Funny Games (1997)

เกมวิปริต

Funny Games Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังทรมานบันเทิงอันแสนบ้าคลั่งอันไร้เหตุผล
สร้างตัวละครคู่หูนรก และฉากรีโมตในตำนานที่ไม่มีวันลืม

หมวดหมู่ : Crime Drama Thriller
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Michael Haneke
ความยาว : 1 ชั่วโมง 48 นาที
นักแสดงนำ : Susanne Lothar, Ulrich Mühe, Arno Frisch

คำคมจากภาพยนตร์

“What do you think? You think they stand a chance?”
“คุณคิดยังไง? คุณคิดว่าพวกเขายังมีโอกาสรอดหรอ?

เรื่องย่อ

ครอบครัวหนึ่งที่ไปที่บ้านพักตากอากาศนอกเมือง ในขณะที่พวกเขากำลังใช้ชีวิตกันอย่างปกติสุข ก็ต้องพบกับ ปีเตอร์ ชายแปลกหน้าที่เข้ามาขอไข่จากบ้านนี้ ด้วยความที่ไม่คิดอะไรคนเป็นแม่ในบ้านเลยให้ไข่เขาไป แต่เท่านั้นยังจบเมื่อชายแปลกหน้าดันทำไข่แตกแล้วยังมาขออีก ด้วยความหงุดหงิดเธอจึงต่อว่าปีเตอร์ จนกระทั่งเขากลับมาพร้อมกับ พอล ชายแปลกหน้าอีกคนที่เรียกร้องให้เธอขอโทษกับการกระทำดังกล่าว จนกระทั่งพ่อของบ้านจึงเข้ามาหวังจะแก้สถานการณ์ แต่กลับโดนทำร้ายเสียก่อน เกมแห่งความอำมหิตของครอบครัวที่ต้องเอาตัวรอดจากโรคจิตทั้งสองจึงเริ่มต้นขึ้น

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Funny Game นี้ แม้จะชื่อดูเกมอันแสนบันเทิง แต่ตัวหนังกลับเป็นขั้วตรงข้ามกับสิ่งนั้นซะเหลือเกิน และไม่เหมาะเป็นอยากยิ่งสำหรับใครกำลังอยากหาหนังดูในวันสบายๆ อารมณ์ดีๆ เพราะเรื่องนี้มันจะทำคุณจิตตกได้ไม่ยาก แต่ในทางกลับกัน สำหรับคอหนังโรคจิต คอหนังสายโหด ที่พร้อมให้หนังมาบดขยีี้สภาพจิตใจคุณแล้ว รับรองได้ว่านี่จะเป็นอีกหนังที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี กับความตึงเครียดที่ต้องนั่งเฝ้าดูชะตากรรมที่ตัวละครในเรื่องต้องเผชิญโดยที่ไม่มีท่าทีว่าจะรอดไปได้แต่อย่างใด แถมยังต้องเจอกับฉากสุดพิสดารจนชวนเหวอกันเข้าไปอีก หากใครชอบหนังสไตล์คนแปลกหน้าบุกบ้านแบบ Strangers หรือ Funny Games เวอร์ชั่นใหม่แล้ว นี่คือต้นฉบับสุดโหดต้องดู

  • สายหนังโรคจิตอำมหิต
  • สายหนังระทึกขวัญเอาตัวรอด

รีวิว / สรุปเนื้อหา

อีกหนึ่งผลงานระทึกขวัญถึงขีดสุดอีกเรื่องในโลกภาพยนตร์ ผลงานจากฝีมือของผู้กำกับ Michael Haneke ที่สร้างชื่อโด่งดังจากหนังเรื่องนี้ด้วยความเฉพาะตัวที่ทำให้คนดูจำจนวันตายกับฉากในตำนาน (และได้มากุมบังเหียนกำกับในฉบับอเมริกันต่อ) ซึ่งจุดเด่นของหนังก็คือความโหด ดิบ เถื่อนแบบที่ไม่ปราณีคนดูแต่อย่างใด และไม่เหลือความหวังอะไรให้กับคนดูสักเท่าไร เพราะแค่ฉากเปิดของการเดินทางของครอบครัวหนึ่งในรถกับบรรยากาศเพลงคลาสสิคอันแสนสุขสรรค์ แต่แล้วก็ถูกเปลี่ยนไปเป็นแนวเฮฟวี่เมทัลสุดคลั่ง ที่ทำให้คนดูพอจะเดาชะตากรรมตัวละครได้ไม่ยาก ว่าจากความสุขสันต์นี้ จะไปจบลงในทางใด

และนั่นไม่ใช่แค่ความขัดแย้งเดียวที่เกิดขึ้นในหนัง เพราะแม้กระทั่งคนร้ายโรคจิตทั้งสองในเรื่อง ก็แต่งกายในลักษณะชุดขาวที่ควรจะสื่อถึงความสะอาด บริสุทธิ์ แต่กลับมีสภาพจิตใจที่บิดเบี้ยวจนเกินเยียวยา กับพฤติกรรมต่างๆ ของพวกเขาในฐานะคนแปลกหน้าที่เข้ามาคุกคามตัวละครในบ้าน โดยที่คนดูไม่สามารถเข้าไปเอาใจช่วยตัวละครใดได้จากความน่ากลัวของพวกมัน ความโหดของหนังเรื่องนี้ อาจไม่ได้อยู่ที่การทรมานแค่ทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังเน้นในเรื่องการทรมานจิตใจ การได้เห็นความตายที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา และทำลายกฏของหนังระทึกขวัญ หรือสยองขวัญในหลายๆ เรื่องไปจนหมดสิ้นจนคาดเดาชะตากรรมของตัวละครแต่ละตัวไม่ได้เลยจริงๆ

ระดับความตึงเครียดที่หนังสร้างขึ้นมา หนักหนาไปจนถึงสร้างความสิ้นหวังให้กับคนดู แม้ว่าจะมีฉากที่ดูมีความหวังขึ้นมา แต่ก็ต้องถูกทำลายลงด้วยน้ำมือของผู้กำกับ แม้ว่าไม่จะไม่สมเหตุสมผลเลยก็ตาม ก็ทำให้คนดูเหวอหนักถึงขนาดว่า เอาแบบนี้กันเลยหรอ ทั้งหมดนี้มันเลยเป็นความทรมานบันเทิงชั้นเยี่ยมอีกเรื่องที่ตรึงคนดูเอาไว้กับความเครียดได้อย่างดีเยี่ยม และมีฉากที่น่าจดจำที่รับรองได้ว่าคุณจะต้องจำหนังเรื่องนี้ไปตลอดชีวิต และด้วยความที่ดาราไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ก็เลยทำให้ฉบับนี้ เดือดกว่าตัวรีเมคที่เราคุ้นหน้าค่าตากับตัวละครแบบเห็นได้ชัด

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ตอนที่หนังฉายที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ในปี 1997 มันทำเอาคนดูหลายๆ คนถึงกับช็อคกับหนังไปเลย รวมถึงนักวิจารณ์บางคน ก็เดินออกจากโรงไปในขณะฉายด้วยซ้ำ
  • Ulrich Mühe และ Susanne Lothar ที่เล่นเป็นพ่อบ้านกับแม่บ้านที่ถูกทรมายทรกรรมในเรื่องนี้นั้น กลายมาเป็นสามี ภรรยากันในชีวิตจริงจากหนังเรื่องนี้ก่อนที่ Ulrich Mühe จะเสียชีวิตไปเมื่อตอนปี 2007