Doctor Strange (2016)

จอมเวทย์มหากาฬ

Doctor Strange Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังฮีโร่ที่มาด้วยความแปลกใหม่แหวกทุกธรรมเนียบ MCU งานภาพ Visual คือสิ่งที่ดีงานสุดในแฟรนไชส์ เนื้อหาช่วงแรกเปิดเรื่องราวได้น่าติดตาม มันบันเทิงมาก มุกตลก ฉากแอ็คชั่น ถือว่าใช้ได้ ผ่านการแสดงที่ยอดเยี่ยมของดาราที่มีคุณภาพ แม้ว่าบทหนังจะอ่อนทำมาตามสูตรเกินไป

หมวดหมู่ : Action Adventure Hero
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Scott Derrickson
ความยาว : 1 ชั่วโมง 55 นาที
นักแสดงนำ : Benedict Cumberbatch, Mads Mikkelsen, Rachel McAdams

คำคมจากภาพยนตร์

"Time will tell how much I love you"
"เวลาจะบอก ฉันรักคุณมากแค่ไหน"

เรื่องย่อ

สตีเฟ่น สเตรนจ์ ศัลยแพทย์มากฝีมือ ซึ่งหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่น่าเศร้า ทำให้เขาต้องปล่อยวางอัตตา และศึกษาความลับของโลกเวทย์มนต์ที่ซ่อนอยู่ รวมไปถึงเรียนรู้การมีอยู่ของอีกมิติ ที่กรีนนิชวิลเลจ ในกรุงนิวยอร์ก ด็อกเตอร์ สเตรนจ์ ต้องทำตัวเป็นสื่อกลางระหว่างโลกแห่งความจริง กับสิ่งที่อยู่ไกลออกไป นอกจากนี้เขายังต้องใช้ความสามารถด้านเวทย์มนต์ และเครื่องรางต่าง ๆ เพื่อปกป้องจักรวาล Marvel อีกด้วย

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Doctor Strange จัดเป็นหนังฮีโร่ Marvel ที่ดูง่ายเดินเรื่องราวตามสูตรของค่าย ปูเรื่องราวฮีโร่คนใหม่บอกที่มาที่ไป คนไม่อ่านคอมมิคเรื่องนี้ไม่ใช่แฟนเดนตายของ MCU ก็ดูแล้วเข้าใจได้ไม่ยาก หน้าหนังเน้นความสนุกสนานที่มาของคุณหมอผ่าตัดอนาคตไกลร่ำรวยมั่นใจในตัวเอง แต่พอชีวิตพลิกผันเขากลายเป็นคนที่สิ้นหวัง จากคนไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์แต่ต้องมาฝึกฝนเพื่อเป็นจอมเวทย์ให้มือกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง เรื่องราวจึงดูได้กับกลุ่มคนทั่วไปแม้ว่าภาคแรกอาจจะจืดชืด

  • สายหนัง Marvel
  • สายหนังฮีโร่
  • สายหนังไซไฟ

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ถ้าหากมองย้อนกลับไปพูดถึงหนังภาคแรกที่ได้ผู้กำกับภาคแรก Scott Derrickson มือดีจากหนังสยองขวัญต้นทุนต่ำ น่าเสียดายตรงที่ว่าไอเดียวิธีคิดของเขาไม่ได้ถูกนำมาใช้ กลิ่นอายภาคแรกเน้นที่มาที่ไปของการเป็นฮีโร่ของคุณหมอเรียนดีรวยมากความสามารถ ชีวิตที่มีพร้อมมันทุกอย่าง แต่ทุกอย่างพังทลายเพราะความประมาทอุบัติเหตุของตัวเอง ทำให้ชีวิตที่กำลังรุ่งๆ กลายเป็นว่ามือที่ใช้ผ่าตัดคนไข้ใช้งานไม่ได้ สตีเฟ่น หมดเงินรักษาไปเพื่อหวังว่าจะมีวิธีที่จะกลับมาใช้ชีวิตเป็นปกติแต่ทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่หวัง คนท้อแท้สิ้นหวัง แม้แต่คนใกล้ตัวก็ยังผลักไส้ไล่เธอออกไป เหมือนคนที่ชีวืตกำลังดีๆแล้วเหมือนโดนฟ้าผ่า แต่อยู่ดีๆเขาก็เดินทางไปหาความจริง เรื่องที่มีคนกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ ที่ Kamar-Taj ในเนปาล จากคนที่เชื่อมั่นในตัวเองสูง อีโก้มาก ไม่ฟังอะไรใคร ไม่หลงเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ เขาใช้วิชาความรู้ความเป็นคนหัวดี เข้าใจโลกมากขึ้นเปิดรับสิ่งใหม่ๆ

หนังพูดถึงคนที่ไม่เชื่อมุมมองในอีกโลกหนึ่ง แต่อยู่ดีๆก็เปิดใจพัฒนาตัวเองละทิ้งอคติแบบเดิมๆไป เพราะถ้าไม่ทำแบบนี้เขาก็จะมีชีวิตแบบเดิมๆ ความเป็นคนหัวดี บวกกับสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงมุมมองเขาไปตลอดกาล การฝึกฝนอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่สตีเว่น เข้าใจชีวิตเข้าใจโลกมากขึ้น การได้เป็นจอมเวทย์แบบไม่ตั้งใจ ทำให้จากเดิมที่เป็นหมอรักษาคนไข้ เวลานี้เขากลายเป็นคนที่ต้องใช้พลังปกป้องผู้คนและชีวิตเขาก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป หนังสร้างสรรค์เรื่องราวที่น่าพอใจ อาจจะไม่ได้ดีมากๆ เหมือนเทียบกับหนังฮีโร่ MCU เรื่องอื่นๆ แต่สิ่งที่ถูกทดแทนเข้ามาคือไอเดียวิธีคิดการเล่าเรื่องผ่านตัวละครที่พบเจอเหตุการณ์ที่บีบบังคับให้เขาต้องเลือกทางเดิมใหม่ ละทิ้งกรอบเดิมๆ งานสร้าง CGI คือจุดขายเลย องค์ประกอบหวือหวามาก ตั้งแต่ฉากเปิดเรื่อง การหยิบเรื่องราวฮีโร่ยุคเก่ามาสอดรับกับเรื่องราวในโลกยุคใหม่ทำได้ไม่มีเฉย ฉากแอ็คชั่นทำได้เหมือนดั่งอยู่ในโลกคอมมิคยังไงยังนั้น

ส่วนนักแสดงนำ Benedict Cumberbatch กลายเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องทุกข้อ ชายชาวบริทติชจากซีรีส์ Sherlock สุขุมเยือกเย็น ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะอินกับบทบาทหมอแปลกถึงขึ้นซื้อคอมมิคมาอ่านเอง แต่งชุดไปร้านหนังสือ สร้างบรรยากาศทำให้เพื่อนร่วมงานอิน ป๋า Ben ถ่ายทอดความเป็นตัวละครนี้ออกมาได้ดีเกินความคาดหมายพาหนังไปได้ไกล ผ่านการแสดงที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าบทหนังอาจธรรมดาไปเถอะนะ จากตัวละครที่มีแทบทุกอย่างพอชีวิตพังมันเปลี่ยนมุมมองวิธีคิดของตัวละครนี้, Chiwetel Ejiofor ลูกศิษย์ที่มีความเชื่อแต่เมื่อเจอความจริงมุมมองความคิดเปลี่ยนไปกลายเป็นคนโลภทะเยอทะยานขึ้นมา, Mads Mikkelsen วายร้ายหลักที่มาแบบเต็มที่ทุกคาแรกเตอร์ไม่แปลกใจที่เขาคือดาราคุณภาพ, Tilda Swinton ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เห็นเธอขึ้นจอยักษ์หนังสเกลแบบนี้ แต่เธอก็ทำได้ตามคุณภาพที่เธอมี Benedict Wong มาแบบนิ่งๆในภาคแรกก่อนจะปล่อยของในภาค 2 และ Rachel McAdams หญิงสาวผู้เป็นรักแรกและรักเดียวของเขา นางเล่นดีนะแก ชอบไปเลยจ้า

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • Benedict Cumberbatch เกือบไม่ได้เป็นหมอแปลก เพราะติดเล่นละครเวที
  • Joaquin Phoenix ปฏิเสธบทหมอแปลกไปเพราะเขาไม่อยากเซ็นสัญญาระยะยาวเพื่อเป็นการผูกมัดตัวเอง
  • Benedict Cumberbatch แต่งคอสตูมจอมเวทย์ไปซื้อคอมมิค Doctor Strange ในระหว่างถ่ายทำ
  • Tilda Swinton ยอมรับว่าตัดสินใจผิดพลาดมารับเล่นหนังเรื่องนี้