Gone In 60 Seconds (2000)

60วิ รหัสโจรกรรมอันตราย

Gone In 60 Seconds Poster
7/10

คะแนน
โกดังหนัง

งานแอ็คชั่นสุดมันส์ ปล้นรถในเวลาอันรวดเร็ว ยุคทองของ Nicolas Cage อย่างแท้จริง ฉากซิ่งรถโคตรฟินอะดรีนาลีนพุ่งพล่านเต็มที่ หนังความเร็วที่มาก่อนกาล

หมวดหมู่ : Action Crime
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Dominic Sena
ความยาว : 2 ชั่วโมง 2 นาที
นักแสดงนำ : Nicolas Cage, Angelina Jolie, Giovanni Ribisi

คำคมจากภาพยนตร์

"I just stole fifty cars in one night! I'm a little tired, a little *wired*, and I think I deserve a little appreciation!"
"ผมขโมยรถห้าสิบคันในคืนเดียว! ผมเหนื่อยนิดหน่อย ยืดเส้นยืดสาย นิดหน่อย และผมคิดว่าฉันสมควรได้รับคำชื่นชมสักหน่อย!"

เรื่องย่อ

เมมฟิส เรนส์ ยอดนักขโมยรถระดับตำนาน พวกคลั่งรถขนานแท้ ไม่ว่าคุณจะใช้ล็อคหรือสัญญาณกันขโมย หรือแม้แต่ตัวล็อคพวงมาลัย คุณมั่นใจได้เลยว่า รถของคุณจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยภายใน 60 วินาทีอย่างแน่นอน! เมมฟิส เอาตัวรอดจากเงื้อมมือของกฎหมายไปได้ พร้อมกับขโมยรถทุกยี่ห้อ ทุกรุ่นมาหลายปี แต่เพียงเขาตัดสินใจหันหลังให้กับโลกอาชญากรรม เขากลับต้องหวนกลับไปทำ ในสิ่งที่เขาถนัดที่สุดอีกครั้งหนึ่ง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือการขโมยรถ ครั้งยิ่งใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย 50 คัน ต่อคืนเพื่อเพื่อแลกชีวิตน้องชายของเขากับพวกมาเฟีย

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Gone In 60 Seconds จัดเป็นหนังแอ็คชั่นที่คอคนรักรถยนต์ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง งานโจรกรรมพี่ชายช่วยน้องที่ปล้นรถ 50 คันภายในเวลา 1 คืน พล็อตว้าว มันสนุกตรงที่แฟนๆจะได้ลุ้นระทึกกับเทคนิคชั้นเซียนกับการงัดวงจรรถยนต์และฉกออกมาแบบเนียนๆ  ไม่มีรถแต่ง ฉากแอ็คชั่นสนุกฉากซิ่งฉากไล่ล่าเป็นอะไรที่มันส์อร่อยเหาะ แฟนหนังที่โหยหางานปล้นผสมผสานกับความเร็วเรื่องนี้คือ 1 หนังชั้นยอดในยุค 2000 ที่ประสบความสำเร็จในแง่ของรายได้ เรียกว่าถ้าชอบ Fast & Furious ยุคแรกๆแนะนำให้ดูเรื่องนี้ไปเลยไม่ผิดหวัง

รีวิว / สรุปเนื้อหา

มีคนบอกว่าถ้าชอบหนังเรื่องไหน แล้วถ้ากลับมาดูอีกครั้ง ความรู้สึกจะเปลี่ยนไป เรื่องนี้ก็เหมือนกัน 20 ปีก่อน หนังปล้นอาชญากรรมเรื่องนี้ทำได้น่าสนใจมากๆ ปล้นรถยนต์คงไม่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่ถ้าปล้นรถ 50 คันในเวลา 1 คืน นี่คือต้องเป็นทีมงานมหาโจรฝีมือจัดจ้านจริงๆ ในตอนนั้นที่ดูการเสพหนังสไตล์แบบนี้คือหนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์โดยเฉพาะ และยิ่งยุคสมัยที่ยังไม่มีสื่อบันเทิงในวงการ มันยิ่งเป็นหนังโจรกรรมที่สนุก โจรปล้นรถชื่อดังอำลาวงการแต่จำใจกลับมารับงานเพื่อช่วยน้องชายเพราะไม่มีทางเลือกมาก สิ่งที่หนังทำได้ดีคือการดีไซน์ฉากแอ็คชั่น ที่กลุ่มนักลักรถกลุ่มนี้ทำงานได้รวดเร็ว งัดทะลวงวงจรสัญญาณกันขโมยทุกรูปแบบและฉกรถกลับออกมาแบบเงียบโดยไม่มีใครรู้ตัว ตำรวจดมกลิ่นไม่เจอ และไม่มีร่องรอย

บทหนังไม่มีอะไรมากก็แค่ช่วยเหลือน้องชาย แต่พอกลับมาดูใหม่อีกรอบกลับรู้สึกว่า หนังเองก็เน้นจุดประสงค์หลักคือ ขโมย 50 คัน ในเวลาจำกัดแค่นั้น และขาย Nicolas Cage โดยเฉพาะในเวลานั้นเขาคือพระเอกแถวหน้าของวงการที่ขยับอะไรหนังเรื่องนั้นก็ทำเงินถล่มทลายตลอดเวลา ฉากแอ็คชั่นที่มันส์สะใจ ซาวด์ประกอบ ที่บิ้วอัพได้อารมณ์ทุกครั้งเวลามีฉากขโมยรถ การตัดต่อหนังรวดเร็วกระชับ ขายพาร์ทดราม่าพี่ช่วยน้องชาย ที่ชอบที่สุดคือซีนการขับรถไล่ล่าไปทั่ว Long Beach, California ที่ซีนนั้นการซิ่งรถ Ford Shelby Mustang GT500 หรือ เอลีนอร์ เป็นอะไรที่โคตรเท่ห์และเผลอๆอาจจะดีกว่า Dominic Toretto หัวหน้าครอบครัวด้วยซ้ำ นึกภาพง่ายๆคือโจรฝีมืองัดรถขั้นเทพแล้ว แต่ลีลาการซิ่งก็ดีไม่แพ้กันปั่นป่วนตำรวจทั้งเมืองได้ ซีนมันส์ๆก็คงหนีไม่พ้นฉากกระโดดข้ามข้ามสะพานวินเซนต์โธมัส ไม่มีอะไรเว่อร์ๆแต่ทุกอย่างในหนังเรื่องนี้เน้นการถ่ายทำจริง และหลายๆฉาก Nicolas Cage ก็เล่นเองหมด หนังวางมุมกล้องได้สวยเฟรมภาพที่ออกมาเลยโคสอัพใกล้ชิดกับนักแสดงได้เต็มที่

หนังตั้งใจปั้น Nicolas Cage โดยเฉพาะทำให้เรารู้สึกว่าตัวละครอื่นแทบเป็นตัวประกอบบทบาทไม่ได้สำคัญอะไรมากหนัก พี่ชายคัมแบ็คช่วยน้องงัดสกิลขโมยรถอย่างแยบยล ทั้งที่คนมาเล่นก็บิ๊กเนมทั้งนั้น ทั้ง Angelina Jolie, Robert Duvall, Will Patton, Delroy Lindo, , Giovanni Ribisi, Christopher Eccleston และ Timothy Olyphant ชายหนุ่มที่ปฏิเสธบท Dom ในเวลาต่อมาไม่เข้าครอบครัว Fast

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ฉากซิ่งข้ามสะพานเป็นฉากเดียวที่ Nicolas Cage ไม่ขับรถด้วยตัวเอง ต้องใช้สตั๊นแมน
  • ตอนเข้าฉายโรงหนังทำเงินอันดับหนึ่งในบ็อกซ์ออฟฟิศ เอาชนะ Mission: Impossible 2 ได้