The Last 10 Years (2022)

สุดท้ายและตลอดไป

The Last 10 Years Poster
8.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

พล็อตเรื่องเล่นใหญ่เจ็บจนจุกอก สะเทือนใจสะเทือนความรู้สึกไปแบบไม่รู้ตัวจนเผลอร้องไห้ตาม มันกลายเป็นหนังรักช้ำๆที่ชอบแบบไม่ทันตั้งตัว นานะ โคมัตสึ นางเกิดมาเพื่อเล่นหนังช้ำๆแนวนี้จริงๆ

หมวดหมู่ : Drama Romantic
สัญชาติ : Japanese
กำกับโดย : Michihito Fujii
ความยาว : 2 ชั่วโมง 4 นาที
นักแสดงนำ : Nana Komatsu, Kentaro Sakaguchi

คำคมจากภาพยนตร์

"ความรัก’ มันเลือกเวลาเกิดไม่ได้หรอก รวมถึงตอนที่มันจบลงก็เช่นกัน..."

เรื่องย่อ

มัตสึริ หญิงสาวที่พบว่าตัวเองเป็นโรคร้ายยากเกินรักษาที่จะมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 10 ปี และ คาซึโตะ ชายหนุ่มผู้สับสนในชีวิตจนเสียแรงจูงใจในการมีชีวิตอยู่ เมื่อชีวิตของทั้งสองคนได้โคจรมาพบกันในงานเลี้ยงรุ่น และแล้วชีวิตใหม่ของเธอกับเขาจึงได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ  The Last 10 Years จัดเป็นหนังรักญี่ปุ่นที่เศร้าดราม่าจับใจขยี้ห้วงอารมณ์ขยี้ความรู้สึกใครต่อใครเมื่อได้ชมเพื่อๆอาจมีน้ำตาแตกไปเลยก็เป็นได้ คนที่ดูหนังเรื่องนี้ได้นอกจากจะเผชิญความรู้สึกรักความรู้สึกชอบที่ผิดหวง แต่ในขณะเดียวกันเนื้อหาหนังก็มอบความอบอุ่นความรู้สึกๆดีให้ผู้ชมเช่นกัน ความรักไม่ได้จำกัดแค่รักชอบรู้สึกดีให้ใครสักคน แต่มันยังแบ่งปันความรู้สึกดีๆความอบอุ่นให้คนรอบข้างได้ด้วย หน้าหนังเหมือนจะใสๆแต่เนื้อหาข้างในมอบรายละเอียดดีๆไว้เพียบ ไม่ได้เป็นหนังเสียน้ำตาที่เศร้าเกินไป

  • สายหนังญี่ปุ่น
  • สายหนังโรแมนติกดราม่า
  • สายหนังเศร้าเสียน้ำตา

 

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หนังรักโรแมนติกที่ทำให้ผมสะเทือนใจแบบไม่ทันตั้งตัว เพราะในความรู้สึกแรกคงคิดว่าเป็นหนัง Feel Good ความรักความทรงจำที่ไหนได้ อารมณ์ก่อนไปดูยังชิลๆอยู่เลย แต่ผมดูจบอารมณ์มันเศร้าตาม ความรักคงเป็นสิ่งเดียวที่ผู้คนมากมายใฝ่หาโดยเฉพาะหนุ่มสาวชายหญิงยุคนี้ พลังแห่งความรักน่าจะเป็นสิ่งเดียวที่เยียวยาความรู้สึกให้คนเราได้ แม้ว่ามันจะเต็มไปด้วยความผิดหวังความเจ็บช้ำ จะเศร้าหรือสุข คนมากมายก็อยากมีรักมีใครสักคนที่อยู่เคียงข้างกันไปและดูแลกัน แต่เรื่องนี้พล็อตการเล่าเรื่องใช้เวลาแบ่งเป็นพาร์ทๆ พาคนดูไปสำรวจชีวิต 10 ปีสุดท้ายของ มัตสึริ เธอทำอะไรบ้างกับชีวิตที่เหลืออยู่ มันให้ความรู้สึกว่าแม้ว่าเธอจะป่วยเป็นโรคที่เลวร้าย แต่เธอกลับมีแรงจะทำอะไรบ้างอย่างเพื่อไม่ให้ชีวิตสิ้นหวัง บั่นทอนความรู้สึกตัวเอง ตรงข้ามเธอเองก็พยายามมอบสิ่งดีๆให้คนรอบข้าง

หนังไม่ได้เน้นการจับคู่ให้พระเอกนางเอก มีฉากซึ้งๆเพื่อทำให้มันออกมาโรแมนติก แบบหนังญี่ปุ่นแนวทางรักเศร้าๆ แต่หนังเองก็ค่อยๆเล่าเรื่องอย่างละเมียดละไม สำหรับการที่นางเอกมอบความรักมอบความผูกพันธ์ มอบความรู้สึกที่ดีๆแก่ผู้อื่น คือไม่ได้เล่นใหญ่ให้คนจับทางได้ว่า จะมาซึ้งบทพูดเศร้าๆแล้วเรียกน้ำตา แต่หนังเปิดพื้นที่ให้มีอะไรที่มากกว่านั้นเยอะ มัตสึริ แบ่งปันความรู้สึกดีๆให้คนรอบข้าง ทั้งที่เธอเองก็เจ็บปวดมาก มันยากมันทรมาน แต่คนรอบข้างก็ได้ความอบอุ่นจากเธอ หนังไม่ได้พูดแค่ตัวนางเอกอย่างเดียว แต่ตัวละครอื่นๆที่ใกล้ชิดกับนางเอกก็มีอิทธิพลกับเธอไม่แพ้กัน โชคดีมากที่หนังเกลี่ยบทมาดี มันเลยสัมผัสได้ว่าองค์ประกอบในเรื่องเน้นประเด็นการมอบความรักให้แก่คนรอบๆตัวนางเอกจริงๆ ช่วงบีบหัวใจช่วงท้ายๆ เตรียมทิชชู่ไว้ดีๆเพราะเศร้าและอินตามแบบไม่ทันตั้งตัว บทดีแค่ไหน ถ้าหนังไม่ได้งานภาพมาช่วยบรรยากาศมันไม่ทางโรแมนติกแน่ๆ เฟรมภาพและเพลงสกอร์ประกอบมันบิ้วอัพอารมณ์ได้มากๆเลยละแก

หนังเรื่องนี้จะไม่มีคุณภาพเลย ถ้าหากขาดนางเอกแถวหน้าของวงการผู้เชี่ยวชาญหนังรักดราม่าเสียน้ำตาอย่าง นานะ โคมัตซึ คนดูอาจจะคุ้นชินกับบทบาทของเธอ มาอีกแล้วแนวทางเดิมๆซ้ำซากจำเจ แต่สิ่งที่นานะ สื่อสารออกมามันกลบทุกคำครหาไปหมดสิ้น เธอถ่ายทอดความเจ็บปวดออกมาจนช้ำ บทดราม่าบทที่ต้องเจ็บปวด พลังการแสดงมันต้องระเบิดอารมณ์สื่อสารออกมาได้ยาก แต่กลายเป็นว่าเธอเข้าถึงบทบาทหญิงสาวป่วยใกล้ตายที่แต่แสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรออกมาได้น่าเชื่อถือ ทุกๆฉากเธอแบกอารมณ์และรับส่งบททำให้ดาราคนอื่นๆเล่นได้ง่ายมาก เคนทาโร่ ซาคากุจิ ดาราหนุ่มชื่อดังที่มาเป็นผู้ชายที่รักและอยากใช้ชีวิตร่วมกับนางเอก ไม่คิดว่าเมื่อ 2 คนนี้เข้ากันทำให้ฉากที่ออกมา มันทั้งเศร้า โรแมนติก น่าลุ้นให้ทั้งคู่สมหวังกันสักที หากใครเป็นคนชอบหนังรัก หนังญี่ปุ่น หนังเศร้า เราขอเชียร์เรื่องนี้แบบขาดใจ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • หนังดัดแปลงมาจากเรื่องจริง
  • นี่คือหนังที่ทำรายได้สูงสุดในญี่ปุ่นครึ้งปีแรก 2022
  • การถ่ายทำใช้เวลาราวๆ 1 ปี เพื่อเก็บภาพเวลาที่ทั้งสองใช้ร่วมกันทั้ง 4 ฤดูในญี่ปุ่น