Watchmen (2012)

ศึกซูเปอร์ฮีโร่พันธุ์มหากาฬ

Watchmen Poster
9.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังฮีโร่ที่มีความเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร และเต็มไปด้วยความมืดหม่น บนความเข้มข้นที่ผ่านวิสัยทัศน์สุดดาร์คของผู้กำกับ Zack Snyder

หมวดหมู่ : Action Drama Mystery
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Zack Snyder
ความยาว : 2 ชั่วโมง 42 นาที
นักแสดงนำ : Jackie Earle Haley, Patrick Wilson, Carla Gugino

คำคมจากภาพยนตร์

“Once you realize what a joke everything is, being the Comedian is the only thing that makes sense.”
“เมื่อใดที่คุณเริ่มตระหนักว่าทุกสิ่งมันช่างเป็นเรื่องตลก การเป็นนักแสดงตลก ก็เป็นสิ่งเดียวที่ดูสมเหตุสมผลแล้ว”

เรื่องย่อ

อเมริกาในปี 1985 ในยุคแห่งสงครามเย็นที่มีความตึงเครียดระหว่างอเมริการ และสหภาพโซเวียต วันหนึ่ง The Comedian หนึ่งในสมาชิกของทีม Watchmen ได้ถูกฆ่าตายอย่างเป็นปริศนา จนเรื่องมาถึง Rorshach ชายภายหน้ากาก จึงต้องเริ่มสืบหาต้นสายปลายเหตุที่ทำให้เพื่อนของเขาต้องจบชีวิตเช่นนี้ แต่เมื่อเริ่มสืบลงไปก็ได้พบแผนสมคบคิดที่ใหญ่กว่าที่เขาคาดเอาไว้ และดูเหมือนว่าสมาชิกในทีม Watchmen เองก็มีส่วนรู้เห็นกับการตายนี้อยู่เหมือนกัน

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Watchmen นั้นไม่เหมาะแน่ๆ กับคนที่กำลังมองหาหนังซูปเปอร์ฮีโร่แบบมันส์ๆ ดูเพลินๆ สักเรื่อง ตามสไตล์ของค่าย Marvel เพราะ Watchmen ไม่มีสิ่งที่คุณตามหาอย่างแน่นอน แต่ในทางกลับกันถ้าหากคุณต้องการหนังฮีโร่สายดาร์ค ที่มีประเด็นสุดเข้มข้นให้ได้ขบคิดระหว่างรับชม รวมถึงรับได้กับความรุนแรง โหดร้าย และฉากเซ็กส์ต่างๆ นานาแล้ว นี่คือหนังที่อยากมอบไว้ติดลิสท์ที่ต้องดูเลย เพราะมันมีแทบทุกอย่างที่หนังสายดาร์คๆ ต้องการอย่างแน่นอน ใครที่ชอบหนังฮีโร่ประเด็นหนักๆ อย่าง The Dark Knight หรือ V for Vendetta ที่มีกลิ่นอายประเด็นการเมืองแล้ว ต้องดู Watchmen ตามไปด้วย

  • สายหนังฮีโร่สุดดาร์ค
  • สายหนังฮีโร่เรท R
  • สายหนังแอคชั่นการเมือง

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หนังซุปเปอร์ฮีโร่แบบสายดาร์ค ที่มีความเฉพาะตัวแบบไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน เพราะในฉากหน้าฮีโร่ของพวกเขา กลับเต็มไปด้วยพฤติกรรมอันเลวทรามและมีความโสมมอยู่เบื้องหลัง จนยากที่จะสามารถเรียกพวกเขาว่าฮีโร่ได้อย่างเต็มปาก ด้วยวิสัยทัศน์สุดล้ำของผู้กำกับที่มีชื่อว่า Zack Snyder ที่มักมีงานด้านภาพ และวิธีการเล่าเรื่องอันเป็นเอกลักษณ์ก็ช่างเข้ากันได้ดีกับหนังฮีโร่สุดดาร์คเรื่องนี้ เพราะด้วยงานภาพ ความมืดหม่น และความรุนแรงที่ทำออกมาก็ช่วยเสริมเรื่องราวให้กับตัวหนังได้เป็นอย่างมาก 

แม้จะขึ้นชื่อว่าหนังฮีโร่แต่ฉากแอคชั่นกลับมีน้อยนิด เพราะเรื่องราวถูกขับเน้นด้วยประเด็นต่างๆ รวมไปถึงเรื่องการเมืองระหว่างประเทศที่ใส่ลงมาในหนังได้อย่างเข้มข้นถึงใจ จนไม่ต้องมีฉากแอคชั่นก็สร้างความรู้สึก มันส์ ชวนติดตามให้กับหนังได้เป็นอย่างดี ตลอดช่วงเวลา 160 นาที ของหนังจึงล้วนเต็มไปด้วยบทสนทนาคมๆ ชวนคิดตาม ในเรื่องของอุดมการณ์ที่แตกต่างกันของตัวละครในเรื่องแต่ละตัวที่มีเหตุและผลที่ชัดเจนเป็นของตัวเอง จนยากที่จะทำให้เราเชียร์ หรือเชื่อใครได้อย่างเต็มที่ เพราะแนวคิดของแต่ละคนก็มีเหตุผลที่ดีในแบบของตัวเองอยู่เหมือนกัน

ทำให้ Watchmen ไม่เพียงแต่เป็นหนังฮีโร่ที่มีความน่าสนใจแค่เพียงความเป็นตัวฮีโร่ปะทะเหล่าร้ายเท่านั้น แต่การใส่ความเป็นมนุษย์ปุถุชนลงไปให้ทุกตัวละครเป็นสีเทา ก็ทำให้มันกลายเป็นหนังที่มีความมสมจริงและหนักแน่นมากขึ้นในการเล่าเรื่อง จนเรียกได้ว่าเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่สายดาร์คดีๆ อีกเรื่องที่หาหนังมาเลียนแบบได้ยาก ด้วยวิสัยทัศน์และเทคนิคเฉพาะตัวของ Zack Snyder ก็เลยทำให้มันกลายเป็นหนังฮีโร่ชั้นดีในสมัยนั้น ที่มีแต่หนังฮีโร่สดใสไมไ่ด้ใส่ประเด็นอะไรเข้ามาเลยด้วยซ้ำ หากใครที่ชอบมากๆ ก็สามารถจัดเต็มฉบับไดเรคเตอร์คัทความยาว 3 ชัวโมง 6 นาทีให้เต็มอิ่มกันได้ แต่ส่วนตัวขอแนะนำฉบับ Theatrical ฉายในโรงก็ถือว่าดีพอแล้ว

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • หากสังเกตให้ดีจะพบว่า ธงอเมริกาในหนังเรื่องนี้จะมีดาว 51 ดวง จากปกติที่ควรมีแค่ 50 เพราะเนื้อหาในเรื่องนั้น ทางอเมริการชนะในสงครามเวียดนาม เลยเอาเวียดนามมาเป็นอีก 1 รัฐด้วยซะเลย ทั้งที่ความจริงเป็นสงครามที่สร้างความสูญเสียให้กับอเมริกาเป็นอย่างมาก
  • ตอนที่ตัวอย่างหนังเรื่องนี้ออกเป็นครั้งแรกจากการฉายปะหน้า หนังของฮีโร่ DC อย่าง The Dark Knight ก็สร้างความปังเป็นอย่างมาก จนถึงขนาดที่ผู้คนออกมาตามหาซื้อนิยายภาพของ Watchmen กันอีกครั้งจนขายดีติดอันดับ Best Selling จนกระทั่งขายหมดจนขลาดแคลนเลยทีเดียว