The Rock (1996)

ยึดนรกป้อมมหากาฬ

The Rock Poster
8.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

สุดยอดหนังแอคชั่นสูตรสำเร็จแห่งยุค 90s นำทีมดาราสุดเท่ พร้อมฉากแอคชั่นระห่ำ มันส์ถึงใจ

หมวดหมู่ : Action Adventure Thriller
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Michael Bay
ความยาว : 2 ชั่วโมง 16 นาที
นักแสดงนำ : Sean Connery, Nicolas Cage, Ed Harris

คำคมจากภาพยนตร์

“I’ve been in jail longer than Nelson Mandela, so maybe you want me to run for president.”
“ฉันติดคุกมานานยิ่งกว่า Nelson Mandela ซะอีก ถ้าอย่างนั้นแกคงอยากให้ฉันลงสมัครประธานาธิบดีไหมล่ะ”

เรื่องย่อ

สแตนลี่ย์ ก็อดสปีด FBI ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธเคมี ที่ไม่มีความสามารถในการต่อสู้ ต้องจับมือกับ จอห์น แพทริค เมสัน นักโทษชายที่ถูกขังลืมมาหลายปี แต่ทางการก็ต้องจำใจใช้ความสามารถของคนกลุ่มนี้ เพื่อเข้าไปทำภารกิจที่คุกอัลคาทราซ จากการก่อการร้ายของ พลจัตวา ฟรานซิส ฮัมเมล นายทหารที่ต้องการเรียกร้องสิทธิให้ทหารที่ไม่ได้รับเงินชดเชย จนจับตัวประกันพร้อมกับระเบิดเคมีเอาไว้

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ The Rock นั้นจะเหมาะกับคอหนังแอคชั่นในยุค 90 อย่างแน่นอน ด้วยพล็อตที่เป็นสูตรสำเร็จที่คนก็แทบจะเดากันได้อยู่ละ แต่หนังก็จัดเต็มความเข้มข้น ทั้งคาแรคเตอร์พระเอกแบบน้า Cage บวกกับตัวเอกสไตล์แบดๆ อย่างปู่ Connery ที่อยู่ในมือของผู้กำกับสายแอคชั่นเอาใจตลาดแบบ Michael Bay แล้ว มันเลยกลายเป็นหนังแอคชั่นสุดมันส์อีกเรื่องที่คอหนังแอคชั่นยุค 90s จะต้องหลงรัก และตรงจริตกับคอหนังที่ชอบ Con Air, Face/Off หรือ Speed กันแบบสุดๆ

  • สายหนังแอคชั่นยุค90
  • สายหนังแอคชั่นสูตรสำเร็จ

รีวิว / สรุปเนื้อหา

The Rock น่าจะเป็นหนังอีกเรื่องที่หลายๆ คนต่างก็ยกให้เป็นหนังที่ดีที่สุดของผู้กำกับสายแอคชั่นระเบิดระเบ้อ อย่าง Michael Bay เลยก็ว่าได้ เพราะด้วยสไตล์หนังแอคชั่นแบบยุค 90 นั้นคืออะไรที่เหมาะกับพี่แกเหลือเกิน (แต่พอมาอยู่ในยุคนี้ หลายๆ เรื่องก็ดูเชยเหมือนปรับตัวมาไม่ทัน) ทั้งๆ ที่พล็อตเรื่องก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากนัก แต่คงเป็นความเข้มข้นอัดแน่นไปด้วยจังหวะการเดินเรื่องที่ปูมาดี รวมไปถึงมิติของตัวละครที่น่าติดตามโดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝั่งตัวร้าย ที่ปูมาให้ทั้งปมและปัญหาที่มาก่อนที่จะตัดสินใจก่อการร้ายในครั้งนี้ ก็น่าจะเป็นส่วนที่นำพาให้หนังมาถึงจุดที่คนชอบได้ไม่ยาก

อีกส่วนที่สร้างสีสันให้กับหนังได้ดี ก็คือการจับคู่ตัวเอกอย่างปู่ Sean Connery และ Nicolas Cage ที่เคมีเข้ากันได้เป็นอย่างดี ด้วยความที่คนนึงก็เป็นพระเอกสายบุ๋นที่แสนดี ส่วนอีกคนก็เป็นสไตล์ Antihero นักโทษเก่าแต่มือเก๋าถึงขนาดแหกคุก Alcatraz มาได้ ก็ทำให้เราสามารถเอาใจเชียร์กับภารกิจของพวกเขาได้เป็นอย่างดี และสนุกไปกับความต่างระหว่างสองรุ่นในการจิกกัด หักหลังกันตลอดทาง จนเป็นอีกเสน่ห์อย่างหนึ่งของหนังเลยก็ว่าได้

ด้วยองค์ประกอบที่ว่าทั้งหลาย เลยเปรียบเสมือนกับการแข่งทำอาหารที่ใช้วัตถุดิบที่เหมือนกัน แต่ด้วยฝีมือการปรุง และเติมรสชาติให้เด็ดกว่าเจ้าอื่นๆ ก็ทำให้มันออกมารสชาติอร่อยกว่า และกลมกล่มกว่าได้อย่างน่าสนใจ ด้วยความเฉพาะตัวของคนปรุงอย่าง Michael Bay ที่เอาเอกลักษณ์ของความแอคชั่นของตัวเอง ที่รู้จังหวะหนัก จังหวะผ่อน ก็ปรับโทนออกมาได้ดี ไปจนถึงฉากไคลแม็กซ์ก็เลยไปได้สุด แล้วยิ่งได้เสด็จพ่อ Hans Zimmer มาเป็นคนทำ Music ให้อีก มันยิ่งเสริมหนังเข้าไปใหญ่ และกลายเป็นอีกสกอร์โคตร Epic ที่ติดหูคนมาจนถึงทุกวันนี้ได้อีกด้วย

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • Sean Connery บอกกับทาง Producer ว่าเขาขอที่พักเอาไว้ที่ Alcatraz (คุกในเรื่อง) เพราะไม่อยากเดินทางจากในเมืองข้ามมาถ่ายที่เกาะทุกวัน แล้วเขาก็ดันได้ซะด้วยสิ
  • รอบพรีเมียร์ของหนังเรื่องนี้ถูกจัดขึ้นที่ Alcatraz เพื่อให้เข้ากับ Theme ในหนังซะด้วย
  • ผู้กำกับ Michael Bay บอกว่า จริงๆ แล้วบทหนังที่ถูกเขียนขึ้นมานั้นมีโทนจริงจังและตึงเครียดกว่าตัวหนังที่ออกมามากๆ แต่คนที่มาเขียนบทเสริมให้ระหว่างถ่ายทำก็คือ Aaron Sorkin (ที่มีผลงานดีๆ มากมายมาจนถึงยุคนี้) มาปรับจูนบทให้กลมกล่อมขึ้นในแบบที่หนังออกมา