Daylight (1996)

ฝ่านรกใต้โลก

Daylight Poster
6.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังสไตล์แอคชั่นเอาชีวิตรอด ที่โคตรขี้โม้แต่ก็ยังดูได้สนุก แม้จะมีช่วงที่ใช้ไหวพริบในการเอาตัวรอดบ้าง แต่ก็ยังมีตัวละครที่ตายแบบโง่ๆ ที่เยอะอยู่

หมวดหมู่ : Action Adventure Drama
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Rob Cohen
ความยาว : 1 ชั่วโมง 54 นาที
นักแสดงนำ : Sylvester Stallone, Amy Brenneman, Viggo Mortensen

คำคมจากภาพยนตร์

“Get them back to daylight.”
“พาพวกเขากลับไปสู่แสงสว่างอีกครั้ง”

เรื่องย่อ

คิท ลาทูร่า อดีตหัวหน้าหน่วยกู้ภัยที่ผันตัวมาขับแท็กซี่แทน แต่แล้ววันนึงดันเกิดเหตุวินาศสันตะโรในอุโมงค์ลอดแม่น้ำแห่งหนึ่งในนิวยอร์ค จนทำให้อุโมงค์เหล่านี้ถูกปิดตาย และการเข้าไปของหน่วยกู้ภัยก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก คิท ได้ผ่านเข้าไปบริเวณนั้นพอดี จึงได้อาสาตัวเองเข้าไปช่วยเหลือผู้คนที่ยังติดอยู่ในอุโมงค์นั้น ด้วยสถานการณ์ที่เลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทางเข้าออกของอุโมงค์นั่นถูกปิด ในขณะที่น้ำก็กำลังไหลเข้าท่วมอุโมงค์ ทำให้คิทต้องแข่งกับเวลา เพื่อพาผู้รอดชีวิตกลับออกไปให้ได้มากที่สุด

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Daylight นั้น อาจจะเหมาะกับคนที่ต้องการพักใจ อยากหาหนังเอาชีวิตรอดในแบบที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ต้องเคร่งเครียดว่าใครจะอยู่หรือตาย เพราะดูจากความสามารถระดับเทพของตัวเอกก็น่าจะเอาชีวิตรอดออกมาได้อย่างไม่ยาก ในแง่ความสมเหตุสมผลก็ไม่ต้องคิดเยอะ แค่มองว่าทุกอย่างสามารถเป็นไปได้หมดในหนังเรื่องนี้ ก็น่าจะทำให้การรับชมหนังเรื่องนี้คงจะเพลินได้อยู่ไม่น้อย แต่หากใครที่อยากได้หนังเอาชีวิตรอดในแบบจริงจัง มีความสมเหตุสมผล และชวนลุ้นกว่านี้ อาจจะยังไม่ตอบโจทย์สักเท่าไีร ใครที่ชอบหนังเอาตัวรอดแบบไม่เน้นคุณภาพเน้นๆ นักอย่าง Vertical Limit, Valcano หรือ Dante’s Peak แล้ว ขอเชียร์ให้ตามเก็บครับ

  • สายหนังเอาชีวิตรอดสุดระทึก
  • สายหนังภัยพิบัติ
  • สายหนัง

รีวิว / สรุปเนื้อหา

Daylight เป็นหนังอีกเรื่องที่มีความสนุกในแบบยุค 90s อยู่ไม่น้อย แต่หากเผลอหยิบเอามาดูในยุคนี้อาจจะมีความประหลาดๆ อยู่หน่อยๆ ด้วยความเป็นหนังแอคชั่นแบบเอาตัวรอดแล้ว การได้พระเอกอย่าง Sylvestor Stallone มาก็ดูเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะแค่เราเห็นเขา ก็รู้สึกได้ว่าน่าจะเก่งขนาดที่ต้องพิชิตได้ทุกสถานการณ์ และมันเป็นเช่นนั้น เพราะ คิท ลาทูร่า เป็นตัวละครอีกตัวที่มากับความเว่อร์มากๆ จริงๆ ก็นับตั้งแต่การเข้าไปในอุโมงค์ผ่านใบพัดในช่องระบายอากาศแล้ว และยังไม่รวมถึงวีรกรรมอื่นๆ อีกมากมายในเรื่อง ที่รู้สึกว่าเขานั้นมีความสามารถในแบบที่เหนือมนุษย์จริงๆ

Underrated Gem: Daylight (1996) - The Action Elite

ด้วยตัวอุบัติเหตุที่เกิดจากอุโมงค์ถล่มในช่วงต้น จึงเหลือผู้รอดชีวิตอยู่เป็นจำนวนมาก หนังเลยทำการเหมือนอย่างที่หนังเอาชีวิตรอดทั่วไปนั่นทำเหมือนกัน นั่นก็คือการลดจำนวนตัวละครลง แต่ไม่รู้ว่าด้วยสาเหตุที่ตัวละครเยอะเกินหรืออย่างไร เลยทำให้ตัวละครในเรื่องส่วนมากล้วนแล้วแต่สังเวยไปกับการตายแบบโง่ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่ไม่ควรเกิด หรือความงี่เง่าของตัวละครที่ทำให้คนกลุ่มนี้ตายไปอย่างไว และเป็นการลดตัวละครได้อย่างรวดเร็วจนอาจทำให้คนดูเกิดความหงุดหงิดอยู่ไม่น้อยว่าต้องตายกันไวขนาดนี้เชียวหรอ 

รวมถึงตัวพล็อตของหนังก็เรียกได้ว่าเป็นความโม้แบบขั้นสุด ที่หวังพึ่งพากับตัวเอกเพียงคนเดียวในขณะที่หน่วยกู้ภัยคนอื่นๆ ที่เป็นมืออาชีพ และประกอบอาชีพนี้โดยตรงกับหายหัวหมด แต่ก็ยังดีที่ผู้กำกับอย่าง Rob Cohen ยังพอมีหัวในการสร้างความบันเทิงบ้างตามสไตล์หนังแอคชั่นที่บันเทิงแบบพอประมาณของเขา (ที่อาจจะรู้สึกสนุก แต่ก็ไม่ได้มากไปกว่านั้น) ทำให้ตัวหนังก็ถาโถมเหตุการณ์ต่างๆ เข้ามา เพื่อให้ตัวละครได้ตัดสินใจ หรือได้มีโอกาสโชว์ความสามารถทั้งไหวพริบ และทักษะทางกาย ในการเอาตัวรอดให้เราได้ลุ้นกันอยู่ตลอด เลยทำให้ Daylight เป็นหนังแนวเอาชีวิตรอดที่ดูได้อย่างเพลินๆ ไปกับความขี้โม้ของหนังได้อยู่ไม่น้อยเลย

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ตอนแรกผู้กำกับ Rob Cohen อยากได้ Nicholas Cage เล่นบท Kit Latura ตัวเอกในหนัง แต่ค่ายหนังอยากได้คนที่ปังกว่าจึงเลือก Sylvester Stallone และโดนค่าตัวเขาไปถึง $17.5 ล้านในการแสดงในเรื่องนี้
  • หนึ่งในเหตุผลที่ Sylvestor Stallone รับเล่นหนังเรื่องนี้ ก็คือเขาหวังว่ามันจะช่วยให้เขาเลิกกลัวที่แคบ แบบในตอนที่เขาเล่นหนังเรื่อง Cliffhanger (1993) เพื่อให้เอาชนะการกลัวความสูง
  • Sylvester Stallone เคยพูดไว้ว่านี่จะเป็นหนังแอคชั่นเรื่องสุดท้ายของเขา เพราะรู้สึกแก่เกินไปแล้ว แต่มาจนถึงตอนนี้เราก็คงพบแล้วว่า ไม่จริงเลย...