BollywoodMovie_00

หนังอินเดียชั้นดีที่หาดูได้ใน Netflix

จากระแส Gangubai Kathiawadi (2022) ที่เปรี้ยงปร้างมากๆ ในไทย จนไม่ว่าใครๆ ก็ไปแต่งคัฟเวอร์เลียนแบบกันทั้งนั้น แต่ไหนๆ เป็นกระแสขนาดนี้แล้วก็อย่าลืมนึกถึงอาชีพ Sex Worker ที่กำลังเป็นอีกหนึ่งปัญหาสังคมที่ควรมีคนเข้ามาดูแลให้เป็นระบบและถูกกฏหมายได้ก็คงดี กลับมาที่เรื่องหนังกันต่อ จากความดีงามของหนังที่ทำให้คนที่ไม่เคยดูหนังอินเดียมาก่อนต่างประทับใจว่าหนังอินเดียดีกว่าที่คิดไว้เยอะ

ทั้งเรื่องของบทที่ทำออกมาได้สนุกมีสาระ มีประโยคดีๆ ในเรื่องมากมาย ไปจนถึงงานโปรดักชั่นสุดอลังการ ที่ทำให้การร้องเล่นเต้นเต็มไปด้วยคุณภาพล้วนๆ จึงไม่แปลกใจนักที่ใครอยากจะ Explore จักรวาลหนังอินเดียให้มากขึ้นไปอีก ซึ่งไม่ต้องห่วงว่าจะหาดูยาก เพราะใน Netflix มีหนังอินเดียแบบซับไทยอีกเพียบที่รอการค้นหาอยู่ แต่ถ้าเริ่มต้นไม่ถูก แอดขออาสาแนะนำให้แบบคัดมาแล้วเน้น รับรองว่าชั้นเยี่ยมทุกเรื่องแน่นอน!

PK (2014)

PK มนุษย์ต่างดาวที่เดินทางมายังโลกมนุษย์ แต่แล้วกลับโดนขโมยรีโมทของยานไป เลยทำให้เขาต้องหาวิธีกลับบ้าน ในระหว่างนั้นเขาจึงได้เรียนรู้เกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ พฤติกรรม วัฒนธรรม แล้วความเชื่อต่างๆ ในอินเดีย กับผู้คนต่างๆ มากมายที่ผ่านเข้ามาในการเดินทางของเขา ซึ่งไม่ว่าเขาจะตามหารีโมทอย่างไร สุดท้ายแล้วทุกคนก็บอกกับเขาว่า มีแต่พระเจ้าเท่านั้น ที่ทำให้เขาได้รีโมทคืน เขาจึงตั้งคำถาม และออกตามหาสิ่งที่เรียกว่าพระเจ้าแทน

หนังที่เหมาะมากๆ กับคนที่กำลังอยากลองเข้าวงการหนังอินเดียดูบ้าง เรื่องนี้เป็นจุดเปิดที่ดี ที่จะทำให้คนดูเปิดใจดูหนังอินเดียดีๆ สักเรื่อง เพราะเรื่องมีความเป็นสากลอยู่ในระดับนึง ประเด็นเรื่องความเชื่อ ศาสนา ก็ค่อนข้างมีความเป็นสากล และพอที่จะเชื่อมโยงกับประเทศของตัวเองได้ แต่แม้ว่าหนังจะมีประเด็นหนักๆ อย่างเรื่องศาสนา แต่กลับไม่ได้น่าเบื่อแต่อย่างใด อีกทั้งยังทำออกมาได้บันเทิงดี และฟินมากๆ จนดูจบรับรองว่าได้มีการตั้งคำถามกับตัวเองอย่างแน่นอน

3 Idiots (2009)

รานโช ฟาร์ฮาน และราจู เพื่อนรักสามคนที่เคยสัญญากันเอาไว้ว่าอีก 10 ปีข้างหน้า พวกเขาจะได้กลับมาพบกันอีกครั้ง เพื่อดูว่าใครคือคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตได้มากกว่ากัน ซึ่งในสมัยมหาวิทยาลัยนั้น พวกเขาเรียนคณะวิศวะด้วยกันในมหาลัยที่ขึ้นชื่อว่าเข้ายากที่สุดในอินเดีย พวกเขาได้สร้างวีรกรรมเอาไว้มากมาย รวมถึงการตอกหน้าระบบการศึกษาที่มีอยู่ เพราะไม่เชื่อว่าการเรียนรู้แบบนี้จะนำไปสู่ความสำเร็จและความสุขในชีวิตให้กับบรรดานักศึกษาได้ จนทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับเรื่องวุ่นๆ ที่ตามมา พร้อมทั้งจัดการกับปัญหาชีวิตและมิตรภาพของพวกเขาเองไปด้วย

สำหรับคนที่อยากลองเปิดใจให้กับหนังอินเดียสักเรื่อง นี่ก็เป็นอีกจุดเริ่มต้นที่ดีมากๆ และไม่ว่าใครต่อใครที่เราได้เคยแนะนำก็พร้อมเปิดใจให้กับหนังอินเดียเรื่องต่อๆ ไปได้ทันทีหลังจากได้ดูหนังเรื่องนี้ และหากถูกใจหนังเรื่องนี้กันแล้ว เรื่องต่อไปที่จะแนะนำกันนั้น อยากให้ลองดูหนังที่มีชื่อว่า PK ที่มีผู้กำกับและนักแสดงเดียวกัน ที่ยังคงเข้มข้นกับประเด็นเช่นเคย แค่เปลี่ยนจากระบบการศึกษาไปสู่เรื่องความเชื่อและศาสนาได้อย่างดีมากๆ หลายๆ คนบอกว่าชอบเรื่องนี้มากกว่า 3 Idiots อีก เพราะเรื่องนี้เล่นประเด็นการศึกษาที่ใกล้ตัว ใกล้เคียง และเข้าถึงง่ายกว่า

Andhadhun (2018)

อากาซ ชายหนุ่มนักเปียโนตาบอด ที่เก็บงำความลับบางอย่างเอาไว้ ด้วยความสามารถทางด้านดนตรีประกอบกับความพิการจึงทำให้เขาได้รับงานเข้ามาอยู่มากมาย จนกระทั่งเขาได้รับว่าจ้างไปเล่นดนตรีให้กับผู้จ้างวานรายหนึ่งนามว่าปราโมท แต่เมื่อไปถึง ในห้องนั้นกลับมีการฆาตกรรมเกิดขึ้น แล้วเขาดันอยู่ผิดที่แบบไม่ได้ตั้งใจ แต่ฆาตกรกลับเคลือบแคลงใจ และจะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ เรื่องวุ่นๆ จึงเกิดตามมา

หนังดูมีความเป็นสากลมากๆ อีกเรื่อง ถ้าไม่นับดาราและฉากหลัง มันก็เป็นหนัง Hollywood เรื่องนึงได้ แต่พอใส่ความเป็นอินเดียเข้าไป กลับมีเสน่ห์มากขึ้น ทั้งการเล่าเรื่องที่แพรวพราวสับขาหลอกอย่างสนุก เพลงประกอบที่โคตรเพราะ โคตรดี จนทำให้หนังมีความน่าติดตามได้อยู่ตลอดทั้งเรื่อง แถมยังมีอารมณ์ขันแบบตลดร้ายที่เฉียบแบบสุดๆ ใครมองหาหนังอินเดียที่บทดีๆ แปลกใหม่แล้ว ขอยกเรื่องนี้เข้าไปใน List ได้เลย เพราะมันดีมากๆ จนต้องอยากแนะนำ

Drishyam (2015)

วีเจย์ ซัลกาออนการ์ พ่อบ้านที่มีครอบครัวอันแสนสงบสุข แต่แล้ววันหนึ่งลูกสาวของเขากลับจะโดนขืนใจจากเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ในระหว่างที่ขัดขืนและป้องกันตัวก็ทำให้วัยรุ่นคนนั้นถึงแก่ความตาย ทำให้วีเจย์จึงต้องงัดปฏิภาณไหวพริบ รวมถึงความรู้จากภาพยนตร์ที่เขามีออกมาเพื่อนำมาใช้ในการปกป้องครอบครัวของเขา ให้รอดพ้นจากความผิดในครั้งนี้

อีกหนังที่ช่วงองก์แรกๆ อาจจะปูเรื่องวนเวียนกับชีวิตประจำวันตัวละครไปสักหน่อย เลยอาจจะดูไม่เหมือนเรื่องย่อที่เราเท่าไรนัก แต่พอเข้าเรื่องเมื่อไร หนังก็เปลี่ยนโทนไปอย่างกับ Infernal Affair 2 คน 2 คม ที่หักเหลี่ยมเฉือนคมกันอย่างเข้มข้น ระหว่างครอบครัวของวีเจย์ กับทีมตำรวจ ที่ต้องงัดเหลี่ยมมาชนกัน จากฝ่ายนึงที่พยายามหนีความผิด กับอีกฝ่ายที่พยายามจับพิรุธให้ได้ แล้วหลายๆ ฉากก็ลุ้นบีบหัวใจเหลือเกิน ใครชอบแล้วระทึกขวัญสืบสวนแบบกลับด้านที่ต้องเอาใจช่วยฆาตกรจำเป็นต้องดู!

The White Tiger (2021)

พลราม เด็กหนุ่มผู้ยากจนจากหมู่บ้านอันแร้นแค้น ได้มีโอกาสไปทำงานเป็นคนขับรถให้กับสามี ภรรยาเศรษฐี ด้วยความทะเยอทะยานหลังจากที่เห็นชีวิตของชนชั้นสูงและความฉลาดที่มีแม้จะไร้การศึกษา เขาจึงพยายามที่จะเรียนรู้ วิธีการทำมาหากิน และไต่เต้าขึ้นมาสู่หนทางรวย แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องก็ตาม

หนังสร้างจากนิยายของดีของ New York Times ที่สะท้อนเรื่องชนชั้นวรรณณะและการตาสว่างของชนชั้นล่างได้อย่างเจ็บแสบ ทั้งเส้นทางชีวิตของแต่ละตัวละคร ที่ทำให้เราแทบคาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ยิ่งได้ทีมนักแสดงชั้นดียิ่งเชื่อในเรื่องราวมากขึ้นอีก เหมาะมากสำหรับใครที่กำลังมองหนังที่ประเด็นเข้มๆ ดราม่าหนักๆ ที่พูดถึงประเด็นชนชั้น เรื่องนี้จะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

Dangal (2016)

ซิงห์ อดีตนักมวยปล้ำชายฝีมือดี ที่ได้รับรางวัลเหรียญทองในระดับประเทศ แต่น่าเสียดายที่ยุคนั้นรัฐบาลดันไม่ได้สนับสนุนเขาเพียงพอให้ไปสร้างผลงานระดับโลก จนกระทั่งเมื่อเขาอำลาวงการ และหวังที่จะปั้นลูกตัวเองแทน แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อเขาดันได้ลูกสาวทั้งหมด 4 คนรวด แต่แล้วก็ความหวังก็กลับมาอีกครั้งเมื่อเขาพบว่าลูกสาวสองคนไปมีเรื่องกับเด็กผู้ชายแถวบ้าน แล้วดันชนะด้วย ก็เลยจับเธอทั้งคู่มาเล่นเป็นกีฬาเสียเลย

หนังอินเดียชั้นเยี่ยมอีกเรื่องระดับน้ำตาไหล ที่ได้ อาเมียร์ ข่าน มาเป็นเสมือนตราที่พิสูจน์คุณภาพของหนัง ซึ่งในเรื่องนี้เขาก็มีทั้งร่างอดีตสุดล่ำ กับร่างยุคหลังที่อวบขึ้น ก็นับว่าลงทุนอย่างมาก ตัวบทหนังทำออกมาได้มีประเด็นดี ในเรื่องของการเอาลูกมาสานฝันตัวเอง โดยที่ลูกอาจจะไม่เต็มใจ จนมาลากไปสู่ฉากไคลแม็กซ์ที่เข้มข้นเอาซะมากๆ ในด้านฉากมวยปล้ำก็ทำได้สมจริง ทั้งฉากซ้อมฉากแข่ง ก็ลุ้นจนชวนลืมหายใจ อีกหนังอินเดียชั้นดีอีกเรื่องที่เชียร์มากๆ

RRR (2022)

ภีม ชายหนุ่มที่มาจากพงไพร แต่กลับโดนจักรวรรดิอังกฤษรุกล้ำเข้ามา จนทำเด็กสาวในหมู่บ้านถูกเอาตัวไป เขาจึงเข้าเมืองเพื่อไปตามหา แต่ได้พบกับ ราม เจ้าหน้าที่หนุ่ม ที่หลังจากช่วยเด็กหนุ่มเอาไว้จากอุบัติเหตุก็ทำให้ทั้งคู่เกิดถูกชะตากันขึ้นมา จนกลายมาเป็นเพื่อนสนิท โดยที่ไม่รู้ว่าต่างฝ่ายต่างมีเป้าหมายของตัวเอง แล้ววันหนึ่งรามเองก็ได้รับมอบหมายให้จับกลุ่มภีม จนทำให้ทั้งคู่ต้องพิสูจน์มิตรภาพที่อยู่คนละขั้วอุดมการณ์กัน

แม้ใน Netflix จะไม่มีหนังฟอร์มยักษ์สุดอลังการอย่าง Bahubali แต่สุดท้ายมันก็ประทาน RRR หนังจากผู้กำกับเดียวกันมาให้ และยังคงคอนเซปเล่นใหญ่อลังการจัดเต็มเหมือนเดิม โดยที่แก่นแท้ของเรื่องจะอยู่ที่มิตรภาพและอุดมการณ์ของ 2 ตัวละคร แต่สเกลเรื่องกลับขยายไปถึงช่วงที่จักรวรรดิอังกฤษปกครอง เลยพูดถึงเรื่องการประท้วง การก่อกบฏ และชาตินิยมของชาวอินเดียที่ถูกกดขี่ในขณะด้วย สำหรับคอหนังแอคชั่นแบบมันส์ๆ เว่อร์วังแล้ว ขอแนะนำไว้ในอ้อมใจ เพราะนี่คือหนังล่าสุดของอินเดียที่แอดชอบมากๆ เลย