9 หนังมฤตยูใต้น้ำ จากน้องฉลามสุดโหด
Hollywood นับเป็นอีกอุตสาหกรรมหนึ่งที่มักยัดเยียดความเป็นตัวร้ายให้กับสิ่งมีชีวิตอย่างฉลามมาโดยตลอด เพราะที่ผ่านมานั้นอัตราที่มนุษย์ฆ่าฉลาม ยังเยอะกว่าจำนวนที่ฉลามฆ่ามนุษย์อีกหลายเท่าตัว จนเรียกได้ว่าหากจะเทียบความโหดร้ายก็นับว่ามนุษย์มีมากกว่าเยอะ แต่ทั้งนี้หากแยกเรื่องความบันเทิงออกมา ฉลามก็นับเป็นตัวร้ายชั้นดีที่จะสร้างฝันร้ายให้กับการลงทะเลให้กับผู้คนได้อยู่ในทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา
ซึ่งสัปดาห์นี้ก็จะมีหนังฉลามเข้าใหม่อย่าง Great White เข้าฉายพอดี จึงนับเป็นโอกาสที่ดีที่จะหยิบเอาหนังฉลามในวงการภาพยนตร์ที่อยากแนะนำมาลองแนะนำกันดู เผื่อว่าใครที่ชอบหนังแนวๆ นี้จะได้มีโอกาสตามหามาดูกัน ถ้าพร้อมแล้วก็เชิญไปลุยกับฉลามสุดโหดในโลกใต้น้ำกันได้เลยครับ
Great White (2021)
หนังฉลามเรื่องใหม่ที่กำลังจะเข้าฉายในสัปดาห์นี้ จากทีมงานผู้สร้าง 47 Meter Down ที่เล่าเรื่องของ กลุ่มเพื่อนร่วมทริปที่ดันเครื่องบินตกกลางทะเล จนทำให้พวกเขาต้องหนีขึ้นไปบนแพยางที่ดูเหมือนจะเป็นทางรอดเดียวของพวกเขา ท่ามกลางฝูงฉลามที่รอจู่โจมพวกเขาอยู่ใต้น้ำ และพร้อมที่เขมือบทุกคนไม่ให้ออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้
Jaws (1975) – จอว์ส
หาด อมิตี้อันแสนสงบ กลับต้องเกิดเหตุฉลามที่เข้ามากินคน แต่ก็ไม่มีใครเชื่อว่าฉลามจะเข้ามาในแถบนี้ ทางคนในเมืองเลยจะมีการจัดกิจกรรมประจำปีที่หาดแห่งนี้ และจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวคับคั่ง เลยทำให้ มาร์ติน ตำรวจของประจำอมิตี้, ควินน์ นักล่าปลาฉลาม และ แมทท์ นักวิทยาศาสตร์ที่เชี่ยวชาญเรื่องธรรมชาติ ต่างต้องรวมตัวกันเพื่อล่าฉลามสุดโหด ก่อนที่จะเหตุสยองขึ้นมาอีก
สำหรับ Jaws นั้นคืออีกตำนานของหนังสัตว์สยองอีกเรื่องที่ยากจะหาหนังเรื่องไหนมาเทียบได้ ด้วยความอัจริยะในการทำหนังของผู้กำกับ Steven Spielberg ก็สร้างสรรค์หนังออกมาได้เป็นอย่างดี ด้วยทุนไม่ถึง 10 ล้านเหรียญ รวมไปถึงฉากฉลามโผล่น้อยมากก็ตาม แต่คนดูก็จะยังสัมผัสได้ถึงความระทึก ความน่ากลัวของมัน จนต้องเสียวสยองไปกับการลงทะเลกันไปเลย ซึ่งการเอามาดูในยุคนี้หลังจากผ่านมาหลายสิบปี ก็ต้องยอมรับว่ามันยังคงดูสนุก และควรค่าแก่การหยิบมาดูซ้ำ
47 Meters Down (2017) – ดิ่งลึกเฉียดนรก
เคต และลิซ่า สองพี่น้องที่มาเที่ยวชมทะเลสุดเสี่ยง เมื่อเธอสองคนต้องลงไปในกรงเพื่อชมโลกใต้น้ำ แต่แล้วความซวยก็มาเยือนเมื่อสายที่ยึดกรงเอาไว้ก็ดันขาด จนกรงของทั้งคู่นั้นตกลงไปในใต้น้ำความลึก 47 เมตร ท่ามกลางฉลามหิวโซที่ว่ายวนเวียนอยู่ พวกเธอต้องหาทางรอดกลับขึ้นบนผิวน้ำให้ได้ โดยแข่งกับเวลาของออกซิเจนที่กำลังลดลงเรื่อยๆ
สำหรับ 47 Meters Down หนังฉลามอีกเรื่องของวงการที่หาความแปลกใหม่โดยการให้ 2 ตัวละครติดอยู่ในกรงใต้น้ำ หนังเลยออกมาสนุกอยู่ไม่น้อยกับการให้เราได้ไปลุ้นอยู่กับการคิดว่า 2 คนนี้จะรอดออกไปได้อย่างไร ภายใต้สถานการณ์ที่กดดันและลุ้นระทึกมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งแม้ว่าพล็อตหนังจะกลวงๆ เล่าง่ายๆ แต่สุดท้ายก็ยังอุตส่าห์มีอะไรมาเซอร์ไพร์ซให้มันเกินความคาดเดากันอยู่ แต่เราก็เชื่อว่าสำหรับคนที่ดูหนังฉลามมาเยอะๆ ก็อาจจะคิดว่ามันธรรมดาไปสักหน่อย และอาจไม่หวือหวาเท่าที่ต้องการ แต่ทั้งนี้หนังยังมีภาคต่อ
The Meg (2018)
โจนาส เทย์เลอร์ และ ดร. จาง ซูหยิน บรรดาทีมนักวิทยาศาสตร์และสำรวจใต้ทะเลนั้นต้องพบกับความท้าทายอีกครั้ง เมื่อรอยแยกใต้ท้องมหาสมุทรขยายตัวออกมา จนกลายเป็นรอยขนาดใหญ่ที่ทำให้ฉลามเจ้าฉลามยักษ์เม็กกาโลดอนได้หลุดออกมาสู่ท้องทะเล จนทำให้พวกเขาต้องมาร่วมมือกัน เพื่อหยุดยั้งฉลามยักษ์นี้ ก่อนที่จะก่อให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้
สำหรับ The Meg นั้น เป็นหนังที่เหมาะมากๆ สำหรับคนที่กำลังมองหาหนังสัตว์ไล่เขมือบคน โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตอย่างฉลาม แต่ในเรื่องนี้กลับปรับขนาดมาเล่นใหญ่มหึมาได้อย่างสนุก จนพอที่จะมาอะไรมาฉีกให้มีความแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ อยู่มาก และทุกครั้งที่ฉลามโผล่ออกมาก็เต็มไปด้วยความมันส์สะใจ จากการถล่มสิ่งต่างๆ แม้จะมีความอวยจีนๆ เข้ามาไม่น้อย จากการที่ได้ทุนมาสร้าง แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาตราบใดที่หนังยังมอบความบันเทิงแบบกาวๆ มาให้คนดูได้อย่างเต็มที่
The Shallows (2016)
แนนซี่ สาวที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่ชายหาดแห่งหนึ่งใน Mexico แต่ต้องเผชิญกับความซวยเมื่อมีฉลามหลุดเข้ามาในน้ำตื้นบริเวณที่เธอเล่นเซิร์ฟอยู่ ทำให้เธอต้องหนีมันเพื่อเอาชีวิตรอดขึ้นไปยังโขดหินเล็กๆ แห่งหนึ่ง ในระยะที่ห่างจากฝั่งแค่เพียง 200 หลา เท่านั้น แต่ก็กลับเหมือนห่างไกล เมื่อเจ้าฉลามขาวตัวนี้ยังคงว่ายวนเวียนรอเหยื่อของมันพลาดอยู่ แนนซี่ จึงคิดหาทางเอาชีวิตรอดกลับไปที่ฝั่งให้ได้
สำหรับ The Shallow นั้น เหมาะอย่างมากกับคนที่ชอบหนังฉลามดุที่ออกมาไล่เขมือบคน ซึ่งแน่นอนแหละว่ามันอาจจะไม่ได้ดีเท่าหนังฉลามในตำนานแบบ Jaws แต่ The Shallow ก็เป็นหนังฉลามอีกเรื่องที่มีหลายฉากที่น่าจดจำ ไปกับความดุเดือดของมันในเรื่อง อีกทั้งด้วยความที่ตัวหนังสั้นกระชับแปปเดียวจบ ทำให้แต่ละฉากคือความตื่นเต้นเน้นๆ กันเลย
Deep Blue Sea (1999)
ดร. ซูซาน นักวิทยาศาสตร์ประจำห้องทดลองลอยน้ำ แอควาติก้า หนึ่งในทีมนักวิจัยที่เอาฉลามพันธุ์ดุ มาดัดแปลงพันธุกรรม ปรับสมองฉลามใหม่ เพื่อหวังว่าจะเอาเซลล์สมองของฉลามมาใช้รักษาโรคความจำเสื่อมในมนุษย์ แต่แล้วการทดลองนี้ก็ทำให้ฉลามที่ถูกดัดแปลงนั้น กลายมาเป็นเครื่องจักรสังหารอันทรงพลัง ที่อัพเกรดทั้งร่างกายที่่ทรงพลัง รวดเร็ว รวมไปถึงมันสมองที่ชาญฉลาด อีกทั้งความซวยยังบังเกิดต่อเมื่อพายุถล่มห้องทดลองจนทำพวกเขาต้องอยู่ท่ามกลางฉลามสุดโหดเท่าที่เคยมีมา
สำหรับ Deep Blue Sea นั้น เป็นหนังสำหรับคอหนังฉลามอีกเรื่อง ที่มีพื้นที่เป็นของตัวเอง และจะเหมาะอย่างมากกับคนที่ชอบหนังสัตว์ไล่ล่ามนุษย์ เพราะเรื่องนี้ไปจัดเต็มอยู่กลางทะเล ไร้ซึ่งทางหนีจนบีบให้ต้องปะทะกันเพื่อความอยู่รอดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น จังหวะของหนังชวนลุ้นดีเลย มีตัวละครตายแบบโง่ๆ ให้สะใจเป็นพิธี แต่ก็เดากันยากว่าใครจะอยู่จะตาย เสมือนเป็นศึกชิงไหวชิงพริบขนาดย่อมๆ ของคนและฉลามที่ตัดต่อพันธุกรรมมาให้ฉลาดขึ้น โหดขึ้น ไวขึ้น
Sharknado (2013)
เมื่อพายุเฮอริเคนขนาดยักษ์โถมเข้าซัดเมือง Los Angeles แบบเต็มๆ แต่ความน่ากลัวของมันไม่ได้มีเท่านั้น เมื่อพายุที่ว่านั้นพัดพาฉลามจะทะเลขึ้นมาด้วยนับพันๆ ตัว จนทำให้ผู้คนในเมืองนั้นนอกจากจะต้องเอาชีวิตรอดจากพายุแล้ว ยังต้องต่อสู้กับฝูงฉลามที่มากับพายุในทุกทาง ถึงไม่ได้อยู่ในน้ำก็ไม่รอดได้เช่นกัน
หนังฉลามที่ปั่นประสาทชวนสติแตกที่สุด แต่ใครจะรู้ว่ามันเคยเหตุการณ์จริงประมาณนี้ที่ประเทศออสเตรเลีย เมื่อพายุได้พัดฉลามมาขึ้นบก (แต่แน่นอนแหละว่ามันไม่ได้เว่อร์ ถึงขนาดในหนัง) ถึงว่าหนังจะดูเป็นหนังแผ่นแบบเกรด B (หรือไปจนถึง D) แต่เมื่อมันออกฉายก็กลับมีแฟนๆ เดนตายมากมายที่ชื่นชอบมันมาก จนในปัจจุบันหนังก็มีมาถึงภาคที่ 6 แล้ว แถมยังเอาเรื่องเกี่ยวกับการย้อนเวลามาผสมอีกด้วย บ้าไปแล้ว!! เอาเป็นว่าใครที่เบื่อหนังฉลามแบบเดิมๆ แล้วอยากเติมจินตนาการฉลามแบบบ้าคลั่งเข้าไปหน่อย หนังชุด Sharknado คือคำตอบของคุณเลย
Open Water (2003)
แดเนียล และซูซาน สองสามีภรรยาที่ตัดสินใจมาพักผ่อนด้วยกันที่เกาะแห่งหนึ่ง เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ของพวกเขา พวกเขาตัดสินใจใช้บริการออกไปดำน้ำกลางทะเลกับเรือ Reef Exporer ร่วมกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ จนในขณะที่กำลังดำน้ำเล่นนั้นทั้งคู่กลับคลาดกับทุกคน จนทำให้ทั้งคู่พลัดหลงและถูกทิ้งไว้อยู่กลางทะเล ในระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตรจากชายฝั่ง และที่แย่ไปกว่านั้นคือพวกเขาไม่ได้อยู่เพียงลำพัง แต่กลับยังมีฝูงฉลามหิวโหยในบริเวณนี้ด้วย
อีกหนังฉลามที่สร้างมาจากเหตุการณ์จริงชวนสยองของสองสามีภรรยาเหมือนในเรื่อง เลยทำให้หนังค่อนข้างเน้นไปที่ความสมจริง และอารมณ์ของตัวละครที่ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ เลยทำให้คนน่าจะอินกับหนังแะเข้าใจตัวละครได้อยู่ไม่น้อย แต่ในอีกแง่อย่างความบันเทิงหรือความหวือหวาที่จะเกิดขึ้นในหนังก็ลดหลั่นลงไปตาม เพราะหนังจะไม่ได้มีสภาพฉลามหิวโหยที่ไล่ฆ่าคนอย่างบ้าคลั่งแบบเรื่องอื่นๆ แต่กลับใช้จิตวิทยาในการกดดันตัวละครไปเรื่อยๆ แทน
The Reef (2010)
เมื่อกลุ่มเพื่อนวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่จัดทริปมาดูปะการังกัน แต่ตอนขากลับดันเกิดเหตุที่เริอนั้นดันชนเข้ากับปะการังขนาดใหญ่ จนทำให้เรือพลิกคว่ำ ในขณะเดียวกันก็มีฝูงฉลามอยู่ในบริเวณนั้น จนทำให้พวกเขาต่างต้องรีบเอาชีวิตรอดด้วยการว่าน้ำกลับขึ้นฝั่งก่อนที่เรือจะจมลง
ด้วยความที่หนังสร้างมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในปี 1983 ที่เป็นเรื่องของกลุ่มเพื่อน 5 คนที่ออกไปเที่ยวและประสบปัญหาเหมือนอย่างในหนัง ซึ่งข้อจำกัดของหนังจากเรื่องจริงก็คือการทำอะไรให้หวือหวามากไม่ได้ กว่าเรือจะล่มลงไปก็ใช้เวลาไปเกินครึ่งเรื่องแล้ว อีกทั้งฉากฉลามเองก็ไม่ได้ดุร้ายโหดเหี้ยมแบบเรื่องอื่นๆ แต่ความระทึกจะมาจากเรื่องบรรยากาศและความตึงเครียดจากสิ่งที่ตัวละครต้องเผชิญในเรื่องก็ทำให้หนังได้รับคะแนนสูงเลย