Chloé Zhao ผู้กำกับมือดีดีกรีออสการ์ 2021 จากหนัง Nomadland ยอมรับว่าฉากแอ็คชั่นใน Eternals ได้รับอิทธิพลมาจากหนังแอ็คชั่นย้อนยุคสุดเถื่อนของผู้กำกับ Alejandro González Iñárritu จากเรื่อง The Revenant ซึ่งเธอเป็นแฟนคลับหนังเรื่องนี้และชื่นชอบผลงานของ Leonardo Dicaprio ดูซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ จนเกิดเป็นไอเดียสำคัญในการเสนอตัวไปทำหนังฮีโร่ฟอร์มยักษ์กับ Marvel จนได้สิทธิ์ขาดทำหนังแบบ 100 เปอร์เซนต์ไม่โดนแทรกแซง พร้อมกับแนวคิดใหม่ๆที่ไม่เหมือนผู้กำกับคนอื่นๆของ MCU

“ฉันต้องใช้หนัง 2-3 เรื่องเป็นแนวทาง เพราะการที่หนังมีขนาดใหญ่ แต่สำหรับฉากแอ็คชั่นในหนังแล้ว ซึ่งฉันสนุกมากในการสร้างมันขึ้นมาร่วมกับทีมงานที่ยอดเยี่ยม ฉันอยากเอา The Revenant มาอ้างอิงเยอะมาก”

“The Revenant เป็นหนังที่ฉันรักมาก และฉันคิดว่าเราดู The Revenant กันหลายครั้งมาก ทุกครั้งที่เราจะทำฉากแอ็คชั่น เพราะฉากเหล่านั้นถ่ายทำตามสถานที่นอกโรงถ่าย ฉันชอบอย่างมากที่มันดื่มด่ำ และเรารู้สึกได้ถึงการปะทะกันรุนแรงใน The Revenant มันเป็นหนังที่จุดประกายให้เราจริงๆ และมาร์เวลก็สนับสนุนความคิดนี้และเอาด้วยกับเรา”

นอกจากหยิบฉากแอ็คชั่นจาก The Revenant มาเป็นแรงบันดาลใจแล้ว ผู้กำกับหญิงดีกรีออสการ์ก็ยังต้องการให้หนังเดินเครื่องถ่ายทำในสถานที่จริงมากกว่าจะใช้ Green Screen ในสตูดิโอ เพื่อให้หนังได้ภาพที่ดูเรียลจริงจัง แบบที่เธอเคยยึดโยงมาจากหนังเรื่องเก่าที่สร้างชื่อให้เธอไม่ว่าจะเป็น The Rider และ Nomadland ที่ตระเวนถ่ายในสถานที่จริงในอเมริกา โดยการถ่ายทำฉากแอ็คชั่นของ The Revenant เป็นการใช้มือถือกล้องซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถ่ายทอดความโกลาหลที่ตัวละครพบเจอได้เป็นอย่างดี

แม้ว่าคำวิจารณ์จากสื่อทั่วโลกอาจจะอยู่ในแง่ลบ แต่ Eternals ของ Chloé Zhao กลับได้ใจแฟนหนังไปเต็มๆ เพราะหนังทำได้แปลกแหวกขนบธรรมเนียมของ MCU ไปโดยสิ้นเชิง โฟกัสที่ตัวละครที่มาที่ไป เล่าให้เห็นภาพของฮีโร่เข้าใจความรู้สึกตัวละครที่มีความเจ็บปวด ไม่แพ้คนเดินดินธรรมดา นอกจากนี้หนังยังมีความแปลกใหม่ในการหยิบตัวละครฮีโร่ที่มีความหลากหลายในเรื่องเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเป็นเอเชีย, LGBT, คนที่บกพร่องทางการได้ยินมาแสดงเป็นฮีโร่ เพื่อบ่งบอกให้คนทั่วไปได้รู้ว่าใครก็สามารถเป็นฮีโร่ได้