Timeline (2014)

จดหมาย ความทรงจำ

Timeline Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

อาจไม่ใช่หนังรักที่โรแมนติกและสมบูรณ์แบบ
แต่หนังย้ำเตือนว่าคนใกล้ตัวคือคนสำคัญที่สุดในชีวิต
โดยที่แฝงคำคมมากๆในหนังที่ฟังแล้วขนลุก

หมวดหมู่ : Drama Romantic
สัญชาติ : Thai
กำกับโดย : Nonzee Nimibutr
ความยาว : 2 ชั่วโมง 15 นาที
นักแสดงนำ : Jirayu Tangsrisuk, Jarinporn Joonkiat

คำคมจากภาพยนตร์

"ชีวิตคนเรา มันไม่แน่นอนหรอก ถ้ารู้ว่าตัวเองอยากทำอะไร ก็ต้องรีบทำก่อนจะไม่มีโอกาส"

เรื่องย่อ

เรื่องความรักของ มัท กับ ทัน ที่ฝ่ายชายเสียชีวิตไปก่อนที่ แทน ลูกชายของพวกเขาจะเกิด มัท จมปลักอยู่กับจดหมายและความหลังของรักที่จากไปจนค่อยๆสร้างภาพของ ทัน ในตัว แทน เพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่า คนรักยังอยู่ ทว่า แทน ในวัยรุ่นรู้สึกอึดอัดจึงแอบเลือกเรียนในคณะวารสารศาสตร์ที่มหาลัยที่กรุงเทพฯแทนที่จะเป็นคณะเกษตรในเชียงใหม่ ชีวิตในเมืองหลวง แทน ได้พบกับ จูน สาวน้อยน่ารักสดใสที่มีความมั่นใจ เป็นตัวของตัวเองสูง จูน แอบรัก แทน แต่ แทน แอบชอบ รุ่นพี่ซึ่งเป็นญาติของเธอ และต่อมา จูน คือคนที่ทำให้ แทน เปลี่ยนแปลงตัวเองไปตลอดกาล

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Timeline คือหนังรักโรแมนติกที่มีกลิ่นอายเหมือน The Letter แต่เนื้อหามีความร่วมสมัยหยิบวัฒนธรรมคนเมืองในกลุ่มวัยรุ่นมาเล่าเรื่องแทนการเขียนจดหมาย หนังทำให้เรานึกถึงความสำคัญของชีวิตคนใกล้ตัวที่เรามักมองข้าม เรื่องราวมันช่วยกระตุ้นและย้ำเตือนเราว่าเวลาเป็นสิ่งที่มีค่าควรใส่ใจให้ความสำคัญกับคนที่อยู่กับเรามากกว่าจะไปมองในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หนังเหมาะกับคนที่ลังเลไม่แน่ใจว่าชีวิตต้องการอะไรเมื่อดูจบคุณน่าจะรู้คำตอบเหมือนที่พระเอกเจอมันแล้วในวันที่เขาสูญเสียผู้หญิงที่ดีสุดในชีวิตไป

  • สายหนังดราม่า
  • สายหนังโรแมนติก
  • สายหนังเรียกน้ำตาผู้ชม

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หนังเหมือนเป็นอีกพาร์ทหนึ่งของ The Letter แต่บทหนังมาพร้อมกับมุมมองยุคสมัยใหม่ที่แตกต่างกัน เปลี่ยนมาเป็นชีวิตหนุ่มสาววัยเรียนมหาลัยในโลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยความฉาบฉวยเพราะสิ่งเร้ารอบตัว ที่เราต้องระมัดระวังสิ่งรอบข้าง ต้องปรับตัว เรียนรู้ การมองเห็นความสำคัญของคนใกล้ตัว, คนในครอบครัว รวมไปถึงประเด็นการเดินตามสิ่งที่ใจเราต้องการ ค้นหามัน และทำมันให้เป็นจริง เพื่อที่วันนึงในอนาคตเราจะได้ไม่เสียดายที่ยังไม่ได้ทำเมื่อหันกลับมามองมันอีกครั้ง หลากหลายประเด็นที่ถูกสอดแทรกเข้าสู่ Quote ต่างๆของตัวละคร สะเทือนใจ และกินใจ

สิ่งหนึ่งที่ช่วยทำให้หนังเรื่องนี้ดูพิเศษ นอกจากบทที่มาค่อนข้างดีในองค์รวมแล้ว นั่นก็คือการแสดงที่บอกได้เลยว่า หนังพิเศษขึ้นจริงๆ เพราะการแสดงของเจมส์ จิรายุ, เต้ย จรินทร์พรและป๊อก ปิยธิดา หรือแม้กระทั่งปีเตอร์ ชัยนามก็ตาม ทั้งสี่นักแสดงเรียกได้ว่ามาพร้อมพลังในการถ่ายทอดอารมณ์ที่ต่างก็ไม่มีใครยอมใคร และเข้าถึงตัวแคแรกเตอร์ที่รับผิดชอบได้อย่างสนิทใจ เนื้อหาของหนังมีบางจุดเชื่อมเข้าหากันกับ The Letter  ต่อยอดเหตุการณ์บางช่วงตอนมาสู่ภาคนี้ด้วยกิมมิคบางอย่างที่ทำให้เราเชื่อมต่อหนังทั้งสองเรื่องเข้าด้วยกัน ในขณะเดียวกันหนังก็สาดประเด็นต่างๆเข้ามาสอนใจอย่างได้ผล และเข้าสู่ชีวิตความเป็นจริงในโลกทุกวันนี้ได้อย่างดี

ช่วงท้ายของหนังเล่นเอาคนดูสะเทือน มีหลากหลายประเด็น เพราะเป็นการระเบิดอารมณ์ความรู้สึกความปรารถนาที่มีของตัวละคร ซึ่งมันเป็นการไต่ระดับจากเบาบางและพีคถึงขีดสุด  ถ้าเป็นคนที่ต่อมน้ำตาแตกง่ายอาจหลุดไปเลย สิ่งสุดท้ายที่อยากจะชื่นชมอีกจุดหนึ่งคือเรื่องของการเลือกเฟรมภาพการมุมกล้องที่ดึงอารมณ์นักแสดงให้สอดคล้องกับโลเคชั่นการถ่ายทำในหลายๆจุด ทั้งอำเภอสะเมิง, อำเภอฝาง ที่เชียงใหม่ บริเวณถนนราชดำเนิน, จังหวัดซากะที่ญี่ปุ่น คือต้องนี้ช่วยให้หนังโรแมนติกมาก

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • "เต้ย" จรินทร์พร จุนเกียรติ คว้ารางวัล นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมสุพรรณหงส์ ครั้งที่ 24
  • "ปีเตอร์" นพชัย ชัยนาม คว้ารางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม จากคมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 12
  • "อุ๋ย" นนทรีย์ นิมิบุตร ใช้เวลา 2 ปีในการทำบทหนังเรื่องนี้
  • หนังใหญ่เรื่องสุดท้ายของ "อุ๋ย" นนทรีย์ นิมิบุตร และเขายังไม่ได้กำกับหนังมานาน 7 ปีแล้ว
  • หนังเรื่องแรกของ "เต้ย" จรินทร์พร ที่ไม่ได้ทำงานกับ GTH