The Mummy (1999)
เดอะ มัมมี่ คืนชีพคำสาปนรกล้างโลก
คะแนน
โกดังหนัง
อีกหนังแอคชั่นแฟนตาซีแห่งยุค 90 ที่ทำให้คนรู้จักมัมมี่จากอียิปต์กันมากขึ้น สู่การผจญภัยที่เหนือจินตนาการ พร้อมภารกิจแก้คำสาปสุดมันส์
คำคมจากภาพยนตร์
“The only thing that scares me are your manners." “สิ่งเดียวที่จะทำให้ฉันกลัวก็คือมารยาทของคุณนั่นแหละ”
เรื่องย่อ
ค่ำคืนหนึ่งในสมัยอียิปต์โบราณนั้น ฟาโรห์พระเจ้าเซติที่ 1 ได้เข้ามาพบเห็นการลักลอบคบชู้ระหว่างสนมเอก อนัค ซู นามูน กับปุโรหิต อิมโฮเทป จนเตรียมสั่งประหาร แต่ทว่า อิมโฮเทป กับลงมือสังหารฟาโรห์เสียก่อน และหนีออกมาได้ เมื่อเขาตั้งใจจะกลับไปช่วยชุบชีวิตคนรักสาวนั้น ก็กลับโดนสังหารและลงโทษสูงสุดจากการทำให้เป็นมัมมี่ทั้งเป็น และลงอาคมเอาไว้ จนกระทั่งมาถึงยุคปัจจุบัน บรรดานักขุดสุสานนั้นต่างพยายามบุกเข้าไปค้นหาสมบัติ และต้องการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ แต่กลับทำพลาดไปปลุกให้ อิมโฮเทป คืนชีพขึ้นมา พวกเขาจึงต้องหาทางถอนคำสาปนี้ลงให้ได้
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ The Mummy ในเวอร์ชั่นปี 1999 นี้ น่าจะเหมาะคนที่เป็นคอหนังสายแอคชั่นแฟนตาซีมากกว่า เพราะแม้ว่า มัมมี่ จะเป็นอีกหนึ่งอสูรกายชวนสยองในจักรวาล Monsterverse แต่ในฉบับนี้คือการทำออกมาในรูปแบบแอคชั่น ผจญภัยที่แทบไม่มีความสยองแม้แต่น้อย ด้วยเรทแค่เพียง PG-13 เท่านั้น ก็แน่นอนว่าเราแทบจะไม่ได้เห็นความรุนแรงจากในหนังเลย แต่มันก็มีแอคชั่นที่สนุกเข้ามาทดแทน แต่หากใครอยากเห็นมัมมี่ฉบับสยองอาจต้องมองข้ามไปก่อน ซึ่งใครที่ชอบหนังแอคชั่นผจญภัยแบบ Van Helsing, Underworld หรือ Blade
- สายหนังแอคชั่นผจญภัย
- สายหนังแอคชั่นแฟนตาซี
- สายหนังมอนสเตอร์เวิร์ส
รีวิว / สรุปเนื้อหา
แม้ว่า Mummy จะไม่ใช่เรื่องราวใหม่ และเป็นหนึ่งในอสูรกายของค่าย Universal ที่อยู่ใน Monsterverse ของทางค่ายที่หยิบเอามาทำใหม่อยู่เรื่อยๆ แต่เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะเติบโตมากับ The Mummy ฉบับปี 1999 นี้ พร้อมๆ กับฉากพายุทะเลทรายหน้าคนที่เป็นที่น่าจดจำ ด้วยความที่ผู้กำกับ Stephen Sommers ก็เป็นผู้กำกับอีกคนที่ถนัดกับงานสายหนังตลาดแฟนตาซีอยู่แล้วจากการทำหนังสัตว์ประหลาดสุดมันส์อย่าง Deep Rising มาก่อน พอมาถึงเรื่องนี้ เขาก็ยังคงจะเต็มสไตล์ความบันเทิง กับหนังแอคชั่นผจญภัยที่มีอียิปต์เป็นฉากหลัง พร้อมกับเรื่องราวคำสาปต่างๆ ออกมาได้อย่างสนุก
ตัวหนังเองนั้นเรียกได้ว่าสร้างความน่าสนใจได้ตั้งแต่ต้นเรื่องตั้งแต่การย้อนไปสู่ประวัติศาสตร์ (แบบโม้ๆ) ถึงที่มาของมัมมี่วายร้ายในเรื่องราว ก่อนที่จะตัดมาสู่การผจญภัยในโลกปัจจุบันที่เรียกได้ว่าเปิดฉากแรกมาก็ชวนอลังการอยู่ไม่น้อยแล้ว ด้วยคาแรคเตอร์ของตัวละครแต่ละตัวในเรื่องก็ออกแบบมาให้เสมือนเป็นหนังการ์ตูน อย่างพระเอกเท่ๆ ที่ชนะได้ทุกอย่าง นางเอกสาวที่ฉลาดรอบรู้และมีไหวพริบ อีกทั้งยังมีพี่ชายนางเอกเข้ามาเป็นตัวขโมยซีนอีก ก็เรียกได้ว่าสร้างสีสันให้กับเรื่องราวได้ครบถ้วนดีมากๆ สำหรับตัวหลัก ส่วนทีมตัวเสริมและตัวร้ายก็ไม่น้อยหน้า มีโอกาสเมื่อใดก็ออกมาแย่งซีนกันอยู่ตลอดเหมือนกัน
ตัวหนังเน้นจังหวะที่ค่อนข้างเร็ว และใส่ฉากตื่นเต้นให้ได้ดูเอามันส์ ดูเอาสะใจมาอยู่ตลอดทั้งเรื่อง แม้ว่าจะมีจุดไม่สมเหตุสมผลมากมาย แต่ก็ไม่มีเวลาที่จะไปนั่งคิดจับผิดมันเท่าไร เพราะหนังมันทำออกมาเหมาะกับให้เราเอนกาย ดูมันไปอย่างสบายๆ และสนุกไปกับฉากต่างๆ ที่หนังโยนมาให้ ซึ่งเอาจริงๆ แม้ว่าหนังจะผ่านมาหลายปี แต่เชื่อว่าหลายๆ อย่างก็ยังอยู่ในความทรงจำมากๆ ไม่ว่าจะเป็นฉากพายุทะเลทรายที่เป็นหน้าคน หรือบรรดาแมลงกินคนสุดสยอง จนทำให้ใครที่ชอบหนังสไตล์แอคชั่นแฟนตาซีอยู่แล้วก็น่าจะถูกใจ แต่หากใครคาดหวังว่ามัมมี่จะมาในโทนสยองก็อาจจะต้องรอเวอร์ชั่นอื่นแทน
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- หลังจากหนังออกฉายในวันแรกนั้น ผู้กำกับ Stephen Sommers ได้รับสายจากค่าย Universal ในทันที ว่าเราอยากได้หนังแบบนี้อีก
- ในฉากแรกๆ ที่ดาราอย่าง Arnold Vosloo ที่เล่นเป็น Imhotep ที่ถูกจัดการทำเป็นมัมมี่นั้น สติแตกมากๆ กับการที่ต้องถูกพันผัาพันแผลถึงกว่า 4 ชั่วโมงในการถ่ายทำฉากเหล่านั้น