Jackass: the Movie (2002)

รวมทีมสตั๊นท์พันธุ์สตึ

Jackass: the Movie Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

ถ่ายทอดการเล่นพิเรนท์ ผ่านพฤติกรรมสุดเถื่อน ถ่อย ห่าม สถุล ในฉบับ The Movie
สู่ความฮาโคตรบ้า หวาดเสียวเต็มที่ และเจ็บปวดแทนบรรดาคนในเรื่อง

หมวดหมู่ : Action Comedy Documentary
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Jeff Tremaine
ความยาว : 1 ชั่วโมง 27 นาที
นักแสดงนำ : Johnny Knoxville, Bam Margera, Chris Pontius

คำคมจากภาพยนตร์

“If you’re going to be dumb, you better be tough.”
“ถ้าไหนๆ ก็จะโง่แล้ว ก็ควรต้องอึดด้วยนะ”

เรื่องย่อ

จากรายการสุดฮิตของ MTV ที่รวมวีรกรรมสุดห่าม ของทีมสตั๊นท์พันธุ์บ้าที่มีชื่อว่า Jackass นำทีมโดย John Knoxville สู่ฉบับ The Movie ที่พวกเขาแต่ละคนก็ยังคงสรรหากิจกรรมต่างๆ ที่มาสร้างความเจ็บตัว ชวนหวาดเสียว และแกล้งคนอื่นแบบแรงๆ กันต่อไป

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Jackass: The Movie นั้น ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนโลกสวย หรือไม่ชอบหนังไร้สาระ เพราะตลอดเวลา 87 นาทีของเรื่อง มันคือความไร้สาระในแบบที่หาแก่นสารอะไรไม่ได้เลย นอกจากมาดูกลุ่มคนที่มาทำอะไรพิเรนท์ๆ ในแบบที่เราไม่กล้าทำกัน พวกเขาจึงกลายเป็นเหมือนตัวแทน ที่จะทำในสิ่งที่เราอาจจะแค่อยากเห็นและขำไปกับมัน โดยไม่ขอมีส่วนร่วมด้วย ถ้าใครที่ชอบหนังสไตล์ห่ามๆ บ้าๆ บอๆ หรือการแกล้งคนอย่างรายการสาระแนที่เดือดกว่าแล้ว Jackass จะสามารถมอบวันความบันเทิงให้กับวันว่างของคุณได้เป็นอย่างดี

  • สายหนังตลกไร้สาระ
  • สายหนังทีมสตันท์ทำอะไรบ้าๆ
  • สายหนังตลกแบบเจ็บตัว

รีวิว / สรุปเนื้อหา

สำหรับคนที่ชอบดูรายการที่พวกบ้าๆ มาทำกิจกรรมห่ามๆ ด้วยกันแล้ว คงไม่มีมีใครไม่รู้จัก Jackass รายการชื่อดังของทาง MTV อย่างแน่นอน ด้วยการรวมทีมสตั๊นท์แมนระดับสติแตกเอาไว้หลายคน เลยทำให้ไอเดียในการสร้างสรรค์ความเจ็บตัวของพวกเขาจึงออกมาสร้างความบันเทิงเป็นอย่างมาก ด้วยการฉายติดต่อกันถึง 3 ซีซั่นในปี 2000 – 2002 ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างดีในอเมริกา จนกระทั่งมาถึงฉบับ The Movie ที่พวกเขาการันตีว่าไปสุดกว่าเดิมแน่นอน

ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ด้วยการที่ มันไม่ต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัดของ Rate ในทีวีอีกต่อไป และนำมาสู่ Rate R ในฉบับภาพยนตร์ฉายโรงอย่างเต็มสูบ ทำให้ในหลายๆ วีรกรรมของพวกเขาจึงทวีความบ้าขึ้นอย่างเต็มขั้น เช่น การเอาลูกจรเข้มางับหัวนมตัวเอง, การเดินข้ามบ่อจรเข้ด้วยเชือกเส้นเดียว, การปลอมตัวเป็นคนแก่ไปขโมยของในร้านขายของ หรือนักรถเข็นไปตะลุยเมือง, เอารถกอล์ฟมาขับแบบวิบากจนวินาศ เป็นต้น

แม้ว่าวีรกรรมในภาคนี้ของพวกเขาจะเหนือกว่าของที่เคยอยู่ใน MTV และเรียกเสียงหัวเราะได้มาก แต่ทั้งนี้มันก็ยังไม่ได้พิเรนท์ขั้นสุด ในแบบที่ภาคหลังๆ ที่ตามออกมาได้ทำ เพราะพวกนั้นทำออกมาได้เหนือขั้นกว่าจริงๆ ทั้งความเจ็บกว่า อุบาทว์กว่า และบ้ากว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาค Jackass 3D ที่ไปได้สุดจนต้องปรบมือให้พวกเขาจริงๆ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับในภาคนี้ ก็นับว่าเป็นภาคแรกของ The Movie ที่ทำออกมาได้สนุก เพลิดเพลิน และเรียกเสียงหัวเราะคลายเครียดได้สุดๆ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ตัวหนังใช้ต้นทุนไปเพียง 5 ล้านเหรียญเท่านั้น (ที่เหลือคือต้นทุนในความเจ็บตัวทางทีมงาน 555+) แต่แค่สัปดาห์เปิดตัวก็ทำรายได้ไปแล้วถึง 22 ล้านเหรียญ แถมรายได้ตลอดกาลฉายยังมาถึงประมาณ 80 ล้านเหรียญ ซึ่งนับเป็นประมาณ 16 เท่าของต้นทุนเลยทีเดียว
  • ในตอนแรกนั้น หนังเกือบจะเป็นแผนรีไทร์ของทีม Jackass ที่จะมาบ้าส่งท้ายกันแล้ว แต่สุดท้ายแล้วด้วยความสำเร็จและการตอบรับที่ดีของแฟนๆ ก็ส่งเอาภาคต่อออกมาอีก แถมยังบ้าสุดกว่าเดิมมากๆ