ซึ่งเบื้องหลังของความสำเร็จนี้กลับมีเกร็ดน่าสนใจมากมายที่ทางโกดังหนังอยากจะหยิบมาเล่ากันให้หายคิดถึงใน Forrest Gump เรื่องนี้

Sally Field อายุมากกว่า Tom Hanks เพียง 10 ปีเท่านั้น

Sally Field คือดาราที่แสดงเป็นแม่ของ Forrest Gump ในเรื่อง ที่ตัวจริงนั้นเธออายุห่างจาก Tom Hanks แค่เพียง 10 ปีเท่านั้น ซึ่งที่เธอทำได้สมบทบาทขนาดนี้ไม่ได้เป็นเพราะแสดงดีเท่านั้น แต่ทีม Make Up ยังสร้างสรรค์ให้เธอดูแก่กว่าตัวจริง จนไม่ว่าใครก็ดูไม่ออกกันเลยทีเดียว แม้ว่าในตอนถ่ายทำหลายๆ คนคิดว่ามันจะออกมาแปลกๆ ในบทแม่ที่อายุห่างกันแค่นี้ แต่สุดท้ายแล้วเมื่อออกฉายมันก็ได้พิสูจน์แล้วว่า เคมีของทั้คู่นั้นช่างเข้ากันเหลือเกิน

ผู้เขียนนิยายต้นฉบับ ไม่ได้รับเงินที่เหมาะสม

Forrest Gump คือหนังที่สร้างมาจากนิยายในชื่อเดียวกันของปี 1986 โดย Winston Groom เขาได้ขายลิขสิทธิจากตัวนิยายของเขาไปเพียงแค่ $350,000 เท่านั้น รวมกับอีก 3% จากกำไรทั้งหมดที่หนังได้ แต่สุดท้ายแล้วค่ายหนังกลับเล่นแร่แปรธาตุทางบัญชีให้สุดท้ายหนังไม่มีกำไร สุดท้าย Groom เลยไม่ได้ส่วนแบ่งเลย แต่ด้วยความที่หนังประสบความสำเร็จมาก จนทำให้นิยายต้นฉบับขายดีไปด้วยกว่า 1.7 ล้านเล่มทั่วโลก ทำให้ Groom ปล่อยภาคต่อออกมาอย่าง Gump and Co. แต่ขายลิขสิทธิให้กับ Paramount ไปที่ตัวเลข 6 หลัก

มีแผนจะสร้างภาคต่อหลายรอบ แต่ก็ไม่สำเร็จ

เหมือนอย่างหนังทีประสบความสำเร็จทั่วๆ ไป ที่เมื่อภาคแรกประสบความสำเร็จก็จะต้องมีภาคต่อออกมา แต่ไม่ใช่กับ Forrest Gump ที่แม้ว่าจะมีนิยายต้นฉบับภาคต่อจาก Winston Groom อย่าง Gump and Co. ออกมาแล้ว โดยเป็นเรื่องราวที่ทิ้งห่างจากภาคแรกถึง 9 ปี ที่ Gump ได้มีลูกชายที่กำลังเติบโตขึ้นมา ในตอนแรกหนังได้พัฒนาบทจนเสร็จในปี 2001 แต่สุดท้ายแล้วทั้งตัวผู้กำกับอย่าง Robert Zemeckis และดาราอย่าง Tom Hanks ก็ตัดสินใจบายจากโปรโจคเพราะเห็นความสมบูรณ์ในตัวภาคแรกอยู่แล้ว

ไม่ใช่ทุกคนที่รักหนังเรื่องนี้

แม้ว่าหนังจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และได้ออสการ์มาครองถึง 6 สาขา ที่ประกอบไปด้วยรางวัลใหญ่ๆ อย่างภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยม แต่ผลจากเว็บมะเขือเน่ากลับมีนักวิจารณ์ชอบแค่เพียง 72% เท่านั้น ทั้งๆ ที่หนังดูเหมือนจะเป็นที่ชื่นชอบแบบนี้ แต่ Owen Gleiberman บรรณาธิการจากนิตยสารดังอย่าง Entermainment Weekly ก็บอกว่าหนังมันช่างตื้นเขิน และเล่าเป็นโทนเดียวมากๆ ให้ฟีลเหมือนเป็น โลกของ Baby Boomer ในเวอร์ชั่น Disney ในขณะที่อีกหลายๆ เสียงก็ยังโจมตีไปในทางใกล้เคียงกัน

ฉากการวิ่งข้ามประเทศ แรงบันดาลจากเรื่องจริง

อีกฉากที่น่าจดจำของหนัง Forrest Gump นั่นก็คือฉากที่เขาวิ่งไปทั่วอเมริกา แม้ว่าจะดูเหมือนเป็นเรื่องมาจากบทหนังเพราะไม่มีใครกล้าทำ แต่จริงๆ แล้วเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นจริงในปี 1982 เมื่อเด็กวัยรุ่นหนุ่มคนหนึ่งเริ่มออกวิ่งจากบ้านเขาที่ New Jersey ไปที่ San Francisco (เรียกได้จากขอบไปอีกขอบเลย) เขาอายุแค่เพียง 16 ปีเท่านั้น แต่จุดประสงค์ในการวิ่งของเขา นั่นก็คือให้คนอเมริกันตระหนักถึงสังคมผู้ป่วยโรคมะเร็ง จนนับเป็นอีกหนึ่งการวิ่งระยะไกลในประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำ

Tom Hank ไม่ใช่ตัวเลือกแรกของหนังเรื่องนี้

หากมาพูดกันในยุคนี้คงเป็นเรื่องที่ตลกมากๆ หากมีคนจะหาตัวเลือกที่ดีกว่า Tom Hanks มารับบท Forrest Gump แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตอนเลือกนักแสดง Hanks กลับไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆ จากทาง Studio เพราะในตอนแรกนั้นบทเกือบตกเป็นของ John Travolta แล้ว แต่เขาดันติดที่เล่นหนังของ Quentin Tarantino อย่าง Pulp Fiction เสียก่อน หลังจากนั้นบทก็ยังถูกเสนอไปที่ Chevy Chase และ Bill Murray ที่โด่งดังในขณะนั้น แต่ก็ยังถูกปฏิเสธกลับมาอีก จนภายหลังดาราทุกคนก็มีแต่เสียดายที่ไม่ได้รับบทนี้

ฉากการปรากฏตัวของ Martin Luther King ถูกตัดออกไป

ใน Forrest Gump นั้น เราจะได้เห็น Gump ได้พบคนดังที่อยู่ในประวัติศาสตร์เต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็น John Lennon, Elvis Presley หรืออดีตประธานาธิบดีอีกหลายๆ คน ตามยุคสมัย แต่จริงๆ แล้ว เราเกือบจะได้เห็นบุคคลสำคัญอย่าง Martin Luther King ที่มีบทบาทในการประท้วงเพื่อความเท่าเทียมด้วย เพียงแต่ในฉากปรากฏตัวในบทที่เขียนเอาไว้นั้น จะเป็นตอนที่สุนัขของ Gump หลุดเข้าไปในที่ชุมนุม มันเลยอาจดูไม่เหมาะสม และไม่ให้เกียรติบุคคลนี้อยู่ไม่น้อย สุดท้ายทีมงานตัดสินใจตัดฉากนี้ออกในห้องตัดต่อหลังจากถ่ายไปแล้ว