The Predator (2018)

เดอะ เพรดเดเทอร์

The Predator Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

หากฉบับก่อนหน้าคือ นักล่า Vs นักฆ่า ฉบับนี้ก็คือ นักล่า Vs คนบ้านั่นเอง ไม่นึกว่าวันนึงจะเห็น Predator ในแบบตลกร้ายแบบนี้ คือฮามาก เดือดมากจริงๆ

หมวดหมู่ : Action Adventure Sci-Fi
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Shane Black
ความยาว : 1 ชั่วโมง 47 นาที
นักแสดงนำ : Boyd Holbrook, Trevante Rhodes, Jacob Tremblay

คำคมจากภาพยนตร์

“Gentlemen, remember... they're large , they're fast and fucking you up is their idea of tourism.”
“คุณสุภาพบุรษทั้งหลาย จำไว้ว่า พวกมันทั้งใหญ่ ทั้งเร็ว และเชือดพวกคุณแน่ๆ นั่นแหละคือแผนการมาเยือนของมัน

เรื่องย่อ

ควินน์ แม็คเคนน่า ทหารมือซุ่มยิงที่รอดชีวิตจาก Predator ภายในป่าแห่งหนึ่งของประเทศเม็กซิโก แต่เพื่อนๆ ร่วมรบของเขากลับต้องเสียชีวิตอย่างอนาถ จนทำให้เขาต้องถูกควบคุมตัวใบบำบัดในกลุ่มทหารผ่านศึก แต่แล้วลูกชายของเขา ก็ดันได้รับอุปกรณ์ของ Predator ที่เขาเองส่งมาไว้ที่บ้านก่อน จนกลายเป็นสัญญาณเรียก Predator ให้มายังโลก ควินน์และบรรดาทหารผ่านศึกที่มีปัญหาทางจิตทั้งหลาย จึงเป็นความหวังเดียวที่จะปกป้องเมืองแห่งนี้

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ The Predator นั้น เหมาะกับคนที่กำลังมองหาความแปลกใหม่จากหนังชุดนี้อยู่โดยที่ไม่ต้องยึดติดกับอะไรแบบเดิมๆ มากนัก จนทำให้คนที่ชื่นชอบในความคลาสสิคของการบู๊ขรึมในภาคก่อนๆ ก็อาจจะหงุดหงิดที่เห็นมันถูกเปลี่ยนโทนไปได้ถึงขนาดนี้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าถ้าลองเปิดใจก็น่าจะพบกับความสนุกในเวอร์ชั่นนี้อยู่ไม่น้อย เพราะความตลกร้ายของผู้กำกับนั้นเอามาใส่เข้ากับหนังชุดนี้ได้ดีมากๆ และสร้างสีสันให้กับหนังได้เป็นอย่างดี เอาเป็นว่าถ้าใครตามหนังชุด Predator หรือ Alien อะไรพวกนี้มาก่อนแล้ว ก็อยากให้ลองเปิดใจดูฉบับนี้กันสักหน่อยแม้ว่าคะแนนมันจะน้อยนิดก็ตาม

  • สายหนังต่างดาวบุกโลก
  • สายหนังต่างดาวสุดโหด
  • สายหนังแอคชั่นตลกร้าย

รีวิว / สรุปเนื้อหา

จนป่านนี้ก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมคะแนน The Predator ภาคนี้ที่ออกมาถึงได้ตำเตี้ยเรี่ยดินกันเหลือเกินในหลายๆ เว็บไซค์วิจารณ์ต่างๆ เพราะในมุมส่วนตัวแล้วก็นับว่าเป็นหนังของ Shane Black อีกเรื่องที่สนุกมากๆ และเขาก็ดูเป็นตัวเลือกที่เจ๋งดี ในการเข้ามาเปลี่ยน Mood & Tone ในหนังให้กลายเป็นตลกร้ายสุดแสบ ที่แฝงด้วยประเด็นของทหารผ่านศึกเข้ามา แต่ก็ยังเก็บเอาความรุนแรง แบบโหดเลือดสาด และความเป็น Predator เอาไว้ได้เป็นอย่างดี จนแปลกใจมากๆ ที่หลายคนกลับไม่ชอบกัน 

ที่บอกว่า Shane Black เป็นผู้กำกับที่เหมาะนั้น ส่วนหนึ่งก็คงเป็นเพราะเขา เคยได้เล่นเป็นลูกน้องของพระเอก Arnold Schwarzenegger มาตั้งแต่ภาคแรกที่เป็นต้นฉบับแล้ว แถมด้วยฝีมือไม้รายมือในการทำหนังที่ผ่านมา ก็ล้วนใส่ความตลกร้ายเข้าไปได้อย่างกลมกล่อม เหมือนอย่างตอนใน Iron Man 3 เขาก็ช่วยเพ่ิ่มสีสันให้กับหนังชุดนั้นได้มาก ซึ่งกับ Predator เรื่องนี้ก็ไม่ต่างกัน เพราะเขาดูเหมือนจะเข้าใจเป็นอย่างดีว่าจะให้หนังออกมาอย่างไร และตลกร้ายเอาไปใส่ตรงไหน ถึงจะเกิดผลดีที่สุด เลยทำให้หนังออกมาทั้งบ้า ทั้งฮา ทั้งมันส์ไปเลย

ในส่วนที่คนไม่ชอบก็อาจพอเข้าใจได้ในส่วนของโทนหนังที่เปลี่ยนไปมาก จากเป็นหนังเอาชีวิตรอดต่อสู้กับต่างดาวที่มีโทนขรีมๆ ก็กลายมาเป็นตลกรับประทาน จากบรรดามุขคำหยาบ และใต้สะดือที่ยิงกันเข้ามาอย่างไม่ยั้ง จนอาจเสียความคลาสสิคของต้นฉบับไป แต่ในด้านดีมันก็ได้ความสดใหม่และเข้ากับยุคสมัยมาแทน แต่ถึงแม้จะเปลี่ยนไปเยอะ แต่ตัว Shane Black เองนั้น ก็ยังใส่ Easter Egg ต่างๆ มากมาย เพื่อเป็นการคารวะถึงฉบับก่อนๆ ทั้งมุข ทั้งอุปกรณ์ และยุทธวิธีการเอาตัวรอดต่างๆ ที่หากใครเป็นแฟนหนังชุด Predator กันมา ก็น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีเลย

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ในหนังมีการคารวะเวอร์ชั่นเก่าเยอะมาก เพราะถึงแม้ว่าหน้ากากของ Predator ในเรื่องจะเป็นของใหม่ แต่ก็มีหน้ารุ่นเก่า Original ของปี 1987 วางประกอบฉากอยู่ด้วย
  • ในตอนแรกจะเป็นการสร้าง Predator ที่เป็นฉบับรีบูท แต่สุดท้าย Shane Black ก็เสนอว่าให้มันเป็นภาคต่อมากกว่า เพราะเขาอยากที่จะขยายจักรวาลของ Predator ให้มากขึ้น
  • หลังจากผู้กำกับ Shane Black ประสบความสำเร็จจาก Iron Man 3 นั้น ทาง 20th Century Forx ก็ให้เขาทำ Predator ด้วยทุนระดับนั้นเลย