่เรื่องนี้กลับพูดถึงประเด็นในเรื่องของความสัมพันธ์ที่ผิดพลาดอดีต รวมไปถึงความตายที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตของตัวละคร ก็นับว่าเป็นประเด็นที่หนักอึ้งอยู่เหมือนกัน (แต่หนังสองเรื่องก่อนหน้าของผู้กำกับอย่าง เคาท์ดาวน์ และฉลาดเกมส์โกง ก็ไม่ใช่หนังฟีลกู้ดอะไรนัก) ทำให้เรื่องราวในหนังเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นประเด็นชีวิตที่เข้มๆ อยู่ไม่น้อยเลย

ซึ่งหนังยังน่าจะถูกขยี้ด้วยฟีลเศร้าๆ เหงาๆ แบบหว่องๆ เข้าไปอีก เพราะหนังได้ Producer ต้นแบบของการกระทำการหว่อง จากผู้กำกับชื่อดังอย่าง หว่องกาไว ที่เคยมีผลงานดังๆ อย่าง Chungking Express, In the Mood for Love และหนังเหงาๆ เรื่องอื่นอีก ทำให้รับประกันได้เลยว่าจะมีลายเซ็นของเขาแฝงตัวเข้ามาอยู่ในหนังด้วยอย่างแน่นอน สำหรับใครที่อยากเห็นส่วนผสมที่น่าสนใจนี้ยิ่งไม่ควรพลาด

ทีมดาราคุณภาพแบบจัดเต็ม กับการทุ่มเทเพื่อบทสำคัญ

อย่างที่เราได้เห็นกันในตัวอย่างหรือโปสเตอร์ว่าเป็นการแคสติ้งนักแสดงออกมาได้อย่างน่าสนใจมากๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวเอกทั้งสองคน อย่าง ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขตร และ ไอซ์ซึ ที่แม้ว่าเราจะไม่เคยเห็นเขาทั้งสองร่วมงานกันมาก่อน แต่เคมีความเป็นเพื่อนบนจอของพวกเขาจะดูเข้ากันได้ดีจริงๆ รวมบรรดาทีมแฟนเก่าทั้งหลายก็เลือกมาได้น่าสนใจ ดูหลากหลายสไตล์ทุกคน ไมว่าจะเป็นแฟนเก่าของตัวละครบอสที่รับบทโดย วี-ไวโอเลต วอเทียร์ และแฟนเก่าทั้ง 3 ของตัวละครอู๊ดอย่าง ออกแบบ-ชุติมณฑน์ จึงเจริญยิ่ง, พลอย หอวัง, นุ่น-ศิรพันธ์ วัฒนจินดา ก็น่าจะบอกเล่าเรื่องราวในพาร์ทของตัวเองได้เป็นอย่างดีเลย

นอกจากนี้แล้วดาราหลักทั้งสองยังต้องทำการบ้านอย่างมาก สำหรับการรับบทที่พวกเขาเองไม่มีประสบการณ์มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นต่อเองที่ก็ต้องฝึกชงเครื่องดื่มสำหรับการเป็นบาร์เทนเดอร์มือโปรด้วย รวมถึงไอซ์ซึเองก็ต้องเข้าถึงบทบาทของคนที่เตรียมใจจะตายในเวลาอีกไม่นานด้วย ก็น่าจะบทที่ดูหนักสำหรับทั้งคู่เลยทีเดียว

เพลงประกอบความหมายดีๆ ที่เนื้อหาเข้ากับหนัง

หนังได้ศิลปินที่มีผลงานเพลงติดหูมากมายของไทยอย่าง แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข เข้ามาเป็นผู้ทำเพลง Nobody Knows ออกมาประกอบหนัง ร่วมกับ Christopher Chu โดยเนื้อหาจะพูดถึงความเศร้า และสุข ของช่วงเวลาสำคัญในชีวิตที่เราสูญเสียใครสักคนไป แต่สุดท้ายมันก็จะเป็นส่วนนึงในความทรงจำที่ทำให้เราหวนนึกถึงได้เสมอ ไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ก็ตาม แต่เนื้อเพลงก็เน้นไปด้านบวก ที่เสริมให้เรามีความหวังจากอดีตมากกว่า

แถมด้วยความที่หนังไปฉายในระดับอินเตอร์ในเทศกาลภาพยนตร์ เลยทำให้เพลงนี้มี 2 เวอร์ชั่นทั้งเวอร์ชั่น Eng อย่าง ‘Nobody Knows’ และ ‘ถ้าเธอ’ ของไทย ที่ร้องร่วมกับนักร้องเสียงดีอย่าง วี-ไวโอเลต วอเทียร์ ด้วย คนอะไรนอกจากจะร้องเพลงเก่งยังมีความสามารถการแสดงดีอีก เป็นอีกคนที่มากฝีมือจริงๆ คิดว่าน่าจะเป็นเพลงที่ชวนน้ำตาไหลได้แน่ๆ เพราะขนาดอยู่ในตัวอย่างยังดูมีพลังเลย

หนังไทยเรื่องแรก ที่ได้รางวัลจากเทศกาล Sundance

จริงๆ มีหนังไทยไม่น้อยที่ไปโลดแล่นในเทศกาลหนัง และได้รางวัลติดมือกันมาของ เจ้ย อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล อยู่เกือบทุกปี แต่สำหรับปีก่อนนั้น One for the Road นั้นก็ไปคว้ารางวัล World Dramatic Special Jury Award: Creative Vision ในเทศกาลภาพยนตร์ Sundance Film Festival 2021 มาได้อย่างสวยงาม ท่ามกลางเสียงชื่นชมไปทางบวกค่อนข้างมาก ในแง่ของการให้ความหวังในการมีชีวิตอยู่ 

รวมถึงในด้านความแปลกใหม่ที่พาไปสำรวจความทรงจำกับแฟนเก่า ที่อาจจะเป็นส่วนนึงของชีวิตที่พัฒนาให้มาเป็นตัวเราในทุกวันนี้ ซึ่งอาจจะเป็นประเด็นที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงนักในฝั่งตะวันตก ที่มักมูฟออนไวกว่า มันเลยค่อนข้างถูกใจต่างชาติพอสมควร และยิ่งได้สไตล์หว่องเข้ามาผสมอยู่ด้วยยิ่งทำให้หนังน่าจะดูโดดเด่นมากขึ้นไปอีก