Logan (2017)

โลแกน เดอะ วูล์ฟเวอรีน

Logan Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

การปิดตำนานที่สวยงาม และพาหนังซุปเปอร์ฮีโร่ทะยานข้ามมาตรฐานไกลมากๆ
ส่วนผสมของความ เข้มข้น รุนแรง และตราตรึงใจจริงๆ

หมวดหมู่ : Action Drama Sci-Fi
สัญชาติ : American
กำกับโดย : James Mangold
ความยาว : 2 ชั่วโมง 17 นาที
นักแสดงนำ : Hugh Jackman, Patrick Stewart, Dafne Keen

คำคมจากภาพยนตร์

“Don’t be what they have made you.”
“อย่าเป็นในสิ่งที่พวกเขาสร้างเธอขึ้นมา”

เรื่องย่อ

โลแกน หรือ วูล์ฟเวอรีน มนุษย์กลายพันธุ์ไม่กี่คนในโลกที่ยังหลงเหลืออยู่ เขาต้องใช้ชีวิตให้เหมือนกันคนธรรมดา เพื่อดูแล ศาสตราจารย์ ชาร์ลส์ เซเวียร์ ในวัยชราที่อ่อนแรงลงจนเริ่มคุมพลังตัวเองแทบไม่ได้ ในขณะที่เขาพยายามจะหลีกเลี่ยงจากโลกภายนอกนั้น ก็มีหญิงสาวที่เข้ามาขอร้องให้เขาพา ลอร่า เด็กหญิงที่มีพลังพิเศษคนหนึ่งหนีไปยังที่ปลอดภัย ทำให้นี่จึงกลายเป็นภารกิจเสี่ยงตาย ที่ทำให้เขาต้องกลับมาใช้พลังกรงเล็บเพื่อปกป้องใครบางคนอีกครั้ง

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Logan อาจไม่ใช่หนังซุปเปอร์ฮีโร่ในแบบที่เราคุ้นตา ชนิดที่ว่าต่อให้ดู X-Men มาแล้วทุกภาค พอมาถึงเรื่องนี้ก็อาจยังต้องกลับมาถามตัวเองว่า นี่มันหนังชุดเดียวกันหรอ (วะ!?) เพราะมันช่างมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต่างกันไปเหลือเกิน นับตั้งแต่พาร์ทเนื้อเรื่องที่เน้นดราม่าเข้มข้นกันอย่างหนัก ไปจนถึงความรุนแรงระดับ Rate R ที่หนังชุดนี้ไม่เคยมาถึงขั้นนี้มาก่อน แม้ว่าจะเป็นภาคแยกของตัวละครนี้ก็ตาม ทำให้มันจึงมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก ทำให้ใครก็ตามที่ติดตามหนังชุด X-Men มาโดยตลอดแล้ว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะมาส่งท้ายตัวละครที่มีชื่อว่า Wolverine ไปด้วยกัน

  • สายหนังฮีโร่เรท R
  • สายหนังแอคชั่นซุปเปอร์ฮีโร่
  • สายหนังฮีโร่ Marvel

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ด้วยความที่ผู้กำกับอย่าง James Mangold นั้น เคยทำหนังภาคก่อนหน้าที่พา Wolverine ไปตะลุยญี่ปุ่นอย่าง The Wolverine เอาไว้ได้อย่างถูกใจแฟนบอยไม่น้อย จนได้มีโอกาสมาทำภาคนี้ต่อ ซึ่งหลากหลายเสียงก็ต่างชื่นชมกันว่าเป็นการปิดตำนานใหักับตัวละครนี้ได้อย่างสวยงาม และยังเป็นการสั่งลาบทบาทนี้เป็นครั้งสุดท้ายของ Huge Jackman ในฐานะ Wolverine มากว่า 16 ปีด้วย ที่มาได้ถึงจุดนี้ได้ คงเป็นเพราะในภาคนี้มีองค์ประกอบที่ดีหลายๆ อย่างมารวมกันเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องบท ที่ดัดแปลงมาจาก Comic และนำมาปรับเป็นโทนภาพยนตร์ได้เป็นอย่างดี จนได้เข้าชิงออสการ์ในสาขาบทดัดแปลงยอดเยี่ยมด้วย ซึ่งเป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ไม่กี่เรื่องที่มาถึงจุดนี้ได้

ด้วยความที่ตัวบทหนังมันดี ทำให้เวลาจะเล่าอะไรมันก็สนุก แม้ว่าพล็อตเรื่องนั้นจะดูเป็นแนวๆ ชายแก่ที่หมดอาลัยตายอยากกับชีวิต ต้องฮึดขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อปกป้องอะไรบางอย่างจะไม่ใช่อะไรที่ใหม่นักในวงการฮอลลีวู้ด แต่มันกลับใหม่มาก เมื่อเอามาใช้กับหนังชุด X-Men ที่เราๆ เองก็ไม่เคยเห็นมันปรับมาเป็นโทนนี้มาก่อน ทั้งในเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครที่ต่างวัย การได้เรียนรู้คุณค่าที่จะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ซึ่งเรื่องราวอะไรแบบนี้ก็นับว่าหาได้ยากในหนังหมวดซุปเปอร์ฮีโร่จริงๆ และนอกจากพลังพิเศษของตัวละครไม่กี่ตัว ทุกอย่างในเรื่องก็แทบไม่มีอะไรที่เหนือธรรมชาติอีกเลย

ด้วยความเรียลติดดิน ประกอบกับการดันหนังไปถึง Rate R นั้น ก็ทำให้โทนของหนังช่างมืดหม่นและเต็มไปด้วยความรุนแรงยิ่งขึ้น แม้ว่าจะมีตัวละครเด็กอย่างน้อง ลอร่า เข้ามา มันก็ไมไ่ด้ลดโทนที่มีของหนังได้เลย เพราะในฉากแอคชั่นแล้วนั้น ทั้งคู่รุ่นใหญ่รุ่นเล็ก ต่างออกลวดลายลีลาการต่อสู้ได้ดุเดือด เลือดสาด ไปจนถึงหัวขาดกระจุย จนเรียกได้ว่าใช้เรทกันได้คุ้มดีทีเดียว เลยทำให้หนังในภาคนี้ดูมีความหนักแน่น เข้ากับโทนเรื่องได้ดีอย่างจริงๆ ทั้งหมดทั้งมวลเลยทำให้ภาคนี้ มันจึงกลายเป็นหนังแอคชั่นฮีโร่ที่มีความเป็นมนุษย์ มีความดราม่าเข้มข้น และความรุนแรงที่สุดเท่าที่หนังชุด X-Men เคยทำมา และทำให้มันกลายเป็นการปิดตำนานที่ดีที่สุดของตัวละครที่มีชื่อว่า Logan ด้วยเช่นกัน

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • แม้จะเป็นภาคสั่งลาของ Huge Jackman ที่ปิดลงไปได้ด้วยดี แต่เขาก็เคยแง้มๆ โอกาสเอาไว้ว่า เขามีโอกาสที่จะกลับมารับบทนี้อีก ถ้าตัวละคร Wolverine มีโอกาสไป Crossover กับ Deadpool ที่ยังรับเป็นโดย Ryan Reynolds เพราะนอกจอทั้งคู่เป็นเพื่อนซี้กันมากๆ จนตัวเขาเองยังได้รับเชิญไปในฉาก End Credit ของหนังชุด Deadpool ด้วย
  • Dafne Keen เด็กน้อยที่รับบท X-23 ที่ตอนถ่ายทำนั้น เธอมีอายุแค่เพียง 11 ขวบเท่านั้น ทำให้เธอไม่สามารถเข้าไปถ่ายทำฉากใน Casino ได้ แม้ว่าจะขออนุญาตอย่างเสร็จสรรพแล้วก็ตาม ทำให้การถ่ายทำของน้องนั้น เลยต้องใช้ฉากเขียวมาใส่ CG เข้าไป หรือในบางฉากต้องใช้สตันท์ที่รูปร่างคล้ายกับเธอแต่อายุ 18 เพื่อเข้าไปแทน (ลำบากแท้…)