Not Friend (2023)

เพื่อน(ไม่)สนิท

Not Friend Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

ชูมิตรภาพของคำว่าเพื่อนได้ลึกซึ้งกินใจ ซุกซ่อนหมัดเด็ดเอาไว้เพียบมีดีกว่าในตัวอย่าง ดูจบแล้วคุณอาจนึกถึงเพื่อนที่ไม่สนิทในชีวิตจริงๆ

หมวดหมู่ : Drama
สัญชาติ : Thai
กำกับโดย : Atta Hemwadee
ความยาว : 2 ชั่วโมง 3 นาที
นักแสดงนำ : Anthony Buisseret, Pisitpol Ekaphongpisit

คำคมจากภาพยนตร์

"พวกมึงต้องมีเพื่อนสักคนเว้ย ที่ตอนนี้ไม่ได้เจอแล้ว แต่ตอนที่พวกมึงอยู่ด้วยกัน มันเป็นคนที่รู้จักมึงดีที่สุด"

เรื่องย่อ

เป้ เด็กหนุ่มม.6 ที่เจอสถานการณ์กดดันจากที่บ้านต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ไม่อย่างนั้นต้องมาทำงานสานต่อธุรกิจที่บ้าน เขาเป็นเด็กที่เรียนไม่เอาไหน จนกระทั่งพบหนทางเข้ามหาลัยคือการทำหนังสั้นส่งผลงานประกวด เขาได้ค้นพบว่าควรทำหนังซึ้งๆเพื่อจะได้ชนะใจกรรมการเลยหยิบเรื่องสั้นของโจ เพื่อนไม่สนิทที่เขานั่งข้างๆมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราว แต่เป้ ทำหนังไม่เป็นไม่มีความรู้อะไรเลย และสุดท้ายก็ได้รับความร่วมมือจากเพื่อนแปลกหน้ามาร่วมโปรเจ็คนี้

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ เพื่อน(ไม่)สนิท เป็นหนังดราม่ารักเพื่อนที่เหมาะกะับสังคมวัยรุ่นยุคนี้อย่างแท้จริงๆ ที่เล่าเรื่องและหลอมรวมเรื่องราวผ่านมิตรภาพของกลุ่มคนที่ไม่สนิทกัน เรียนรู้เข้าใจกันผ่านการทำหนังสั้นก็เป็นไอเดียที่เข้าที่เข้าทางมาก บทหนังเองก็มีดีมากกว่าที่คิดเอาไว้จากตัวอย่าง และเนื้อหาของหนังมีลูกล่อลูกชนที่ดี ที่ไม่ได้บอกที่มาที่ไปของตัวละครได้แบบชัดเจน ไม่มีประเด็นไหนที่ค้างคาใจ ถือว่าเป็นงานที่ได้ใจโดนเส้นเด็กยุคนี้หรือกลุ่มคนที่ฝันทำหนังแน่ๆ

 

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ในทีแรกหนังโดนสบประมาทว่าไอเดียซ้ำซากจำเจ แม้กระทั่งชื่อเรื่อง แต่หนังแทบไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับงานเก่าๆของ GDH หรือ GTH เดิมเลย ตรงข้ามผู้กำกับมีแพชชั่นร้อยเรียงเรื่องราวออกมาได้แยบยบ ถ้าเปรียบเป็นมวยก็คือค่อยๆต่อยๆไปทีละนิด แล้วค่อยๆปล่อยหมัดเด็ดออกมา จุดเชื่อมโยงของหนังคือกลุ่มเด็กม. 6 ที่ไม่ได้สนิทอะไรกันเลย ไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ แต่มาร่วมกลุ่มทำหนังสั้นเพื่อเพื่อนที่เสียชีวิต ช่วงแรกของหนังเกริ่นนำได้น่าสนใจ ผ่านความสัมผัสของเป้ เด็ก Loser คนหนึ่งที่ดูจะสิ้นหวังเป็นคนแย่ๆจากที่บ้านและย้ายโรงเรียนใหม่ บรรยากาศแปลกหน้าและมาเจอเพื่อนใหม่ที่พูดมากช่างคิดช่างพูด หนังเลยได้สัมผัสตัวละครโจ เพื่อนไม่สนิท ผ่านมุมมองของเป้ คนแปลกหน้าที่แอบอ้างว่าเป็นเพื่อนซี้เพื่อจะทำหนังสั้น ความสนุกของหนังคือการพูดถึงการค้นหาความชอบของตัวเองในชีวิตม.6 ซึ่งเป้ ไม่มีอะไรสักอย่าง แต่ระหว่างทางเขากลับสนุกไปกับการทำหนัง ได้รู้จักตัวเอง ได้ทำงานกับคนแปลกหน้ามากขึ้น ได้เรียนรู้ชีวิตได้เรียนรู้สังคม หนังสอดแทรกซีนการทำหนังที่ดูแล้วก็หรรษาทีเล่นทีจริง หยอกล้อได้บันเทิง แน่นอนว่าเป้ เริ่มเข้าใจคำว่ามิตรภาพที่แท้จริง จนเขากล้าเปิดใจกับคนรอบข้าง

ช่วงครึ่งแรกของหนังมันบันเทิงมาก เพราะกิจกรรมทำหนังสั้นมันอาจจะไปตรงจริตใครสักคนที่ต้องมีกิจกรรมที่ทำแบบสุดโต่งตอนสมัยเรียนม.ปลาย และอาจเติมเต็มเติมฝันให้ใครหลายๆคนที่ฝันอยากเป็นผู้กำกับได้ฉุกคิดว่าสิ่งแรกที่อยากเป็นนักทำหนังเพราะเราเติบโตความชอบมาจากการดูหนังมันเลยทำให้พล็อตหนังสามารถประติดประติดเรื่องราวไปจนถึงจุดพลิกผัน ความขัดแย้งที่ตัวละครที่ต้องเผชิญ หนังบอกให้เราได้รู้ว่าคนไม่ได้สนิทกัน บางคนมีจุดประสงค์ที่ปิดบังไม่กล้าพูด ตัวละครหลักก็เป็นแบบนั้น จนไม่กล้าแบกรับความจริง หวาดกลัว หัวใจหลักของหนังคือเพื่อนที่เสีย กับการทำหนังสั้น แต่ระหว่างหลายๆสิ่งหลายอย่างเปลี่ยนไป ชอบที่หนังค่อยๆเฉลี่ยเรื่องราวออกมาทีละนิด ทุกตัวละครก็มีมุมมองห่วยๆมีมุมมองที่เห็นแก่ตัว เพียงแค่ไม่ยอมรับความจริง บางคนปกปิดเพื่อเอาตัวรอด โดยที่ทำลายความรู้สึกของอื่นและบางครั้งมันก็ยากที่จะให้อภัย บางคนก็สร้างภาพให้ตัวเองดูดีปกปิดเรื่องเทาๆเอาไว้ พาร์ทการทำหนังสั้นมันสนุกมากเพราะมันทำให้คนที่มีฝันอยากเรียนภาพยนตร์ได้เห็นเลยว่า นอกจากฝันที่ต้องลงมือทำจริงจังแล้ว แพชชั่นความชอบมันเป็นสิ่งสำคัญ ไม่แพ้กัน

บทบาทการแสดงของน้องๆชุดนี้ คนที่มี Impact กับเรื่องคือตัวละครโจที่แสดงโดย พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ ที่โผล่มาทุกครั้งสามารถส่งผลกระทบต่อทุกตัวละครในเรื่องทุกคน ตัวแทนของคนที่มองโลกในแง่บวก สนุกสนานเฮฮา มีความตั้งใจที่อยากจะสานฝันทำโน่นทำนี่ เป็นคนที่ขับเคลื่อนเรื่องราวให้คนห่วยๆอย่าง เป้ ได้ลองออกจากพื้นที่ตัวเองได้มองหาเพื่อนใหม่ๆได้ทดลองทำหนัง ได้กล้าเผชิญหน้ากับคำว่ามิตรภาพ การเข้าฉากของทั้งคู่ทำให้เห็นว่าเพื่อนจะสนิทหรือไม่สนิท ถ้าเข้าใจกัน ให้เกียรติกันมันก็เพียงพอแล้ว อีกคนที่ชอบมากคือ ฟลุ๊ค ธนกร ติยานนท์ ตัวละครที่มารับเป้ในหนังสั้นตัวฮาที่มักสร้างสีสันเป็นระยะ แม้ว่าหนังจะดูเพลิดเพลินแต่ยอมรับตรงๆว่า ซาวด์ประกอบหนังหรือฉากซึ้งมันวนลูปเดิมของ GDH ซีนดราม่าบิ้วอารมณ์มันบ่งบอกชัดเจนเลยว่าหนังเองยังคงอยู่ในกรอบเดิมๆของหนังวัยรุ่นทั้งที่ไอเดียตั้งต้นของผู้กำกับเล่าออกมาได้ดีมากๆแล้ว มันเลยทำให้จุดนี้เองมันติดขัด

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • แรงบันดาลใจมาจากเพื่อนที่ไม่สนิทของผู้กำกับที่เสียชีวิตไปตอนม.3. ที่อัสสัมชัญศรีราชา
  • หนังเรื่องแรกที่ "บาส" นัฐวุฒิ พูนพิริยะ จากฉลาดเกมส์โกงนั่งแท่นโปรดิวเซอร์หนังเต็มตัว