Pineapple Express (2008)

วุ่นแล้วตู จู่ๆ ก็โดนล่า

Pineapple Express Poster
7.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังสายเมาที่ทำเอาทั้งฮา ทั้งเดือด ตลกด้วยโทนจริงจัง ใครอินสายมะกันน่าจะต้องชอบ

หมวดหมู่ : Action Comedy Crime
สัญชาติ : American
กำกับโดย : David Gordon Green
ความยาว : 1 ชั่วโมง 51 นาที
นักแสดงนำ : Tom Hardy, Charlize Theron, Nicholas Hoult

คำคมจากภาพยนตร์

"I wish I had a job like that. Where I could just sit around and smoke weed all day"
“ฉันอยากที่จะมีงานแบบนั้นบ้างจัง งานที่สามารถนั่งเรื่อยเปื่อยดูดกัญชาทั้งวัน”

เรื่องย่อ

เดล เดตัน ชายสายเขียวที่มาบ้านของ โซล ซิลเวอร์ พ่อค้ายาในเมือง เพื่อมารับกัญชาเพิ่ม แต่ด้วยความที่ เดล เป็นลูกค้าประจำ โซล จึงเสนอกัญชาตัวใหม่เกรดพรีเมี่ยมที่มีชื่อว่า “Pineapple Express” มาให้ลอง ระหว่างออกเดินทางเขาแวะจอดรถเพื่อดื่มด่ำกับสินค้าตัวใหม่ แต่ก็เกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นมาเสียก่อน เมื่อ เดล นั้น กลายเป็นพยานในเหตุการณ์ฆาตกรรมที่คนร้ายดันเป็นตำรวจเลวขึ้นมา ด้วยความตื่นตระหนกตกใจเลยทำให้เขาพลาดทำกัญชาตัวแรร์นี้ตกเอาไว้ ทำให้ เดล ต้องรีบกลับไปบอก โซล ถึงความผิดพลาดครั้งนี้ และเตรียมหนีตายกันจากสถานการณ์สุดวายป่วง

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Pineapple Express จะเหมาะกับคนที่ชอบแนวตลกร้ายแบบดาร์คๆ ที่ไม่ใช่ตลกโปกฮากันเพียงอย่างเดียว เพราะมุขในหนังส่วนมากนั้นเป็นตลกด้วยบทพูดและสถานการณ์ ที่อาจต้องเข้าใจวัฒนธรรมอเมริกันอยู่สักหน่อย ถ้าชอบความวายป่วงอะไรแบบนี้จะสนุกไปกับหนังได้มาก อีกทั้งตัวหนังยังติดเรทซะด้วย ไม่ว่าจะเป็นทั้งจากยาเสพติด ความรุนแรง และคำหยาบคายเต็มหมด ใครที่ชอบหนังสไตล์แบบ Superbad, Knocked up หรือคอหนังสไตล์ Judd Apatow ทั้งหลาย คิดว่าน่าจะชอบหนังเรื่องนี้กันได้ไม่ยากเลย

  • หนังตลกสายเขียว
  • สายหนังตลกร้าย
  • สายหนังตลกสไตล์ Judd Apatow
  • สายหนังเสื่อมติดเรท

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หนังสไตล์แก๊งขี้ยาอีกเรื่องที่ทำออกมาได้สนุกไม่น้อย ด้วยพล็อตแสนวายป่วงของตัวละครที่เมาสุดฤทธิ์ แต่ต้องมาหนีการตามล่า มันเลยเอาไปสร้างสรรค์มุขตลกระหว่างทางได้มากมาย และมีอะไรชวนหัวเราะได้ทั้งเรื่อง ด้วยความตลกของมันนั้นไม่ใช่ความตลกจ๋า ในแบบที่จะรีดเค้นเสียงหัวเราะจากคนดูตลอดเวลา แต่จะให้เราตลกไปกับสถานการณ์ และบทพูดสุดประหลาดจากความเมาในเรื่องมากกว่า และในแต่ละฉากที่เปลี่ยนแปลงไป ก็มักมีมุขจากสถานการณ์ใหม่ๆ ให้กับคนดูอยู่เสมอ

อีกทั้งมันยังเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมอเมริกันอยู่มาก อาจทำให้หลายคนไม่ฮา และไม่เก็ตกับอะไรในเรื่องได้เหมือนกัน ถ้าหากไม่ได้เข้าใจ American Pop Culture หรือเข้าใจสังคมในแบบนั้น แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาที่น่าห่วงเท่าไร เพราะหนังยังมีทีมดาราสายฮา มาช่วยเสริมจังหวะมุขได้ดีในหลายจังหวะ จนเรียกได้ว่าบางทีเห็นหน้าพวกเขา ก็ฮากันไปก่อนแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่พวกเขาเมากัญชาเคลิ้มๆ แล้วทำวีรกรรมสุดวายป่วงแล้วนี่ยิ่งชวนฮากันเข้าไปใหญ่เลย

จากบทหนังของ Seth Rogen และทีมสร้างโดย Judd Apatow ก็ทำให้เราเดาโทนหนังได้ไม่ยาก เพราะตัว Judd เองก็ชอบทำหนังตลกสไตล์ฉลาดๆ อยู่แล้ว ส่วน Seth ก็ช่วยเสริมเรื่องความมันส์ เมา กาวเข้าไปอีก ทำให้ทั้งเรื่องจึงเต็มไปด้วย ความเพี้ยน งี่เง่า บ้าบอ และตัวละครที่ตัดสินใจอะไรโง่ๆ อยู่ทั้งเรื่อง (ทั้งหมดนี้คือคำชม) อีกส่วนที่น่าสนใจของหนังก็คงเป็นในเรื่องของคาแรคเตอร์ตัวละคร และความสัมพันธ์ระหว่างกันที่ดูรักกันมาก พร้อมช่วยเหลือกันตลอด ก็เป็นส่วนที่ทำให้เราอยากเอาใจช่วยตัวละครได้ดี โดยรวมจึงทำให้มันเป็นอีกหนึ่งหนังสายเขียวที่หลายๆ คนชอบ และเป็นที่รู้จักในวงกว้างได้จริงๆ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ไม่เพียงแค่หนังเท่านั้นที่กาวชวนเมา แต่นักแสดงในเรื่องก็ไปได้สุดเหมือนกัน เพราะ James Franco ในบทพ่อค้ายาเรื่องนี้ ก็เล่นซะเยิ้มจนได้เข้าชิงลูกโลกทองคำ สาขา Best Performance by an Actor in a Motion Picture - Comedy or Musical ทั้งๆ ที่ในเรื่องเขาไม่ได้สูบมันจริงๆ
  • Seth Rogen ที่เป็นทั้งนักแสดงและคนเขียนบทของเรื่อง เคยขอทุนสร้างที่ 50 ล้านเหรียญ แต่ได้มาแค่ 25 ล้านเหรียญ เพราะหนังเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมากเกินไป