The Maze Runner (2014)

วงกตมฤตยู

The Maze Runner Poster
7.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

กิมมิคใหม่ของโลกดิสโทเปีย กับชีวิตของเหล่าเด็กชายในเขาวงกตปริศนา สู่ความลุ้นระทึกในการเอาตัวรอด พร้อมทั้งเรื่องราวที่น่าสนใจ

หมวดหมู่ : Action Mystery Sci-Fi
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Wes Ball
ความยาว : 1 ชั่วโมง 53 นาที
นักแสดงนำ : Dylan O'Brien, Kaya Scodelario, Will Poulter

คำคมจากภาพยนตร์

“No one has ever survived a night in a maze.”
“ไม่เคยมีใครรอดจากช่วงเวลากลางคืนในวงกตได้มาก่อน”

เรื่องย่อ

โธมัส วัยรุ่นชายที่ตื่นมาภายในลิฟท์ปริศนา ก่อนที่จะพบว่ามันพาเข้าไปที่สถานที่ที่เรียกว่า ทุ่ง สถานที่ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยกำแพงสูงตระหง่านล้อมรอบทุกด้าน และได้พบกับกลุ่มวัยรุ่นชายอีกหลายๆ คนในสถานที่แห่งนั้น เขาพบว่าตัวเองไม่มีความทรงจำในอดีตใดๆ เช่นเดียวกับสมาชิกชาวทุ่งคนอื่นๆ เมื่อเขาได้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มแล้วนั้น เขาก็ได้เข้าร่วมกับทีมงานนักวิ่ง ที่เข้าไปสำรวจเขาวงกตขนาดใหญ่เพื่อทำแผนที่ในการหาทางออกจากสถานที่นั้น ท่ามกลางบรรดาสัตว์ประหลาดอันแสนอันตราย จนกระทั่งวันหนึ่งก็มีวัยรุ่นสาวอย่าง เทเรซ่า ขึ้นมาจากลิฟท์ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงของสถานที่แห่งนี้ไปตลอดกาล

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ The Maze Runner นั้นจะเหมาะกับคนชอบธีมโลกดิสโทเปีย หรือโลกที่ไม่พึงปราถนาอยู่ไม่น้อย แม้ว่าจะเทียบเคียงกับรุ่นพี่อย่าง The Hunger Games ไม่ได้ ด้วยประเด็นความเข้มข้นที่อาจจะเบากว่า เพราะไม่ไปถึงเรื่องระบบการเมืองการปกครอง แต่ในมุมของการที่เป็นเรื่องราวสำหรับ Young Adult หรือวัยรุ่นแล้วนั้น ก็ค่อนข้างตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ในแง่ของปริศนาและการผจญภัยของตัวละครมากกว่า ในทางกลับกันถ้าหากใครคาดหวังอะไรที่เข้มข้นของเรื่องราวอาจจะไม่ถูกใจนัก แต่หากใครชอบหนังสายๆ นี้ อย่าง Divergent หรือ The Hunger Games แล้ว นี่ก็เป็นอีกเรื่องพล็อตฉีกมาให้ชวนลิ้มลองกันอยู่ดี

  • สายหนังโลกดิสโทเปีย
  • สายหนังวัยรุ่นผจญภัย
  • สายหนังชีวิตหลังโลกล่มสลาย

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หากใครยังพอจำได้ ในช่วงนั้นมีนิยายและหนังแนวๆ ดิสโทเปีย (โลกที่เลวร้าย) ออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น The Hunger Games, Divergent หรือแม้กระทั่งอย่าง The Maze Runner เรื่องนี้ ซึ่งความน่าสนใจก็คือแต่ละเรื่องนั้นต่างก็มีเรื่องราวเฉพาะตัวที่ และธีมเรื่องที่ต่างกันออกไปจนแทบไม่มีอะไรใกล้เคียงกันเลย ซึ่งสำหรับเรื่องนี้ก็สร้างพล็อตที่แปลกใหม่ออกมาได้มาก กับการสร้างสถานที่ที่เรียกว่า “ทุ่ง” ขึ้นมา และมีการรวมเอาวัยรุ่นชายมาอยู่ด้วยกันเอาไว้ ท่ามกลางเขาวงกตขนาดยักษ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ต่อหน้าพวกเขา 

ความน่าสนใจของ The Maze Runner จึงเป็นเรื่องของ Mystery หรือความลึกลับซับซ้อนเป็นหลัก ว่าโลกแห่งนี้คืออะไร ทำไมจึงต้องมีการส่งเด็กชายเข้ามาใหม่ในทุกๆ 30 วัน ในเขาวงกตนั้นจะพาพวกเขาออกไปเจออะไร และคนที่ควบคุมสิ่งเหล่านี้และกำหนดกฏเกณฑ์ต่างๆ ที่นี่คือใครและทำไปเพื่ออะไรกันแน่ ซึ่งหนังก็ทำออกมาได้ดีในการสร้างความอยากรู้อยากเห็น และชวนสงสัยที่เป็นส่วนที่ขับเคลื่อนหนังได้มากกว่า การผจญภัยในเขาวงกตของพวกเขาเสียอีก 

แต่ด้วยความที่ประเด็นมันไม่ได้หนักมาก และเน้นเป็นการผจญภัยไขปริศนาเสียมากกว่า เลยทำให้ประเด็นในเรื่องความขัดแย้งต่างๆ ก็เลยเบาลงไปอยู่ไม่น้อย (รวมถึงในโลกภายนอกของภาคต่อๆ ไป มันก็ไม่ได้ดูสมเหตุสมผลอะไรขนาดนั้น) ดังนั้นนอกจากในเรื่องความอยากรู้เรื่องราวต่อไปแล้วของหนังแล้ว ก็เห็นจะเหลือเพียงกิจกรรมวิ่งเข้าออกเขาวงกตของตัวละครนี่แหละที่จะส้รางความตื่นเต้นกับคนดูได้ ซึ่งหากนำไปเทียบกับต้นฉบับของนิยายแล้ว ก็นับว่าดัดแปลงออกมาได้ดี เนื้อหาก็ค่อนข้างที่จะครบถ้วนตามใจความสำคัญของเรื่องราว และดูเพลินอยู่ไม่น้อยสำหรับหนึ่งในหนังดิสโทเปียของยุคนี้

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ทีม Production ถึงกับต้องจ้างทีมจับงูเข้ามาเคลียร์พื้นที่ในฉากก่อน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายในตอนถ่ายทำ ซึ่งก่อนหน้าที่จะเริ่มถ่ายนั้น ทีมจับงู ก็จับงูที่มีพิษได้ถึง 25 ตัว แต่ตัวที่ใหญ่ที่สุดที่เจอก็ยาวถึง 5 ฟุตเลยทีเดียว
  • ตัวละครหลักๆ ในเรื่องนั้นจะมี ชื่อ มาจากบุคคลจริงๆ ในประวัติศาสตร์ ทั้งนักวิทยาศาสตร์ นักคิดค้น นักปรัชญามากมายตั้งแต่ต้นฉบับนิยายแล้ว เช่น Thomas มาจาก Thomas Edison, Alby มาจาก Albert Einstein, Newt มาจาก Isacc Newton, Chuck มาจาก Charles Darwin , Gally มาจาก Galileo และ Teresa มาจาก แม่ชีเทเรซ่า นี่ยังไม่รวมคนอื่นอีกที่ล้วนแล้วแต่มีที่มาทั้งนั้น
  • ในตัวนิยายนั้น Thomas กับ Teresa ใช้การสื่อสารภายในหัวผ่านกระแสจิตเพื่อพูดคุยกันเอง แต่ในหนังตัดส่วนนี้ออกไป