I Love You Two Thousand (2023)

14 อีกครั้ง

I Love You Two Thousand Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังไทยที่มีดีกว่าที่คิดเอาไว้ การหยิบปี2003 มันช่างเหมาะสมกับความรักความทรงจำของเด็กยุคy2k ดูไปก็อมยิ้มไปมีความสุข สอดแทรกหมัดเด็ดตลอดทาง อาจทำให้ใครหลายคนโหยหาอดีตแน่ๆ และอาจน้ำตาแตกแบบไม่รู้ตัว

หมวดหมู่ : Romantic
สัญชาติ : Thai
กำกับโดย : Nareubadee Wetchakam
ความยาว : 1 ชั่วโมง 54 นาที
นักแสดงนำ : Nat​ kitcharit, Nuttanicha Dungwattanawanich

คำคมจากภาพยนตร์

"อย่าลืมทำสิ่งที่ตัวเองชอบในตอนที่ยังมีโอกาสอยู่"

เรื่องย่อ

กิ๊บ อดีตนักเรียนดีเด่นระดับประเทศ ที่ตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่จันทบุรีเพื่อมาพักใจ แต่ดันต้องมาเจอกับอดีตเพื่อนเคยซี้อย่าง ต้อ ที่เธอพยายามหนีหน้ามาโดยตลอด และอีกฝ่ายก็ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมอีกฝ่ายถึงเมินเฉยไปแบบนี้ ขณะเดียวกัน กัน น้องชายตัวแสบวัย 14 ปีของกิ๊บ ก็กำลังแอบชอบ ผิง นักเรียนหญิงคนใหม่ของโรงเรียน เขาจึงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนในแก๊งหัวหมา เพื่อสานฝันในการจีบหญิงให้ได้ และแล้วมันก็กลายเป็นความวุ่นวายที่กิ๊บและต้อ เข้ามามีส่วนรวมในครั้งนี้แบบที่ไม่รู้ตัวไปแล้ว

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

ว่ากันว่าบางครั้งหนังที่ดีไม่ต้องสร้างฉากสวยๆบทพูดประดิษฐ์อะไรให้มากมาย แค่รู้ว่าจะเล่าอะไรก็พอ แล้วคนทำต้องมีแพชชั่นมีความจริงจังใส่งานที่ทำก็พอแค่นี้ก็ออกมาเป็นหนังที่ดีแล้ว 14 อีกครั้งมีแบบนั้น ภาพของหนังมันให้ความสุขแบบที่คนดูอิ่มเอมไปกับบรรยากาศหนังแบบที่สนุกโดยไม่รู้ตัว มารู้อีกทีหนังทำงานกับเราไปเรียบร้อยแล้ว พี่เป้ ผู้กำกับหยิบเรื่องราวชีวิตตัวเองในวัยเด็ก ผสมผสานกับโลเคชั่นในจังหวัดจันทบุรีบ้านเกิดของตัวเองได้อย่างลงตัว กลายเป็นหนังไทยที่เรียบง่ายที่มาแบบเหนือความคาดหมายแห่งปี 2023

รีวิว / สรุปเนื้อหา

นี่คือหนังที่มาสนุกแบบไม่คาดคิดเอาไว้ หนังให้ความบันเทิงแบบที่คนดูสามารถนึกถึงโหยหาอดีต พอหนังหยิบบรรยากาศในปี 2546 ปี 2003 เมื่อ 20 ปีที่แล้ว และมาเล่าเรื่องที่จันทบุรี มันเลยดูเรียลขึ้นทันที ทั้งที่บทหนังเองก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนหวือหวา แต่ผู้กำกับพัฒนาหนังไทยกลิ่นอายวัยรุ่นต่างจังหวัดที่ออกมาได้แบบจริงใจ ความรักหนุ่มสาวแบบภูธรที่เล่าโดยคนท้องถิ่นจริงๆ ผลลัพธ์ที่ได้ออกมามันเลยอบอุ่น ตลก ลึกซึ้งขึ้นทันที ซึ่งแตกต่างจากหนังรักไทยที่้มักจะชอบพูดถึงอดีต แต่มักสอบตกการเซ็ตติ้งเรื่องราวฉากหลัง หนังสะกดคนดูได้อยู่หมัดจนไม่กล้าละสายตาจากแม้แต่ฉากเดียว จันทบุรี กลายเป็นฉากหลังที่น่าค้นหา บ้านเมืองที่เงียบสงบทุกอย่างสมบูรณ์แบบ มันเป็นการพาคนดูไปสำรวจชีวิตวัยเรียนมัธยม ผ่านตัวละครที่แอบรักแอบชอบมีความผูกพันธ์ให้กันแต่อยู่ๆก็กลายเป็นคนแปลกหน้าที่อยากจะหนีหน้าไปซะงั้น หนังรวบรวมวีรกรรมความบ้าบอของเด็กมัธยม วัฒนธรรมเกรียนๆ จีบหญิง ต้องทำตัวเท่ห์ดูดีมีโมเมนต์ที่อยากทำให้เธอคนนั้นจดจำ หรือกิจกรรมอื่นๆ ดูหนังสือการ์ตูน ซื้อนิตสารโป๊ ซ้อมดนตรี เรียกว่าเด็กผู้ชายยุค Y2K โลกที่กำลังจะเข้าใกล้ Internet พอได้ดูแล้วก็ถึงนึกช่วงเวลาในวัย 14 ทันที พอมันเล่าในมุมเด็กต่างจังหวัดผ่านคนต่างจังหวัดจริงมันเลยออกมาจริงใจปราศจากการปรุงแต่ง มันเลยทำให้สนุกสนานไปกับพฤติกรรมตัวละครในเรื่องเนื้อหามีหมัดเด็ดอยู่ตลอดเวลา จังหวะตลกไร้สาระ จังหวะดราม่ามาได้แบบเหมาะสมมากๆ

บทหนังเองค่อยๆขยี้อารมณ์คนดูระหว่างทางอยู่เสมอ และการเล่าเรื่องที่พูดถึงมุมมองการเติบโตของตัวละคร ที่เด็ก 14 ก็มีช่วงเวลาที่ห้าวกล้าหาญแบบไม่สนอะไรใครทั้งสิ้น ความบ้าบอ ความซื่อบื่อ ความรู้เท่าไม่ถึงกาล จนกลายเป็นเหตุการณ์บานปลาย ความคึกคะนอง หรือการที่หนังเองก็พูดถึงคนเรียนเก่ง จนกลายเป็นความคาดหวังของครอบครัวที่ใช้ชีวิตแบกความกดดันเอาไว้ จนไม่รู้เลยว่าสุดท้ายแล้วชีวิตการเรียนเก่งคือคำตอบจริงๆหรือเปล่า หนังเองไม่ได้ชี้นำอะไรเลย ตรงข้ามหนังมันออกมาแบบที่ทำให้คนดูได้คิดตามว่าสุดท้ายแล้ว โลกใบนี้ไม่มีอะไรที่ได้ดั่งใจตัวเอง สุดท้ายเราต้องเลือกหนทางที่ใช้กับชีวิตมากกว่าจะฝากความคาดหวังให้คนอื่น เลือกทางที่ใช่มากกว่าจะทนกับทางที่ไม่ใช่ แต่กับวัยรุ่นไทยน้อยคนมากที่จะเลือกเส้นทางแบบนี้ ชอบบทสรุปของหนังมันเล่าออกมาได้อย่างคมคาย ผ่านอารมณ์แบบรอมคอม ผสมผสานกับการหยิบปี 2003 ที่เปรียบเสมือนการย้อนอดีตสำรวจเรื่องราวต่างๆแบบที่มีพี่บิ๊ก D2B เข้ามาอยู่ในหนังแม้ว่าจะไม่ได้เป็นฉากสำคัญแต่มี Impact กับหนังมหาศาล หรือการร้อยเรียงเรื่องราวผ่านเพลงสกอร์ที่ขับเคลื่อนจังหวะหนังได้ละมุนละไม เรียกว่าหนังมีจุดหมายปลายทางชัดเจนว่าจะสื่อสารอะไรออกไปไม่หลุดนอกกรอบ เรียกว่านี่คือหนังของผู้กำกับที่ดูเพลินๆจนอยากดูซ้ำไปเรื่อยๆมันทัชใจในทุกๆองค์ประกอบไปเรียบร้อยแล้ว

นักแสดงนำพระเอกและนางเอก ณัฏฐ์ กิจจริต และ ณิชา กลายเป็นแคสติ้งที่ลงตัวมากๆ คนหนึ่งผ่านบทดราม่าหนักหน่วงมาเยอะ แต่คุณแวน สามารถพลิกลุคพลิกมุมมองมาในสไตล์รอมคอม ตลกแบบที่ดูเป็นตัวเองมากที่สุด พอ ณัฏฐ์ ได้เล่นบทที่ไม่หนักไม่ใกล้ตัวเองเกินไป สิ่งที่ได้คือ ต้อเป็นพระเอกที่เก่งไปซะทุกอย่าง แต่จริงใจพร้อมซัพพอร์ทคนรอบข้างโดยไม่คาดหวังผลประโยชน์ เรียกว่าผู้ชายคนนี้มอบการแสดงแนวทางใหม่ๆไปเรียบร้อยแล้ว ส่วน ณิชา พอมาในโหมดเครียดซีเรียสจริงจังดูน่ากลัว ซึ่งแตกต่างจากบทนางเอกละครช่อง 3 ทันที เรียกว่าเป็นเธอให้การแสดงในมุมมองใหม่ไปเลย เรียกว่าน้ำหนักของคู่พระเอกทำให้ตัวละครอื่นๆในเรื่องเล่นได้ง่ายขึ้นทันที ตัวละครที่ชอบมากอีกคนคือน้อง โมเน่ต์ ภาริตา ริเริ่มกุล เธอกลมกลืนไปกับบทบาทซาร่า ที่ชอบพี่บิ๊ก D2B หรือเข้าขากับแก๊งค์เพื่อนผู้ชายได้แบบเป็นกันเองมากๆ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • บทพระเอกต้อ ที่ณัฏฐ์ กิจจริต แสดงนำ มาจากชีวิตจริงของหลานชายผู้กำกับ
  • หนังเลือกถ่ายทำที่จันทบุรี เพราะเป็นบ้านเกิดผู้กำกับ
  • แม้ชื่อหนังจะใช้ชื่อว่า 14 อีกครั้ง แต่ไม่มีเพลงพี่เสก โลโซ อยู่ในหนังเลย
  • ผู้กำกับขออนุญาตครอบครัวคุณบิ๊ก D2B เพื่อจำลองฉากส่งกำลังใจไปใส่ในหนัง
  • สาเหตุหลักที่หนังใช้เหตุการณ์ในปี 2003 เพราะอยู่ในช่วงยุคสมัยเปลี่ยนผ่านจาก Analog สู่ Digital
  • แม้จะเป็นเพื่อนใน 14 อีกครั้ง แต่ชีวิตจริง ณัฏฐ์ กิจจริต อายุมากกว่า ณิชา ณัฏฐณิชา นางเอกในเรื่องมากกว่าถึง 3 ปี
  • น้องโมเน่ต์ ภาริตา ริเริ่มกุล เกิดหลังจากที่พี่บิ๊ก D2B เสียชีวิตไปแล้ว แต่เธออินกับเรื่องราวของพี่บิ๊กมาก เพราะคุณแม่ชื่นชอบวง D2B
  • ณัฏฐ์ กิจจริต และ ภูผา เคยเจอกันมาแล้วในซีรีส์ แปลรักฉันด้วยใจเธอ