The Man From Nowhere (2010)

นักฆ่าฉายาเงียบ

The Man From Nowhere Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังล้างแค้นเกาหลีที่โคตรดาร์คโคตรมันส์ โหดดิบเถื่อนฉากฆ่าที่รวดเร็ว สอดแทรกประเด็นดราม่าผ่านตัวละครที่พบเจอความเจ็บปวดกลายเป็นงานแอ็คชั่นคุณภาพจากเกาหลี

หมวดหมู่ : Action Crime
สัญชาติ : South Korean
กำกับโดย : Lee Jeong-beom
ความยาว : 1 ชั่วโมง 59 นาที
นักแสดงนำ : Won Bin, Kim Sae-ron, Thanayong Wongtrakul

คำคมจากภาพยนตร์

“แกจะได้รู้ ว่าการมีชีวิตอยู่เพื่อวันนี้มันเป็นยังไง”

เรื่องย่อ

อดีตทหารที่มีความหลังที่เจ็บปวดใช้ชีวิตแบบสันโดษในโรงรับจำนำเก่าๆ จนได้พบกับเด็กสาวข้างบ้านที่ชอบมาลักขโมยของที่ร้าน การเจอกันบ่อยครั้งทำให้ทั้งคู่เริ่มผูกผัน และเธอชอบขอมานอนด้วยเพื่อหนีปัญหาที่บ้านเพราะมีแม่เป็นสาวบาร์ติดยา แต่เขาไม่รู้เลยว่าแม่ของเด็กสาวคนนี้ไปพัวพันแก๊งค้ายาค้ามนุษย์ และโดนพวกมันบุกถึงบ้านลักพาตัวเด็กคนนี้ไปด้วย จากคนธรรมดาไร้จุดหมายปลายทางในชีวิต ทำให้เขาต้องงัดสกิลการฆ่าคนทุกรูปแบบเพื่อช่วยเหลือก่อนที่เธอจะถูกนำอวัยวะไปขายในตลาดมืด

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ The Man From Nowhere เป็นหนังแอ็คชั่นล้างแค้นที่เข้าพวกแบบ John Wick เรื่องนี้ยังไงก็ติดโผแบบไม่มีอะไรโต้แย้งกลิ่นอายหนังฟิล์มนัวร์ที่มีพูดถึงคนมีปมในใจตราบาปที่ยากจะลืมขังตัวเองอยู่กับความทุกข์ แต่แล้วเมื่อมีเหตุร้ายแรงบีบให้เขาต้องออกมาสู้ ดูเหมือนว่าหนังแนวนี้จะกลายเป็นเทรนด์โลกยุคใหม่กับการสร้างหนัง และเกาหลีก็เหมือนจะบุกเบิกว่าพอสมควร พอย้อนกลับไปดูอีกครั้ง มันส์สะใจมีปมดราม่าแถมโยงใยไปยังประเด็นที่ย่ำแย่ในสังคมเกาหลีแบบชัดเจน ไม่แปลกใจที่หนังเรื่องกลายเป็นงานขึ้นหิ้งไปเรียบร้อยแล้ว

  • สายหนังแอ็คชั่น Old School
  • สายหนังแอ็คชั่นมันส์ระห่ำ
  • สายหนังล่าล้างแค้น

รีวิว / สรุปเนื้อหา

รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มีความมันส์มีความสนุกในแง่ของบทที่ไม่ได้เล่าเรื่องแล้วเน้นฉากแอ็คชั่นฆ่ากันอย่างเดียว แต่ยังเล่าเรื่องได้มีมิติซับซ้อนดำดิ่งไปกับตัวละคร Cha Tae-sik ชายหนุ่มที่ไร้ชีวิตแบบไร้จุดหมายในโรงรับจำนำไม่พูดไม่จาอะไรกับใครใช้ชีวิตแบบสันโดษ อารมณ์ที่เศร้า หนังเปิดเรื่องได้น่าสนใจไม่มีอะไรน่าเบื่อพาคนดูไปสัมผัสปมปัญหาช่วงแรก ทำให้เห็นถึงความผูกพันธ์ของนักฆ่ากับเด็กสาว แม้ว่าในตอนแรกอีกฝ่ายจะเย็นชาใส่ก็ตามในทีแรก แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาเห็นความน่ารักของเด็กสาว มันทำให้เขารู้สึกว่าชีวิตไม่ได้โหดร้าย เมื่อเธอถูกจับตัวไป มันเลยบีบบังคับให้ชายหนุ่มคนนี้ออกมาต่อสู้ หนังค่อนข้างสนุกตรงที่ว่า มันไม่ได้เกี่ยวโยงกับแก๊งค์ค้ายาอย่างเดียว แต่มันยังมีประเด็นตำรวจเลวอีก การแบล็คเมลล์ หรือแก๊งค์ค้าอวัยวะ กลายเป็นว่ามันสนุกที่หนังไม่ได้มีเรื่องราวการมาล้างแค้น แต่ยังเปิดพื้นที่ให้เห็นความซับซ้อนของหนังเพิ่มเข้าไปอีก ปมดราม่าของหนังค่อนข้างดีตามสไตล์หนังเกาหลี พอมาผสมผสานกับพล็อตเรื่องมันกลายเป็นว่าทุกอย่างกลมกล่อมดี และโยงใยไปสู่การล้างแค้นที่มันส์สะใจคนดู

ความน่าสนใจของหนังคือการออกแบบฉากแอ็คชั่นที่ดูยังไงก็สนุกพีคมาก คิวบู๊รวดเร็วการต่อสู้แบบตัวต่อตัวโหดใส่กันยับเยิน การตัดต่อกระชับมากๆ รับรู้เลยว่าตัวหนังคงได้อิทธิพลจากหนังสายลับอย่าง Jason Bourne มันสนุกตรงที่ว่าแม้ว่า Cha Tae-sik มีทักษะการต่อสู้ที่ไหวพริบดี แต่เขาก็เจอคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้ออย่าง Ramrowan นักฆ่าของแก๊งค์ค้ายาและค้าอวัยวะ ที่สกิลดีไม่แพ้กัน กลายเป็นว่าซัดกันแหลกไปข้างหนึ่ง ทั้งยิงปืนสาดกระสุน ใช้มีด การต่อสู้ด้วยมือเปล่า ค่อนข้างชอบการท้าทายในผับ คือมันเท่ห์มาก ตัวหนังเองก็ใช้บรรยากาศรอบข้างได้ดี ทำให้คิวบู๊ที่ออกมาเล่นได้สมจริงไม่ได้มี Fake ดุเดือดเลือดสาด ไม่ได้เว่อเกินไป หนังเองก็มีฉากมันส์ๆที่ดีไม่แพ้ John Wick ด้วยซ้ำ

นี่คืองานคุณภาพของ Won Bin พระเอกหนุ่มหล่อก่อนที่เขาจะไม่รับงานแสดงอีก คาแรกเตอร์ Cha Tae-sik ค่อนข้างนิ่งเยือกเย็น แต่เมื่อถึงความอันตรายตัวละครดุดันพร้อมบวกพร้อมแลกแบบคนไม่มีอะไรจะเสีย การเล่นฉากแอ็คชั่นดูเท่ห์ คิวบู๊การเล่นงานฉากคนแบบ 1 ต่อ 1 รวดเร็วทุกฉาก นี่ยังไม่รวมถึงประเด็นดราม่า ที่ตัวละครนี้มีปูมหลังที่น่าเห็นอกเห็นใจ การแสดง 2 พาร์ทนี้ไม่แปลกใจที่ในเวลานั้นคว้ารางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมหลากหลายสถาบันในเกาหลีช่วงปี 2011 อีกคนที่ชื่นชมคือคุณกระดุม ธนายง ว่องตระกูล เขาอาจจะไม่ใช่นักแสดงที่น่าจดจำในไทย แต่เมื่อถูกนำมาแสดงเป็นนักฆ่าสู้กับ Won Bin กลับกลายเป็นความมันส์มากๆ งานชิ้นนี้ทำให้เราได้เห็นมิติที่ซับซ้อนของคุณกระดุมที่ไม่เคยเห็นจากงานแสดงในไทยเลย องค์ประกอบหนังช่วยให้ผู้ชมเห็นความเหี้ยมโหดผ่านสีหน้าแววตาของตัวละครนี้

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • นี่คือผลงานในวงการบันเทิงเรื่องสุดท้ายของ Won Bin หลังจากนั้นเขายังไม่รับงานแสดงอีกเลย ตลอด 12 ปี
  • ธนายง ว่องตระกูล ขอค่าตัว 2 แสนบาท แต่ได้เงินกลับมา 2 ล้านบาท
  • เปิดตัวเป็นอันดับ 1 ตอนที่เข้าฉายปี 2010 และทำรายได้สูงสุดของหนังในปีนั้น ทำรายได้ไป 42 ล้านเหรียญฯ
  • ทีมผู้สร้าง John Wick จะนำหนังไปรีเมคเป็นเวอร์ชั่นอเมริกัน
  • มีการซื้อลิขสิทธิ์หนังมาแล้ว 12 ปี แต่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง