coverMad Max- Fury Road

Mad Max: Fury Road (2015)

แมด แม็กซ์ ถนนโลกันตร์

Mad Max: Fury Road Poster
10/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังแอคชั่นที่โคตรเดือด โคตรมันส์ ระดับปรอทแตก แถมงานโปรดักชั่นยังจัดเต็มตระการตามาก

หมวดหมู่ : Action Adventure
สัญชาติ : American
กำกับโดย : George Miller
ความยาว : 1 ชั่วโมง 46 นาที
นักแสดงนำ : Tom Hardy, Charlize Theron, Nicholas Hoult

คำคมจากภาพยนตร์

"My name is Max. My world is fire. And blood."
“ชื่อของผมคือ แม็กซ์ โลกของผมลุกเป็นไฟ... และเลือด”

เรื่องย่อ

แม็กซ์ ร็อคกาแทนสกี้ อดีตตำรวจที่ลูกเมียโดนแก๊งอันธพาลสุดป่าเถื่อนฆ่าตาย เลยใช้ชีวิตแบบไร้จุดหมายในโลกที่ล่มสลายนี้ จนกระทั่งวันนึงเขาก็ถูกลูกสมุนของ อิมมอร์ทัล โจ จับตัวไป เพื่อไปถ่ายเลือดให้กับบรรดา วอร์บอย ลูกน้องของ โจ เลยทำให้เขาได้มาพบกับ ฟูริโอซา ผู้บัญชาการสุดเท่ที่มีภารกิจพา 5 สาวสวย ที่เป็นทาสของ โจ หลบหนีออกมา แต่งานนี้ก็ไม่ง่าย เมื่อ โจ ก็ส่งบรรดาเหล่าสมุนออกมาตามล่าในทันที จนกลายเป็นเส้นทางไล่ล่าสุดเดือดที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน เลย

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Mad Max: Fury Road นั้นจะเหมาะกับคอหนังแอคชั่นกันแบบ 100% เพราะกว่า 95% ของหนังนั้นเต็มไปด้วยฉากบู๊จัดๆ และมีความหลากหลายเต็มที่ ทั้งฉากน้อย ใหญ่ ก็ล้วนแต่สร้างความตื่นเต้นตระการตาได้หมด อีกทั้งจังหวะดนตรีอันแสนเร้าใจ ที่อัดกันมาแบบไม่ให้คนดูได้พัก ก็น่าจะทำให้คอหนังแอคชั่นรู้สึกฟินกันสุดระดับ Max กันไปเลย หากใครชอบหนังแอคชั่นขับรถไล่ล่าตระกูล Fast an Furious แล้ว บอกเลยว่าหนังชุดนั้นจะชิดซ้ายกันไปเลย เมื่อเจอ Mad Max: Fury Road เพราะมันยกระดับความสนุกไปอีกหลายขั้นเลย

  • สายหนังหลังโลกล่มสลาย
  • สายหนังโลกดิสโทเปีย
  • สายหนังแอคชั่นมันส์ระห่ำ

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ด้วยความที่ Mad Max: Fury Road เป็นหนังที่ได้ผู้กำกับคนเดิมอย่าง George Miller ที่ปั้นภาคแรกให้โด่งดังมาแล้วเมื่อปี 1979 ที่ตอนนั้นได้ดาราดังในยุคนั้นอย่าง Mel Gibson มารับบทของ Max ซึ่งมาจนถึงภาค Fury Road นี้ ก็เสมือนเป็นการรีบู้ทติดเครื่องกันใหม่แบบยกชุด แต่พลังของหนังที่มียังคงเหลือล้น และเต็มเปี่ยมไปด้วยความมันส์แบบระดับชิบหายวายวอดได้ยิ่งกว่าเดิมไปอีก ทั้งที่จริงแล้วพล็อตเรื่องของหนังก็มีง่ายแสนง่าย นั่นก็คือทีมตัวร้ายไล่ล่าทีมตัวเอก กันตลอดเส้นทางถนนทะเลทรายเท่านั้นเอง

แต่ด้วยความที่ฉากมันออกแบบมาได้ดี มีความอลังการงานสร้าง ตัวรถแต่ละคันก็มีลูกเล่นที่ชวนตื่นตา ทำให้งานศิลป์และการดีไซน์ต่างๆ ในหนังเรื่องนี้ออกมาดีงามแบบสุด ๆ (ชนิดที่ว่ามีการทำเวอร์ชั่นขาวดำออกมา งานภาพก็ยังสวยไปอีกแบบอย่างน่าทึ่ง) ทั้งการเสพทั้งงานภาพและเสียงที่ทั้ง Mix ทั้งตัดต่อไปอย่างดี เหมาะกับการรับชมในโรง หรือดูบน Home Theartre ที่กระหึ่ม น่าจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมได้เป็นอย่างมาก เสมือนเป็นการเสพงานศิลป์จากทุกโสตประสาทได้เป็นอย่างดี จนอยากที่จะแคปฉากเหล่านี้เอาไว้อยู่หลายฉาก เพราะมันสามารถเอามาทำเป็น Wallpaper สวยๆ ได้เยอะมากๆ

การกลับมาใหม่ของ Mad Max ในครั้งนี้ แม้จะเป็นผู้กำกับรุ่นเก๋าคราวคุณปู่ แต่ทุกสิ่งในเรื่องก็ปรับตามให้ทันยุคสมัยอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นประเด็น Feminist พลังหญิงเข้าไป โดยมี ฟูริโอซา เป็นตัวนำที่อาจจะดูเด่น หรือน่าจดจำมากกว่าตัวเอกอย่าง แม็กซ์ เองเสียอีก รวมถึงบรรดาแก๊ง 5 สาวที่หนีออกมานั้น ต่างก็ใช้สกิลเอาชีวิตรอดกันอย่างเต็มที่ จนคนดูไม่มีโอกาสได้ก่นด่าว่ากล่าวว่าตัวละครไร้ประโยชน์เลย แถมตัวละครอื่นๆ ของหนังก็ยังถูกเติมมิติเข้าไปให้เป็นสีเทา มากกว่าที่จะยัดเยียดได้ว่าคนนี้เป็นคนดี หรือเป็นคนเลว ก็ทำให้ Mad Max เวอร์ชั่นนี้ เป็นการกลับมาที่สมศักดิ์ศรีเป็นอย่างมาก และเต็มไปด้วยพลังงานเหลือล้น จนผู้กำกับหนังแอคชั่นรุ่นหนุ่มหลายๆ คงต้องอายกันไปเลยทีเดียว

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • แม้จะเป็นหนังแอคชั่นจ๋า แต่มันก็สร้างปรากฏการณ์อันแสนยิ่งใหญ่ด้วยการพาตัวเองเข้าชิงรางวัล Oscar ถึง 10 รางวัล และกวาดรางวัลสายงานศิลป์ ทั้งตัดต่อทำเสียง คอสตูม แต่งหน้า งานโปรดักชั่น เรียกได้ว่ามงลงหมดจนไม่ต้องแปลกใจเลย
  • ผู้กำกับ George Miller ทำ Mad Max ภาคแรกเอาไว้ เมื่อตอนอายุ 34 ปี ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จแล้ว แต่พอมาทำภาคนี้ด้วยวัย 70 ปี แถมกวาดรางวัลมาขนาดนี้ นับเป็นอีกพลังคุณปู่ที่บ้าดีเหลือเกิน
  • George Miller ให้ภรรยาของเขา Margaret Sixel เป็นคนทำการตัดต่อหนังเรื่องนี้ให้ เมื่อเธอถามว่าทำไมถึงเลือกเธอ ทั้งๆ ที่ไม่เคยตัดต่อหนังแอคชั่นมาก่อน เขาตอบกับภรรยาของเขาว่า “ก็ถ้าให้ผู้ชายเป็นคนทำอีก มันก็คงออกมาเหมือนๆ กับหนังแอคชั่นเรื่องอื่นๆ ทั่วๆ ไป” แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง เมื่อ Sixel ได้รับรางวัลออสการ์สาขาตัดต่อยอดเยี่ยมมาครอง