![](https://kodungmovie.com/wp-content/uploads/2021/04/Enemy-1.jpg)
Enemy of the State (1998)
แผนล่าทรชนข้ามโลก
![Enemy of the State Poster](https://kodungmovie.com/wp-content/uploads/2021/04/The-Enemy-of-the-State-1.jpg)
คะแนน
โกดังหนัง
บันเทิงสุดระทึกสไตล์หนังจารชน ศึกชิงไหวชิงพริบที่มีชั้นเชิง ลุ้นสนุกไปกับหนัง แม้จะไม่มีฉากแอคชั่นเลย
คำคมจากภาพยนตร์
“Well, who’s gonna monitor the monitors of the monitors?”
“งั้นใครล่ะ ที่จะเป็นคนที่คอยสอดส่อง คนที่สอดส่องคนที่คอยสองส่องอีกที?”
เรื่องย่อ
เมื่อรัฐบาลกำลังพยายามผ่านกฏหมายที่อนุญาตให้รัฐดักฟังประชาชน แต่มี ส.ส. คนหนึ่งที่พยายามจะคัดค้าน เลยถูกเจ้าหน้าที่รัฐฆ่าทิ้ง แต่แล้วกลับมีคนถ่ายเหตุการณ์การอำพรางศพเอาไว้ได้ และเทปเจ้ากรรมดันบังเอิญตกไปอยู่ในมือของ ดีน ทนายดวงซวย เขาเลยกลายเป็นเป้าหมายต่อมาในการจับตามองของรัฐ ว่าเขาจะทำอะไรกับคลิปวิดีโอนี้ จนทำให้เขาต้องใช้ไหวพริบในการเอาตัวรอดจากการตามจับของหน่วยงานที่แทบจะติดตามเขาได้ทุกอย่าง
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ Enemy of the State นั้น ไม่เพียงแค่เหมาะกับคอหนังสายทริลเลอร์ธรรมดาทั่วไปเท่านั้น แต่ยังตั้งคำถามถึงอำนาจของรัฐที่จะเข้าถึงสิทธิเสรีภาพของประชาชนในด้านต่างๆ เข้ามาด้วย จนเสริมให้เนื้อเรื่องและเรื่องราวนั้นมีความเข้มข้นมากขึ้นไปอีก จนทำให้หนังเรื่องนี้สร้างสรรค์ความระทึกชวนลุ้นให้กับคนดูได้แบบนั่งไม่ติดเก้าอี้ โดยที่ไม่ต้องเน้นฉากแอคชั่นมากมาย ซึ่งใครชอบหนังสไตล์พระเอกที่ต้องหนีๆ บวกกับประเด็นเข้มๆ เช่นนี้แบบ The Fujitive หรือ U.S. Marshalls แล้วนี่คืออีกเรื่องที่ต้องดูเลยจริงๆ
- สายหนังทริลเลอร์ยุค90
- สายหนังไล่ล่าสุดระทึก
- สายหนังเสียดสีรัฐบาล
รีวิว / สรุปเนื้อหา
หนังที่ตั้งคำถามเรื่องของการที่รัฐเข้าถึงข้อมูลของประชาชนแบบมาก่อนกาล จากการขยี้ประเด็นสิบแรงมือด้วยมือของผู้กำกับอย่าง Tony Scott ที่โดยปกติแล้วเขามักทำหนังแอคชั่นในแบบตลาดๆ มากกว่าผู้พี่อย่าง Ridley Scott แต่เรื่องนี้ต้องยอมรับเลยว่าเป็นอีกผลงานที่ยอดเยี่ยมมาก และกลายเป็นผลงานที่เราชอบมากที่สุดของเขาแล้ว ด้วยความที่หนังเรื่องมันปรับลดระดับความเป็นแอคชั่นลงมา และเน้นไปโทนจารชนไล่ล่าแทน ประกอบกับการยัดประเด็นหนักๆ ที่วิจารณ์ถึงการทำงานของรัฐที่ดูจะเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพ ก็ยิ่งลงตัวกับหนังแนวของเขาได้ดีจริงๆ
![](https://kodungmovie.com/wp-content/uploads/2021/05/Enemy-3-1024x536.jpg)
เพราะตัวหนังสะท้อนถึงความซวยของตัวละครเอกอย่าง ดีน ที่ต้องเผชิญ ถ้าหากว่ารัฐนั้นสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทั้งหมดจริงๆ นั้นจะเกิดอะไรขึ้น และเราก็จะเห็นได้ว่า ขนาดในยุคนั้นยังสามารถติดตามในทุกฝีก้าวขนาดนี้ ถ้าเป็นยุคนี้จะมีความน่ากลัวขนาดไหน นั่นคือจุดประสงค์จริงๆ ที่หนังต้องการทำให้เราเห็น ผ่านทางการไล่ล่าระหว่างหน่วยงานกับ ดีน ที่ปรากฏอยู่ในเวลา 2 ชั่วโมงกว่า ที่แม้ว่าจะมีฉากแอคชั่นไม่มาก แต่ก็ทำเอาคนดูต้องลุ้นไปกับชะตากรรมของตัวละครจนแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ ซึ่งยังดีที่มาดกวนๆ ของ วิล สมิธ ยังช่วยดึงโทนหนังให้มีอารมณ์ขันเข้ามาได้บ้าง
![](https://kodungmovie.com/wp-content/uploads/2021/05/Enemy-1-1024x536.jpg)
จนทำให้แม้ว่าหนังจะเป็นสไตล์จารชนแบบสูตรสำเร็จ แต่ด้วยตัวพล็อตเรื่องที่เหนือชั้นในยุคนั้น ประกอบกับจังหวะการดำเนินเรื่องไล่ล่าที่ชวนลุ้น และวัดกันด้วยการชิงไหวชิงพริบ ที่ดูมีชั้นเชิง แก้ทางกันพอดู และอาศัยการวางมุมกล้องสไตล์ตามติดตัวละครแบบไกลๆ เสมือนว่าถูกจับตามองอยู่ตลอด ซึ่งการที่หนังประเด็นหนัก แต่กลับทำออกมาได้แมสเช่นนี้ ก็คงเป็นเพราะได้ Producer ของหนังอย่าง Jerry Bruckheimer ที่ชื่อนี้การันตี คุณภาพความบันเทิงแบบมันส์ๆ ดูง่าย เข้าถึงง่ายกันอยู่แล้ว มันเลยกลายเป็นหนังแนวไล่ล่า เสียดสีรัฐบาลในยุค 90s ที่โคตรสนุก และอยากแนะนำมากๆ อีกเรื่องเลย
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- เดิมทีบท ดีน ของ Will Smith นั้นควรจะเป็นของ Tom Cruise แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธไปเพราะติดการถ่ายหนังเรื่อง Eyes Wide Shut ของผู้กำกับ Stanley Kubrick อยู่ ในส่วนของ Will Smith นั้น ก็ยอมเล่นหนังเรื่องนี้โดยการลดค่าตัวลงมา เพราะอยากเล่นกับ Gene Hackman
- สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ หรือ NSA นั้นปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือในการถ่ายหนังเรื่องนี้ จากการที่มีการพาดพิงในทางที่ไม่ดีในหนัง