The Siege (1998)

ยุทธการวินาศกรรมข้ามแผ่นดิน

The Siege Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังสงครามก่อการร้ายที่ดูแล้วสนุกมาก เนื้อหาตื่นเต้นไปกับการหาตัวคนร้ายทั่วนิวยอร์ก Denzel Washington เด่นมากเรื่องนี้

หมวดหมู่ : Action Thriller
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Edward Zwick
ความยาว : 1 ชั่วโมง 56 นาที
นักแสดงนำ : Denzel Washington, Bruce Willis, Annette Bening

คำคมจากภาพยนตร์

"ผู้คนต้องเข้าใจว่า คนมุสลิม ไม่ได้เป็นผู้ก่อการร้ายไปหมดทุกคน"
"People must understand that not all Muslims are terrorists."

เรื่องย่อ

เกิดเหตุลักพาตัวผู้นำมุสลิมอย่างลับๆและผู้ต้องสงสัยกลายเป็นทางการสหรัฐฯ ซึ่งนำไปสู้การโจมตีของผู้ก่อการร้ายในนิวยอร์ก FBI เริ่มคุมเหตุการณ์เอาไว้ไม่อยู่แล้ว จนเหตุการณ์บานปลาย ทำให้กองทัพสหรัฐประกาศใช้กฎอัยการศึกในนิวยอร์ค เพื่อปิดล้อมผู้ก่อการร้ายอาหรับ จับคนมุสลิมทั้งหมดไปขังในสนามกีฬา เพื่อบีบให้คนร้ายตัวจริงออกมา

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรัับ The Siege เป็นหนังทริลเลอร์ก่อการร้ายที่เนื้อหามาก่อนจะเกิดเหตุการณ์ 9/11 ล่วงหน้า 3 ปี การจำลองประเด็นคนมุสลิมและภัยร้านในสังคมอเมริกันชน ไม่น่าเชื่อว่ามุมมองและประเด็นนี้ยังคงร่วมสมัยมาจนถึงปัจจุบัน หนังเต็มไปด้วยความตึงเครียด คนที่ชอบหนังที่มีเหตุการณ์ที่ลุ้นระทึก น่าจะชอบเรื่องนี้ไม่ยาก

  • สายหนังแอคชั่นดราม่า
  • สายหนังแอคชั่นก่อการร้าย

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หากจะหาหนังประเด็นก่อการร้ายที่ดูจริงจังมากที่สุด เรื่องนี้แหละที่น่าจะใกล้เคียงที่สุด นิวยอร์ค ซิตี้ เหมือนที่เปนแลนด์มาร์คสวยหรูผู้คนมากมายอยากมาเยือนสักครั้ง นครที่ดูเจริญทางเศรษฐกิจมีผู้คนหลายเชื้อชาติ ไม่มีใครรู้ว่าภัยก่อการร้ายจะมาเยือนแบบไม่ทันตั้งตัว แม้ว่าตัวหนังจะเก่าแต่บทหนังมันดูร่วมสมัยมากๆ เพราะมันเต็มไปด้วยภัยร้ายที่มองไม่เห็น หนังเปิดหัวที่เรื่องราวกลุ่มมุสลิมที่โดนทางการสหรัฐจับเหตุผลก็เพราะเป็นผู้นำติดอาวุธหัวรุนแรง จากนั้นก็มีเหตุการณ์ก่อการร้ายไปทั่วเมืองนิวยอร์ก ทั้งระเบิดรถสาธารณะ ยึดโรงเรียน ทำลายโรงละคร ขับรถชนสำนักงานตำรวจ พร้อมเปิดศึกกับทางการเต็มตัว บทหนังและเส้นเรื่องทำให้เห็นถึงภาพความรุนแรงที่ยุคใหม่

เหตุการณ์ในหนังชวนรุนแรงจนยากควบคุม แม้ว่าทางการ เอฟบีไอและซีไอเอ จะไล่ล่าตามจับกลุ่มคนร้ายหรือผู้ต้องสงสัยที่เป็นคนมุสลิม แต่มันก็มีผู้ก่อการร้ายกลุ่มใหม่ที่ออกมาสร้างความวุ่นวายหนักข้อขึ้นกว่าเดิม จนประชาชนไม่เชื่อว่าทางการเอาอยู่ ทางการไม่รู้จะทำอย่างไรจึงต้องใช้ไม้แข็งดึงกองทัพเข้ามา ประกาศใช้กฏอัยการศึกในเมืองนิวยอร์ค กลับกลายเป็นความตึงเครียดกว่าเก่า ผู้คนแตกตื่นไม่ชอบความกดขี่ข่มเหง ตามมาด้วยการไปไล่จับผู้คนมุสลิมที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่มาทั้งคนแก่, เด็ก, สตรี มาขังในสนามกีฬา เพราะเชื่อว่าคนพวกนี้ย่อมต้องแกป้องคนที่พูดภาษาเดียวกันบทที่ เอ็ดเวิร์ด ซวิค วางเอาไว้คาดเดาไม่ถูกว่าตัวการจริงๆเป็นใคร บทหนังซับซ้อนทั้งที่ตัวละครหลักในหนังจริงๆมีไม่กี่คน นอกจากนี้สิ่งที่ทำให้หนังน่าประทับใจคือการตีความคนมุสลิมที่บอกถึงเหตุผลว่าทำไมเขาถึงสละชีพก่อการร้าย

แถมเนื้อหาของหนังยังสะท้อนมุมมองตัวละครหลักที่มีมุมมองและอุดมการณ์ที่แตกต่างกัน เดนเซล วอชิงตัน บทเอฟบีไอหัวหน้าทีม นักต่อรองเจรจา ที่ไล่ล่ากลุ่มผู้ต้องสงสัยจากข้อมูลเครือข่ายที่เขามี โดยส่วนตัวผมชอบงานของเดนเซลเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ยิ่งบทตำรวจผมยิ่งชอบมาก เราได้เห็นเดนเซล เชื่อถือยึดมั่นในกฏหมายที่เขามี การแลกการเสี่ยงเพื่อช่วยเหลือผู้คน, บรูซ วิลลิส นายพลหัวหน้าทีมทหารที่มาใช้กฏอัยการศึกไล่ล่าจับบุคคลมุสลิมต้องสงสัย บทนี้ค่อนข้างหนักหนาสาหัส เพราะว่า ต้องยึดถือตัวเองเป็นคนคุมกฏหมายไร้ซึ่งความปรานี ชอบที่ได้เห็น บรูซ ฟาดฟัดต่อบทกับเดนเซลในทุกๆซีน ดูสนุก เพราะทั้งคู่มีแนวคิดที่ต่างกันสุดขั้ว แม้ต่างฝ่ายต้องการให้สถานการณ์คลี่คลายก็ตาม, แอนเนตต์ เบนนิ่ง เจ้าหน้าที่ซีไออีผู้ที่คิดว่ายังมีคนมุสลิมที่ดีไม่มีพิษมีภัยในอเมริกา เธอทำทุกอย่างนอกเหนือกฏหมายและหลายๆครั้งก็ดูจะทำให้งานของเอฟบีไอ ลำบากยากขึ้น เพราะสิ่งที่ทำไม่ค่อยเข้าท่าเอาเสียเลย

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • หนังไม่ได้ประสบความสำเร็จใน Box Office แต่กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ถูกเช่าสูงที่สุดหลังจากเหตุการณ์ 9/11
  • หลังเหตุการณ์ 9/11 หนังถูกถอดออกจากทีวีเป็นเวลาถึง 6 ปีก่อนจะได้กลับมาฉายในเคเบิลแบบจำกัด
  • กลุ่มต่อต้านการแบ่งแยก อเมริกัน-อาหรับ เคยออกมาโจมตีภาพยนตร์เรื่องนี้ที่มีท่าทีเหมารวมจนอาจนำไปสู่ Hate Crime และแนะนำให้หนังยึดโยงเหตุการณ์ระเบิดตึกใน โอกลาโฮม่า 1995 จะดีกว่า