ซึ่งในโลกของภาพยนตร์ก็มีหลายชาติที่ชอบสร้างคอนเทนท์แนวๆ นี้ออกมา (แต่แปลกที่เราไม่ค่อยเห็นหนังอเมริกันยกพวกตีกันสักเท่าไร) และเชื่อว่าหลายๆ คนก็จะชอบแนวนี้ เพราะถึงแม้จะเป็นเรื่องราวของกลุ่มนักเลง แต่ก็มักจะมีประเด็นของมิตรภาพในกลุ่มเพื่อนในแบบที่ตายแทนกันได้ ความภักดีต่อหัวหน้าหรือคนเป็นนาย เป็นนักเลงที่รักความยุติธรรม และฉากแอคชั่นที่ซัดกันแบบดุเดือด ก็ล้วนเป็นจุดเด่นของหนังแนวๆ นี้ทั้งนั้น วันนี้โกดังหนังจึงอยากหยิบยกเรื่องราวของแก๊งนักเลงวัยรุ่นในโลกภาพยนตร์มาแนะนำกันว่าจะมีเรื่องอะไรบ้าง

Valcano High (2001) – ศึกป่วนฟ้า โรงเรียนมหาเวทย์

คิม ยองซู เด็กหนุ่มที่เพิ่งย้ายเข้ามาเรียนที่ Volcano High โรงเรียนมัธยมที่รวบรวมเด็กผู้ที่มีพลังพิเศษ แม้ว่าเขาจะมีพลังแข็งแกร่ง แต่ก็ต้องเก็บงำพลังเอาไว้จากคำสอนของพ่อ จนกระทั่งโรงเรียนเกิดเรื่องวุ่นวายจากการแย่งชิงอำนาจกันภายใน เพื่อต้องการครอบครองคัมภีร์วิชาศักดิ์สิทธิ ที่หากใครได้ไปจะกลายเป็นเจ้าแห่งจอมเวทย์ที่มีพลังสูงส่ง จนทำให้ ยองซู เอง ต้องออกโรงยอมใช้พลังของเขาเพื่อปกป้องโรงเรียนนี้จากกลุ่มผู้ที่หวังจะทำลายมัน

หนังสไตล์ยกพวกตีกันแบบหลุดโลก เหนือจินตนาการ ที่หากใครไม่ชอบก็อาจจะเกลียดมันไปเลย เพราะเนื้อหาเรื่องราวมันค่อนข้างจะเลอะเทอะ ต๊องๆ มากๆ แต่ส่วนตัวคือชอบความบ้าของมัน ในการต่อยตีกันแบบเว่อร์ๆ มีเคล็ดลับวิชาแบบหนังจีน มีตัวละครปล่อยพลังการแบบเท่ๆ ไม่มีอะไรหนักหัว เหมือนนั่งดูการ์ตูนสาย Jump สักเรื่อง ยิ่งประกอบกับทีมพากษ์ไทยของพันธมิตรแล้วยิ่งฮาน้ำตาไหลกันเข้าใหญ่ จนทำให้เมื่อนึกถึงแนวยกพวกตีกันสักเรื่อง ก็จะแอบนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาตลอดเลย เหมาะสำหรับถอดสมองกองไว้บ้านแล้วนั่งดูเพลินจริงๆ

Crows Zero (2007)

เก็นจิ นักเรียนชั้นปีสามที่เพิ่งย้ายเข้ามาใหม่ ใน สุซุรัน โรงเรียนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงเรียนที่ชอบใช้ความรุนแรงที่สุดในประเทศ โดยนักเรียนมักมีปัญหาตีกันเพื่อแย่งชิงอำนานบ่อยครั้ง เก็นจิจึงได้รับมอบหมายจากพ่อให้สืบทอดอำนาจขององค์กรมาเฟียขนาดใหญ่ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องยึดซูสุรันมาให้ได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อ ทามาโอะ เซริซาว่า ผู้นำกลุ่มผู้ทรงอำนาจของ กองกำลังเซริซาว่า เป็นผู้ที่คุมโรงเรียนอยู่ ทำให้ เก็นจิ เองจึงต้องค่อยๆ เรียนรู้ชีวิตนักเลงในที่แห่งนี้ และทำตามเป้าหมายที่มีให้ได้

อีกหนึ่งหนังที่ดัดแปลงมาจากมังงะชื่อดังชุด Crows โดยหยิบเอาภาค Crows Zero ที่มี 9 เล่มมาใช้ ในขณะที่จักรวาลนี้ยังมีภาคอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งฉบับหนังก็เรียกได้ว่าดัดแปลงมาได้ดีเลย ตั้งแต่การแคสดาราที่เรียกได้ว่าเป็นชื่อดังระดับคุณภาพมากๆ ส่วนคุณภาพของหนังเองก็มีโทนที่เข้มข้น ทั้งในพาร์ทดราม่า มิตรภาพ และการแย่งชิงอำนาจ ที่ทำออกมาได้ดีน่าติดตาม ส่วนนึงก็ต้องชื่นชมผู้กำกับอย่าง Takeshi Miike สายโหด ที่สร้างสรรค์มันออกมาได้เป็นอย่างดี จนทำให้หนังมีภาคต่อตามมา และเป็นหนังอันธพาลวัยรุ่นอีกเรื่องที่น่าจดจำเหลือเกิน

My Boss My Hero (2001)

แกดูซิก หัวหน้ามาเฟียรุ่นเล็กที่ไม่เติบโตไปไหนเพราะสติปัญญาที่ไม่ถึงขั้น ทำให้บรรดาคนรุ่นใหญ่ที่อยากผลักดันนั้นอยากให้เขากลับไปเรียนมัธยมปลายให้จบ เพื่อให้ดูมีการศึกษาและเหมาะกับตำแหน่งหัวหน้ามากกว่านี้ ทำให้ทั้งเขาในวัย 40 และลูกน้องนั้น ต้องกลับไปเนียนเรียนมอปลายกันอีกครั้ง แต่แล้วเขากลับได้พบกับปัญหาในโรงเรียนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการคอรัปชั่น ปัญหาการทำร้ายตีกันแบบอันธพาล ไม่ต่างอะไรจากโลกที่เขาอยู่ เขาจึงตัดสินใจที่จะลงมือทำอะไรสักอย่าง

อีกหนึ่งหนังที่ดัดแปลงกันมาหลายทอดมากๆ เพราะจุดเริ่มต้นแรกเริ่มนั้น มันก็มาจากมังงะของญี่ปุ่น ก่อนที่จะถูกดัดแปลงเป็นซีรี่ส์ญี่ปุ่น และมาเป็นภาพยนตร์ฉบับเกาหลีนี้ ซึ่งมันก็ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว เพราะนอกจากความฮาบ้าบอแล้ว (ซึ่งเครดิตส่วนใหญ่ก็ต้องยกให้การพากษ์ทีมพันธมิตร) หนังยังเสียดสีถึงระบบการศึกษาในประเทศได้อย่างเจ็บแสบ ทั้งเรื่องของการรับเงินใต้โต๊ะ ไปจนถึงความดาร์คในแบบที่คาดไม่ถึง ทำให้ความเป็นดราม่าสู้ชีวิตของแต่ละตัวละครในเรื่องก็ล้วนหนักไม่แพ้ความฮาเลย จนทำให้หนังมีภาคต่อตามมา เมื่อ แกดูซิก ต้องไปสอนหนังสือวิชาจริยธรรมแทน ซึ่งก็ป่วนเละเทะพอๆ กันเลย

Young and Dangerous (1996)

เฉินเฮ่าหนาน และเพื่อนในวัยเด็กที่เติบโตมาด้วยกันนั้น ต่างเป็นนักเลงชั้นปลายแถวที่หาเรื่องคนอื่นไปทั่ว จนวันหนึ่งก็ได้ไปมีเรื่องกับนักเลงเจ้าถิ่น แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจาก พี่บี จนได้มีโอกาสเข้า แก๊งมาเฟียอย่าง แก๊งหงซิ่ง ที่ควบคุมธุรกิจต่างๆ ในฮ่องกง ท่ามกลางความขัดแย้งภายในที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่องานที่ได้รับมอบหมายดันเกิดความผิดพลาดเพราะโดนซ้อนแผน ทำให้ เฉินเฮ่าหนาน และ ไก่ป่า เพื่อนสนิทกันมายาวนาน ก็ต้องแยกเป็นสองทาง

จะให้เรียกว่าเป็นหนังตำนานนักเลงก็คงไม่ผิดนัก เพราะนับเป็นหนังอีกเรื่องที่ข้ามผ่านกาลเวลามาได้อย่างสวยงาม และยังเป็นที่ถูกพูดถึงและหยิบมาดูได้บ่อยครั้งในทุกวันนี้ ด้วยความที่หนังหยิบเอาเรื่องราวง่ายๆ จากวงการมาเฟีย นักเลง มาเล่าผ่านสายตาของวัยรุ่น มีฉากดราม่าความเป็นพี่น้องคนละสายเลือด ฉากแอคชั่นเดือดๆ และความเป็นนักเลงบอยแบนด์แล้ว ก็ไม่แปลกใจที่มันจะเป็นหนังสายนักเลงแห่งยุค 90s และยังมีภาคต่อมาจนถึงภาค 6 ในปี 2000 ด้วย เรียกว่าใครที่ชอบไปแล้วก็ควรตามเก็บให้ครบๆ กันไป

Chromartie High (2005)

คามิยามะ ทากาชิ นักเรียนธรรมดาๆ ที่นัดหมายกับเพื่อนสนิทวัยเด็กที่หัวไม่ดี ว่าจะสอบเข้าโรงเรียนคุโรมาตี้ โรงเรียนที่ขึ้นชื่อว่ารวมเด็กเลวที่สุดในญี่ปุ่นไปด้วยกัน แต่สุดท้ายเพื่อนของเขาดันสอบไม่ติด จึงทำให้เขาเข้ามาเรียนที่คุโรมาตี้เพียงลำพัง เขาเลยได้เผชิญกับอันธพาลหลากหลายรูปแบบ ทั้งหุ่นยนต์ กอริลล่า นักเรียนที่หน้าเหมือนเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ และความพิสดารอื่นๆ อีกมากมาย แต่ที่น่าแปลกคือ เขาดันเข้ากับคนพวกนี้ได้อย่างดีซะด้วยสิ

อีกหนึ่งตำนานบั่นทอนปัญญา ที่จริงๆ ก็รู้สึกว่าใส่มาผิดหมวดแท้ๆ เพราะแม้เนื้อเรื่องจะเป็นแนวนักเลงแก๊ง หรือแนวยกพวกตีกัน แต่สุดท้ายกับกลายเป็นความไร้สาระแบบเต็มสูบ ที่วันๆ ดูเหมือนแต่ละตัวละครจะไม่เรียนหนังสือกันเลย ซึ่งจริงๆ ต้องบอกว่า ส่วนตัวมองว่ามันเป็นงาน Masterpiece ตั้งแต่ฉบับมังงะแล้ว แต่ก็มีไม่กี่คนที่จะเข้าถึงมุขบั่นทอนปัญญาของมันได้ ทำให้ถ้าไม่ชอบแล้ว ก็คงจะเกลียดมันเลยแน่ๆ 55+

Green Street Hooligans (2005)

แมท บัคเนอร์ เด็กเรียนที่เพิ่งถูกไล่ออกจาก Harvard อย่างไม่เป็นธรรม จึงเดินทางมายังเมืองลอนดอนกับพี่สาวเพื่อทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เขาได้พบกับเพื่อนใหม่อย่าง พีท ดันแฮม ชายที่อยู่ในวงการนักเลงฟุตบอลที่มีชื่อว่า GSE และยังมีสมาชิกอีกมากมาย จนทำให้ แมท ได้เข้าสู่โลกของอันธพาลบ้าบอลที่เต็มไปด้วยความรุนแรง อันตราย ที่พร้อมทำร้ายกันถึงชีวิต แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้พบกับมิตรภาพแบบพี่น้องที่หาไม่ได้จากที่ไหนอีกแล้วด้วย 

หนังบ้าพลังของเหล่าอันธพาลลูกหนัง ที่คนดูบอลสายฮาร์ดคอร์น่าจะยิ่งอินหนักเข้าไปใหญ่ เพราะมันเล่าถึงเหล่า Hooligans แฟนบอลสุดป่าเถื่อนที่ชอบสร้างความวุ่นวายให้กับวงการฟุตบอลไม่น้อย โดยเหล่าตัวละครในเรื่องก็เป็นอันธพาลแฟนบอลของ Westham United ที่มักไปดวลเดือดกับทีมอื่นๆ อยู่เสมอ ความสนุกของมันเลยเป็นการที่หนังพาคนดูไปสำรวจด้านมืดนอกสนาม ความเป็นแก๊ง ความรุนแรง ที่เล่นกันถึงชีวิต แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยมิตรภาพ จนนับเป็นหนังอันธพาลอีกเรื่องที่มีความแปลกใหม่ ดิบเถื่อน และจริงใจกับคนดูได้มากเลยจริงๆ

2499 อันธพาลครองเมือง (1997)

แดง หัวโจกอันธพาลเลือดร้อน ที่วางตัวเป็นหัวหน้าแก๊งเพื่อพยายามปกปิดปมของตัวเองที่เป็นลูกของโสเภณี เขาได้ตั้งแก๊งขึ้นมาโดยมีปุ๊, อ่ำ, ดำ, แหลม และเปี๊ยก มาเข้าร่วมและเป็นเพื่อนสนิทกัน พวกเขาสร้างชื่อจากการฆ่านักเลงท้องถิ่นในวันขึ้นปีใหม่ ทำให้ชื่อเสียงของเขาจึงเริ่มโจษจันไปทั่ว แต่เส้นทางของเขาก็ไม่ได้เรียบง่าย เมื่อสมาชิกในแก๊งของเขาต่างแตกหักกันเอง รวมถึงการปราบปรามเหล่าอันธพาลอย่างจริงจังของรัฐบาลในยุคนั้น ก็ยิ่งทำให้ชีวิตของอันธพาลต่างเต็มไปด้วยปัญหาเข้าไปอีก

สำหรับ 2499 อันธพาลครองเมือง คือผลงานหนังไทยคุณภาพที่เลือกหยิบวัฒนธรรมไทยยุคก่อน ที่สังคมวัยรุ่นมักชอบความรุนแรงยกพวกตีกันมาเล่าเรื่องให้เห็นว่าทำไมคนถึงอยากเป็นใหญ่ อยากมีอิทธิพลอยากได้รับการยอมรับ มันคือสิ่งที่คนไทยคิดว่าดูยิ่งใหญ่ มีอำนาจเหนือกว่าที่ข่มผู้อื่น หนังสื่อสารให้เห็นถึงผลเสียที่ตามมาว่าทำไมสังคมไทยถึงเป็นแบบนั้นและความคิดแบบนี้มันยังฝั่งอยู่ในสังคมไทยเรื่อยมา หนังเหมาะกับคนที่รักหนังไทย คนที่ชอบงาน Vintage ย้อนยุคมากจริงๆ

4 Kings (2021)

เรื่องราวของเพื่อนสองคนที่ต้องเดินกันบนละเส้นทาง เมื่อพวกเขาต่างเข้าโรงเรียนช่างคนละแห่ง และยังเป็นสถาบันที่ดันเป็นคู่อริกันสุดๆ จนทั้งสองฝ่ายต่างต้องทิ้งความสัมพันธ์ที่เคยมี และเข้ามาห้ำหั่นกันเอง เพราะบางครั้งสถาบันก็ไม่ค่าไม่ต่างจากมิตรภาพเลยจากศักดิ์ศรีที่แบกรับเอาไว้ จนกลายเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหตุการณ์กลุ่มช่างกลที่ตีกันบ่อยครั้งในยุค 90s ที่จะมาเป็นอุทาหรณ์สอนใจวัยรุ่นในยุคนี้

4 Kings จะเข้าฉายในวันที่ 9 ธ.ค. นี้ นับเป็นอีกหนังไทยที่ดูโปรโมทหนักมากๆ และตัวอย่างก็ดูเดือดอยู่ไม่น้อย กับงานโปรดักชั่นและการตีกันแบบเถื่อนๆ ประกอบกับดราม่าที่น่าจะขับเคลื่อนหนังได้ดีเลย หากใครสนใจหนังแนวๆ นี้ก็รอชมกันได้เลยครับ

Tokyo Revengers (2021)

ทาเคมิจิ ฮานางากิ อดีตนักเลงปลายแถว ที่เติบโตขึ้นมามีชีวิตไม่เป็นไปตามที่หวัง ทั้งอยู่ในอพาร์ตเมนท์ห้องแคบๆ แถมยังต้องทำงานเป็นลูกน้องของคนอายุน้อยกว่า วันหนึ่งเขาได้เห็นข่าวว่า ฮินาตะ ทาจิบานะ แฟนเก่าคนเดียวของเขา กลับเสียชีวิตจากเหตุปะทะของกลุ่มอันธพาลที่มีชื่อว่าแก๊ง โตเกียวมันจิไค ไม่เพียงเท่านั้น วันหนึ่งที่เขาเดินทางกลับบ้าน กลับมีคนผลักเขาลงไปในรางรถไฟ แต่แทนที่เขาจะตาย เขากลับได้ย้อนเวลากลับไปที่ 12 ปีก่อน เขาจึงตัดสินใจที่จะแก้ไขชีวิตในอดีตและช่วยชีวิตแฟนของเขากลับมาให้ได้

Tokyo Revengers ฉบับหนังจะเข้าฉายในวันที่ 2 ธ.ค. นี้ ส่วนตัวได้อ่านฉบับมังงะมาก่อน ก็พบว่ามันเจ๋งมาก ที่เอาแนวยกพวกตีกันที่น่าจะล้าสมัยไปแล้วในยุคนี้ มาใส่พล็อตของการย้อนเวลา ให้มันดูมีอะไรมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการผูกเรื่องก็ยังทำออกมาได้สนุก ไม่ว่าจะเป็นพาร์ทปัจจุบันหรืออดีต ก็ล้วนน่าติดตาม จนทำให้มันดูโดดเด่นกว่าการ์ตูนแนวตีกันทั่วไปมากๆ อยากจะแนะนำให้ไปดูกัน!