Aftersun (2022)

อยากให้อยู่นานกว่านี้

Aftersun Poster
8.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

เป็นหนังที่มาแบบเหนือความคาดหมายโดนใจกว่าที่คิด บทหนังพาไปสัมผัสชีวิตคนที่เรามักชอบโหยหาอดีตโหยหาความเป็นเด็กซนๆ ตลอดทั้งเรื่องนำเสนอความสัมพันธ์ของพ่อลูกที่ลึกซึ้งกินใจ Message คมคายมากๆ คอหนังสายรางวัลไม่ควรพลาด

หมวดหมู่ : Drama Family
สัญชาติ : British
กำกับโดย : Charlotte Wells
ความยาว : 1 ชั่วโมง 36 นาที
นักแสดงนำ : Paul Mescal, Frankie Corio

คำคมจากภาพยนตร์

"I Can't See Myself At 40, To Be Honest"
" พูดตามตรงฉันมองไม่เห็นตัวเองตอนอายุ 40"

เรื่องย่อ

ช่วงเวลาแห่งความสุขมักผ่านไปเร็ว ทำให้โซฟีได้นึกถึงช่วงเวลาที่เธออายุ 11 ขวบกับคุณพ่อของเธอตอนอายุ 30 เมื่อปี 11 ปี เธอไปเที่ยวพักผ่อนกับพ่อที่สถานพักตากอากาศที่ตุรกีเมื่อ 20 ปี และหนังก็ถูกบันทึกผ่านกล้องวิดีโอธรรมดาของพ่อเธอ ที่ได้สัมผัสความทรงจำ กิจกรรมต่างๆที่พวกเขาได้ผลักดันเล่นไปตลอดทริป แต่ทว่าหลายสิ่งหลายอย่างค่อยๆเปลี่ยนไปราวกับว่าเธอกับพ่อแทบไม่เคยเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกันมาก่อน

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Aftersun เป็นหนังดราม่าที่เหมาะกับสายรางวัลดูแล้วน้ำตาไหลคิดถึงและโหยหาอดีตแน่ๆ เพราะองค์ประกอบไร้ที่ติ มันงดงาม ลึกซึ้ง จับใจ และชวนแตกสลายอย่างรุนแรง นี่คือหนังที่เรากล้าพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่ามันคือผลงานชิ้นเอกยุคใหม่อย่างแท้จริง เทคนิคการเล่าเรื่องที่ความสดใหม่และแพรวพราว เต็มไปด้วยการใช้ภาษาภาพยนตร์ที่สื่อถึงความรู้สึกผ่านห้วงอารมณ์และช่วงเวลาต่างๆ ในอดีตของตัวละครได้อย่างหมดจด มันเป็นหนังที่เรารู้สึกได้ถึงความเป็นหนังส่วนตัวที่ใครๆก็ดูได้แน่ๆ นักแสดงเล่นได้เป็นธรรมชาติ ไม่แปลกใจว่าทำไมถึงติดโผหนังยอดเยี่ยมที่สุดปี 2022

  • สายหนังดราม่า
  • สายหนังสายรางวัล
  • สายหนังโหยหาอดีต

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ตอนดูครั้งแรกมีคำถามในหัวทำไมหนังถึงได้รับความสนใจจากนักวิจารณ์เยอะแยะเต็มไปหมด รวมถึงตอนฉาย World Film ที่นั่งแน่นไปหมด พอดูซ้ำ 2 รอบเข้าใจในสิ่งที่ผู้กำกับนำเสนอ ทริปธรรมดาที่ตุรกีไม่น่าจะมีอะไรพ่อลูกเที่ยวพักผ่อนกลับกลายเป็นความทรงจำหนสุดท้ายที่ออกแนวบาดลึกเจ็บปวด พ่อลูกสนิทกันจากกิจกรรม แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆเราพบคำตอบถึงความผิดปกติ คุณพ่อกำลังจะกลายเป็นอดีตที่ลูกสาวได้แต่คิดถึง ความสุขผ่านไปรวดเร็วมันทำให้รู้ว่าบางทีนี่อาจเป็นหนสุดท้ายที่คุณพ่อจะได้ใช้เวลาอยู่ลูกสาว เพราะพ่อเองก็มีปัญหาสุขภาพและไม่มีทีท่าว่าจะหาย หนังค่อยๆเล่าแบบช้าๆพาไปสัมผัสห้วงอารมณ์ตัวละครที่พบว่ามันมีความเจ็บปวดมีความแตกสลาย การเล่าเรื่องไปเรื่อยๆมันทำให้เราได้เห็นคำตอบว่ามันน่าสะเทือนใจที่ลูกสาวโหยหาความทรงจำชีวิตในวัยเด็ก การเป็นเด็กน้อยได้ใช้ชีวิตอยู่กับพ่อ เธออยากมีเวลาอยู่กับพ่อให้มากกว่านี้ และในเวลาเดียวกันพอเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ชีวิตจริงกลับไม่ได้สวยหรูเหมือนตอนเป็นเด็กเลยสักนิด ผู้กำกับนำเสนอในเรื่องส่วนตัวแต่ดันตรงใจกับคนดู เราทุกคนมีความรู้สึกนึกถึงชีวิตในวันเด็ก อยากย้อนเวลากลับไปแต่สุดท้ายเราทำได้แค่เฝ้ามองภาพเก่าๆก็เท่านั้น

หนังเรื่องนี้อาจธรรมดาไม่ได้น่าสนใจมากกับคนทั่วไปแต่สิ่งที่ได้กลับมานอกจากการที่ผู้คนมากมายโหยหาอดีต ก็คือความไม่สมบูรณ์แบบของคนเรา ที่มันเป็นสิ่งที่ใครต่อใครหลีกเลี่ยงไปไม่ได้ คุณพ่อทำหน้าที่พ่อในช่วงสุดท้ายดูแลลูกสาวทำกิจกรรมกับเธอให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามมอบช่วงเวลากับลูกให้ดีสุด เพราะก็รู้ดีว่าคงมีเวลาไม่นาน แต่ก็อยากถ่ายทอดความห่วยใย ทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด เก็บซ่อนบาดแผลในชีวิตไม่ให้ลูกสาวได้รับรู้ทั้งที่ในใจคุณพ่อก็อึดอัดมาก ที่ตัวเองก็เป็นพ่อที่ไม่ดี ทำหน้าที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบเพื่อลูก และชีวิตคุณพ่อคนนี้ก็ไม่รู้จะเดินไปในทิศทางไหน เขากลายเป็นคนแปลกหน้ากับลูกสาวจริงๆ การที่จากลูกสาวที่เขารักมากมันก็ความรู้สึกที่โหดร้ายของเขามากเช่นกัน ไม่แปลกใจที่พอลูกสาวเติบโตสิ่งเดียวที่โซฟีคิดถึงมันถูกบันทึกเรื่องราวผ่านฟุตเทจกล้องวิดีโอที่เธอเปิดดูซ้ำเพื่อจดจำความทรงจำสุดท้ายที่หลงเหลือจากพ่อของตัวเอง พอเธอได้ดูแล้วความทรงจำย้อนกลับมา และทำให้เธอเข้าอกเข้าใจคุณพ่อตัวเองว่าการเป็นผู้ใหญ่มันเหนื่อยแค่ไหน หรือความรู้สึกโดดเดี่ยวที่ต้องถูกแยกออกจากลูกสาวตัวเอง โซฟี่โตแล้วเข้าใจแน่นอนว่าเธอไม่อยากให้คุณพ่อหายไปจากความทรงจำแต่ที่สุดแล้วมันเป็นประเด็นที่น่าสะเทือนใจ

บทหนังของผู้กำกับถ่ายทอดออกมาดีละเมียดละไมนำเอาเศษเสี้ยวความทรงจำอันแสนสุขที่เธอมีร่วมกับพ่อมาตีความได้ยอดเยี่ยมเรียบง่ายทรงพลังบาดลึกผู้ชมจนหัวใจสลายแบบไม่ทันตั้งตัว สิ่งที่น่าชื่นชอบคือการเล่าเรื่องเรียบเรียงความสัมพันธ์ของพ่อลูก การต่อตัดหนังทำออกมาได้น่าดูน่าชมเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกตัวละครได้อย่างงดงาม และเปิดพื้นที่ให้ตัวละครถ่ายทอดออกมาได้เป็นธรรมชาติ ที่โดดเด่นคือ Paul Mescal ในบทคุณพ่อที่เวลาต่อได้กลายเป็นพระเอก Gladiator 2 เขาแสดงได้ดีเหนือความคาดหมาย อารมณ์ความรู้สึกสีหน้าแววตาที่มีความซับซ้อนถายในจิตใจแต่ต้องพยายามฝืนยิ้มมอบความสุขให้ลูกสาว มันเป็นเรื่องยากมากๆแต่เขาตีบทแตกกระจายทำให้เราได้ดูหนังที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ลูกสาว หนูน้อย Frankie Corio ก็แสดงเป็นเด็กสาวไร้เดียงสาเด็กผู้ช่างถามออกมาได้น่ารัก เธอเล่นดีมากเป็นเสมือนตัวแทนผู้คนมากมายที่พอดูจบนึกภาพตัวเองการเป็นเด็กผู้ชอบสงสัยถามโน่นถามนี่กับผู้ใหญ่เป็นประจำ เชื่อว่าน้องคนนี้อนาคตไกลแน่ๆ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • เพราะหนังเรื่องนี้ทำให้ Paul Mescal ได้โอกาสไปแคสต์หนัง The Gladiator 2
  • หนังใช้เวลาถ่ายทำ 2 อาทิตย์ที่ประเทศตุรกี
  • หนังถูกพัฒนามาจากภาพยนตร์สั้นของผู้กำกับเมื่อปี 2015 ที่สร้างมาจากประสบการณ์จริง
  • Frankie Corio นักแสดงที่มารับบทเป็นลูกสาวใช้เวลาแคสติ้งจากคนสมัครกว่า 800 คน
  • Charlotte Wells ผู้กำกับทำหนังยาวเรื่องแรกในชีวิต เดินหน้ากวาดรางวัลไปแล้ว 33 รายการ จากการเข้าชิง 120 รายการ