Prey (2022)

เพรย์

Prey Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

ของดีที่ไม่ควรพลาด โหด ดิบเถื่อน มันส์มากๆเข้าขั้นเลือดสาด โดยเฉพาะฉากแอ็คชั่นนี่แหละที่ออกแบบได้สนุกฉิบหาย

หมวดหมู่ : Action Sci-Fi
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Dan Trachtenberg
ความยาว : 1 ชั่วโมง 39 นาที
นักแสดงนำ : Amber Midthunder, Dakota Beavers, Dane DiLiegro

คำคมจากภาพยนตร์

"I'm Smarter Than A Beaver."
"ฉันฉลาดกว่าบีเวอร์"

เรื่องย่อ

หนังพูดถึงเรื่องราวในช่วงปี 1719 ช่วงเวลาที่โลกยังคงเป็นยุคล่าอาณานิคม นารู หญิงสาวจากขนเผ่าโคแมนชีที่ต้องการจะพิสูจน์ตัวเองในฐานะนักล่าของชนเผ่า อยู่ดีๆเธอพบรอยเท้าประหลาดในป่า ปรากฏว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่น่ากลัวหลบซ่อนอยู่ในเงามืดและมันน่ากลัวอันตรายและมีอาวุธทำลายล้างที่รุนแรงกว่าที่เธอเคยพบมา

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Prey เป็นหนังแอ็คชั่นที่โคตรเดือดมาก มีกลิ่นอายจากหนังเวอร์ชั่นปี 1987 พล็อตเรื่องเล่าในมุมมองผ่านตัวละครผู้หญิงอยู่ในยุคอินเดียแดง และการล่าอาณานิคมของชนผิวขาวที่เริ่มมารุกล้ำดินแดนมากขึ้น ซึ่งมันก็มีประเด็นให้พอพูดถึงได้มากมาย ทั้งในด้านตัวเอกหญิงและการยอมรับ การเป็นชนกลุ่มน้อยต่างๆ นานา และพอโยน Predator ลงไป สิ่งที่ได้มันก็คือความเดือดดาลที่ทำออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ เพราะไม่ใช่แค่มนุษย์ที่ย้อนยุค แต่ Predator เองก็มีเทคโนโลยีที่ยังไม่เหนือชั้นมากด้วย (แต่ก็ยังถือว่าเทพอยู่ดี) มันเลยออกมาได้ฉากไคลแม็กซ์ที่ค่อนข้างทรงพลังไม่แพ้ภาคไหนๆ เลยทีเดียว ไม่แปลกใจที่คนจะชื่นชอบกันมากๆ

  • สายหนังต่างดาวบุกโลก
  • สายหนังแอ็คชั่นไซไฟ
  • สายหนังบู๊สายเดือด

รีวิว / สรุปเนื้อหา

เนื้อหากลับมาอยู่สิ่งที่ควรจะเป็นอีกครั้ง ว่ากันง่ายๆคือโทนแบบยุค 80 กลับมาเหมือนเดิม หนังพูดถึงการไล่ล่าที่ยุคนั้น สัตว์ตัวใหญ่ไล่ล่าสัตว์ตัวเล็กกว่า ชนเผ่าไล่ล่าสัตว์ป่า คนใช้อาวุธฆ่าสัตว์ตัวใหญ่ และ Predetor ฆ่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ขว้างหน้า ยุคสมัยก่อนถ้าหากอยากเป็นใหญ่อยากมีชีวิตรอดก็ต้องฆ่าเท่านั้น ยุคสมัยก่อนชนเผ่า นักล่าอาณานิคมเป็นแบบนั้น พล็อตเรื่องทำให้หนังมีมิติ เปิดเรื่องได้น่าสนใจให้คนดูได้เข้าใจเนื้อหาของตัวละครนารู และ Predator ตัวละครที่แสนจะอันตรายและมีความโหดร้ายกว่าคนปกติที่ยากจะเอาชนะไปได้ ชอบการวางพล็อตเรื่องที่ใช้ตัวละครเอกเป็นผู้หญิงนำเรื่องราว เพราะยุคสมัยก่อนผู้หญิงไม่ได้รับการยอมรับ และตัวนารูเองก็เผชิญหน้ากับคำดูถูกในสังคมที่เธออยู่ แม้ว่าจะมีไหวพริบดีแค่ไหน ก็คงไม่มีทางไม่มีวันเป็นนักล่าที่ดีได้แน่ ซึ่งตรงนี้ทำออกมาได้ดีทำให้เห็นภาพคำว่าชายเป็นใหญ่ได้แบบชัดเจน ทั้งที่เธอแข็งแกร่งกว่าที่ใครๆคิด

นอกจากประเด็นตัวละครหญิง การดิ้นรนการเอาตัวรอดแล้ว นักล่าและคำว่าผู้ถูกล่า สิ่งที่ทำออกมาได้โคตรโดนใจนั้นคือฉากแอ็คชั่นนี่แหละ ความยาวหนัง 90 นาทีเศษๆแต่หนังกลับมอบความบันเทิงได้เรียกว่ามีเยอะแยะเต็มไปหมด นารูเอาตัวรอดจากมันสมองสัญชาติยานมากกว่าเรื่องพละกำลัง เจอช่วงวิกฤติแค่ไหนเธอก็เอาตัวรอดได้ ฉากเดือดๆลุ้นระทึกสามารถเอาคนดูอยู่ ไม่ต้องคาดเดาอะไรมาก แต่ละฉากที่ปล่อยออกมาโหดเดือดสะใจเหมือนธีมหนังในยุค 80 เลย Disney ไฟเขียวทำออกมาให้ดาร์คๆเข้าขั้นเลือดสาดพุ่งกระฉูดทั่วไปหมด ความดิบเถื่อนของหนังทำให้คนดูเข้าใจง่ายๆ การวางเฟรมภาพการต่อสู้กันโดยเฉพาะซีนของนารู คือแบบไม่เว่อไม่หลอกตา ไม่แปลกใจที่นักวิจารณ์หัวแถวชื่นชมชื่นชอบหนังเรื่องนี้จนเทใจยกให้หนังดีสุดในแฟรนไชส์

ส่วนนักแสดงนำคงต้องยกความดีความชอบให้ Amber Midthunder อาจนักแสดงสมทบในหนังเกรด B หญิงสาวเม็กซิกันที่เคยร่วมงานในหนังแอ็คชั่นกับลุง Liam ใน The Ice Man ถูกปรับลุคให้กลายเป็นชนเผ่าสาวที่ดิ้นรนต่อสู้กับคำว่าชายเป็นใหญ่คำดูถูกจากชนเผ่าตัวเอง และกลายเป็นนักล่าที่มีเสน่ห์ ทุกๆฉากที่เธอปรากฏตัวคือเราต้องลุ้นเอาใจช่วยเธอตลอดเวลาจะเอาตัวรอดจากซีนนี้ยังไง สีหน้าแววตาท่าทางเธอมีเสน่ห์มากๆ คือการแสดงในเรื่องไม่ได้ปล่อยหมัดเด็ดแค่ฉากแอ็คชั่น แต่ยังพูดถึงแง่มุมที่เธอเป็นคนมีทักษะในการเอาตัวรอดมากกว่าใช้กำลัง และเป็นนักล่าที่ช่วยเหลือผู้คนมีความรู้เรื่องสมุนไพร ไม่เห็นแก่ตัวเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เธอถ่ายทอดบทบาทนี้ออกมาได้น่าประทับใจ ว่าง่ายๆคือหนังใหญ่เรื่องแรกสอบผ่านไปเลยจ้า

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • แม้ว่าจะเป็นพี่น้องกันใน Prey แต่ Amber Midthunder อายุมากกว่า Dakota Beavers นักแสดงที่รับบทเป็นพี่ชายของเธอมากถึง 3 ปี
  • น้องหมาจอมขโมยซีน ใน Prey มีชื่อจริงๆว่า Coco และทุกฉากที่น้องแสดง ไม่ได้มีการซ้อม เล่นจริงๆล้วนๆ เพราะน้องซุกซนมากๆ
  • หนังไม่ได้ฉายโรง เพราะผู้กำกับอยากให้หนังดีๆลงสตรีมมิ่ง ทุกคนสามารถเอนจอยหนังฟอร์มยักษ์ที่บ้านได้
  • Dane DiLiegro คนที่รับบท Predator เคยเป็นนักบาสเก็ตบอลอาชีพ และผันตัวมารับงานแสดง