Tears of the Sun (2003)

ฝ่ายุทธการณ์สุริยะทมิฬ

Tears of the Sun Poster
7.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังสงครามที่เหมือนจะเน้นไปสไตล์แอคชั่นยิงกัน แต่เนื้อแท้แล้วกลับสะท้อนภาพความโหดร้าย และการไม่นิ่งดูดายของคนดี

หมวดหมู่ : Action Drama Thriller
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Antoine Fuqua
ความยาว : 2 ชั่วโมง 1 นาที
นักแสดงนำ : Bruce Willis, Cole Hauser, Monica Bellucci

คำคมจากภาพยนตร์

“The only thing necessary for the triumph of evil is for good men to do nothing."
“สิ่งเดียวเลยที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ ก็คือการที่พวกคนดีต่างไม่ลงมือทำอะไร”

เรื่องย่อ

ผู้หมวดวอเตอร์ส จาก Navy Seal ของสหรัฐอเมริการ ได้รับภารกิจให้พาลูกทีมไปช่วยเหลือตัว ดร. ลีน่า หมอที่ไปเข้าร่วมคณะเผยแพร่ศาสนาคริสต์ พร้อมกับรักษาผู้คนในประเทศไนจีเรียจากกองกำลังกลุ่มปฏิวัติที่เข้ามายึดพื้นที่ของชาวบ้าน พร้อมทั้งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของพวกเขา แต่ภารกิจกลับไม่ง่าย เมื่อ ดร. ลีน่ากลับยึดอุดมการณ์เป็นสำคัญ และยืนยันที่จะไม่กลับไปเพียงคนเดียว แต่ต้องช่วยเหลือชาวบ้านไปด้วย วอเตอร์สจึงพยายามทำตามข้อเรียกร้องดังกล่าวเพื่อให้ภารกิจสำเร็จตามที่ตั้งใจเอาไว้

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Tears of the sun นั้น เป็นหนังสงครามต้นยุค 2000 อีกเรื่องที่รู้สึกว่ามัน Underrated ไปหน่อย ในแง่ของความที่หนังได้ผู้กำกับสายแอคชั่นเข้มๆ มาทำ มันเลยมีภาพลักษณ์ที่ดูเป็นหนังแอคชั่นการเอาชีวิตรอดจ๋าๆ มากกว่าที่จะถูกมองว่าสะท้อนความโหดร้ายของสงครามที่ตัวหนังก็ถ่ายทอดออกมาได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก หากคุณเป็นที่ชอบหนังสงครามอยู่แล้ว แต่ดันมองข้ามเรื่องนี้ไปจากความไม่มีกระแสของมัน เพราะถ้าชอบหนังสงครามแบบไม่ใหญ่มากแบบพวก We were soldirers, Act of Valor, Lone Survivor ที่มีความเป็นแอคชั่นนำมาก่อนแล้ว Tears of the Sun คือหนังอีกเรื่องที่ควรดูเลย

  • สายหนังแอคชั่นสงคราม
  • สายหนังสงครามโหดร้าย
  • สายหนังสงครามยุคใหม่

รีวิว / สรุปเนื้อหา

Tears of the Sun เป็นหนังกึ่งๆ สงครามอีกเรื่องในยุค 2000 ต้นๆ ที่ได้ดาราดังๆ อย่าง Bruce Willis มารับบทนำ พร้อมกับผู้กำกับสายแอคชั่นเข้มๆ อย่าง Antoine Fuqua เลยทำให้หนังออกมาในกึ่งหนังแอคชั่น การเอาชีวิตรอดของทีมในดินแดนที่ไม่คุ้นเคย ที่ทำออกมาได้อย่างสนุก มันส์ ลุ้นระทึกไปกับภารกิจตัวละคนได้อยู่ตลอดทั้งเรื่อง แม้ตัวบทจะไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ทั้งบรรยากาศ การดำเนินเรื่องที่ชวนติดตาม ฉากแอคชั่นเอาชีวิตรอดสุดระห่ำสมจริงตามสไตล์ของผู้กำกับแล้ว ก็ทำให้หนังเป็นที่ชื่นชมแน่ๆ แหละในเรื่องของความบันเทิง

แต่ส่วนที่คนดูชอบหนังเรื่องนี้ ดูท่าจะไม่ใช่แค่เรื่องความบันเทิงดูเอามันส์อย่างเดียว ที่ทำให้หนังเป็นที่ชื่นชอบของใครอีกหลายๆ คน แต่ทว่ามันยังพูดถึงเรื่องมนุษยธรรมในสงครามได้เป็นอย่างดี การถ่ายทอดความโหดร้ายของทหารกองกำลังปฏิวัติที่ปฏิบัติกับคนด้วยกันเหมือนไม่ได้เป็นมนุษย์ ความอำมหิตในระดับฆ่าล้างหมู่บ้าน ล้างเผ่าพันธุ์ ก็ดูเป็นอะไรที่สะเทือนใจเป็นอย่างมาก จนทำให้ตัวละครอย่างผู้หมวด วอเตอร์ส ถึงกับต้องยอมละเมิดคำสั่ง และใช้ความเป็นมนุษย์ในการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้แทน

ซึ่งเมื่อ 2 ส่วนที่ดีของหนังมาผสานกันอย่างลงตัวนั้น มันเลยออกมาเป็นหนังสภาพที่บันเทิงไปควบคู่กับคุณภาพที่น่าสนใจ และเสริมให้เราเอาใจช่วยทีมทหารอเมริกันในหนังมากขึ้นให้รอดพ้นจากวิกฤตในครั้งนี้ ไปพร้อมๆ กับการช่วยเหลือชาวบ้านไปด้วยเช่นกัน จนเป็นส่วนผสมของแอคชั่น ดราม่าแบบเข้มๆ ที่ลงตัวมากๆ นับว่าเป็นหนังสงครามอีกเรื่องที่มีดีจนน่าเสียดายหากมันจะหายไปจากการพูดถึงตามกาลเวลาเช่นนี้ และถ้ามีโอกาสก็อยากจะให้ได้ลองรับชมกัน

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • หนังเรื่องสร้างจุดแตกหักระหว่างผู้กำกับอย่าง Antoine Fuqua แล Bruce Willis จนทั้งคู่ ตั้งแต่เริ่มเดินหน้าถ่ายทำ จนกระทั่่งเมื่อจบเรื่องนี้ทั้งคู่ก็ต่างสาบานว่าจะไม่ร่วมงานกันอีก
  • ชาวแอฟริกันพื้นเมืองในเรื่องบางคน ถึงกับร้องไห้ออกมานอกบท เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในฉากต่างๆ ของเรื่องล้วนสมจริง และตรงกับความทรงจำของเขาที่เอาชีวิตรอดมาได้จากเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เกิดจริง จนทีมงานต้องเก็บรีแอคชั่นเหล่านี้เอาไว้ในหนังด้วย