เรื่องย่อ

ดร.ลิลี่ ฮัฟตัน เดินทางจากลอนดอนสู่ป่าอะเมซอน ว่าจ้าง กัปตันแฟรงค์ วูล์ฟ ไกด์นำเที่ยวจอมแสบให้เป็นผู้นำทางในการล่องแม่น้ำโดยเรือคู่ใจของเขาที่แม้สภาพจะโคลงเคลง แต่เธอมุ่งมั่นที่จะตามหาต้นไม้ในตำนานที่มีความสามารถในการรักษาเพื่อนำพลังนี้มาใช้พัฒนาการแพทย์ในการผจญภัยครั้งนี้ทั้งสองจะต้องเผชิญกับอันตรายที่ไม่คาดฝันจากสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติ

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Jungle Cruise กลายเป็นหนังที่เหมาะสำหรับคนดูแบบครอบครัวที่ดูได้ทุกเพศทุกวัย หนังมาในรูปแบบแอ็คชั่นเน้นการผจญภัยสไตล์คล้ายๆ Indiana Jones แต่เนื้อหาดูผ่อนคลายเป็นมิตรกับทุกๆคน ออกไปในทาง Feelgood ด้วยซ้ำไปบรรยากาศหนังมาในแบบ Disney โดยเฉพาะเลยเติมเต็มแฟนหนังอมยิ้มได้ตั้งแต่ต้นจนจบ

• สายหนังแอ็คชั่นผจญถัย
• สายหนัง Disney
• สายหนังครอบครัว

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ตอนดูจบบอกเลยว่ามีความสุขมาก ไม่คิดว่าจะได้ดูอะไรดีๆแบบนี้ หนังพกพาสูตรสำเร็จที่หนังที่ดีควรจะมี การเล่าเรื่องที่ไม่ต้องปูพื้นหลังเยอะแยะแค่หาจังหวะลงตัวให้ตัวละครมาพบกัน ฉากผจญภัยสวยๆ สถานการณ์ที่คู่พระนางต้องไปตะลุยป่าอะเมซอน มุกตลกอารมณ์ขัน ซีนเซอร์ไพรส์ที่เล่นคนดูคาดไม่ถึง วายร้ายตัวแสบที่ลุคดูไร้สาระ แต่ปรากฏตัวแล้วแสบสันสร้างความวุ่นวายให้ตัวละครหลัก แถมคู่พระนางก็ได้ถกเถียงกันอย่างสนุกปาก อารมณ์เหมือนดูซิตคอม กลายเป็นโรแมนติกที่ดูกันได้ทั้งคอบครัวทุกเพศทุกวัย ภาพหน้าปกหนังดูธรรมดาเน้นขาย The Rock ที่ไหนได้มันดูเพลินตามีสีสันตลอดทั้งเรื่อง

ตัวละครแฟรงค์ที่รับบทโดย The Rock เป็นไกด์นำเที่ยวที่ดูไม่น่าไว้ใจเจ้าเล่ห์ สร้างภาพเหลี่ยมจัด แต่สถานการณ์นำพาให้เขามาเจอกับนักผจญภัยหญิงที่ต้องการนำต้นไม้ในตำนานไปช่วยเหลือคน ทำให้เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองและพร้อมจะสู้เคียงข้าง ดร.ลิลี่ ฮัฟตัน บรรยากาศหนังเลยมีความฟีลกู๊ดไม่ต้องเล่นใหญ่มีตัวละครเยอะ ขอแค่เน้นการเล่าเรื่องที่ตื่นเต้นก็พอ เราเลยได้ดูฉากสวยๆตะลุยป่าอะเมซอน โปรดักชั่นเยี่ยมเหมือนพาเราเข้าไปในบราซิลยังไงยังนั้นเลย หนังขับเคลื่อนด้วยเคมีระหว่างคู่พระนาง Emily Blunt ดูน่ารักมาก ไม่ได้เห็นการแสดงที่ไม่ซีเรียสมานานแล้ว ดูแล้วหรรษา ลำพังนางสวยอยู่แล้ว พอมาเล่นหนังผจญภัยเลยดูแปลกใหม่ ส่วน The Rock พอไม่ได้เล่นหนังบู๊มาจับหนังสไตล์นี้รู้สึกว่าผ่อนคลายมาก

อีกจุดหนึ่งที่ชื่นชมคือหนังไม่ได้แค่เน้นผจญภัยล่องเรืออย่างเดียว แล้วปล่อยให้ผู้ชมได้ดูคู่พระนาง แต่เนื้อหายังสอดแทรกประเด็นความต่างทางเพศลงไปด้วย บทบาทสมทบน้องชายนางเอก ที่เขาเป็น LGBT ยุคสมัยก่อนผู้ชมแอนตี้ต่อต้านอย่างหนักมองว่ากลุ่มคนแบบนี้แปลกประหลาดทั้งที่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดไม่ได้ทำร้ายใครเลยสักนิดเดียว แต่ที่โดนเพราะแค่ไม่เป็นที่ต้องการจากสังคม เราคิดว่า Jack Whitehall ตีความตรงนี้ได้ดี นอกจากนี้หนังยังสื่อสารให้เราได้เห็นถึงความโลภของคน คนบางประเภทอยากได้เงินเพื่อความอยู่รอด คนบางกลุ่มอยากได้อำนาจอยากได้รับการยอมรับ คนอีกกลุ่มอยากช่วยเหลือคน หนังแจกแจงบริบทของตัวละครได้พอเหมาะพอเจาะ ทำให้ตลอด 2 ชั่วโมงเรารู้สึกฟินมาก คิดไม่ผิดที่ไปตีตั๋วดูเรื่องนี้