Scoop: Cruella จากสาวซ่าสุดติสท์ สู่วายรายดัลเมเชี่ยน
หากใครที่เป็นแฟนคลับของค่าย Disney มาโดยเสมอ ย่อมรู้จักตัวละครอย่าง Cruella de Vil อย่างแน่นอน เพราะเธอคนนี้คือตัวละครหญิงสุดชั่วร้ายอันดับต้นๆ ในจักรวาลโลกสวยของ Disney เลยก็ว่าได้ ซึ่งด้วยความที่ร้ายแบบมีเสน่ห์ ก็ทำให้เธอติด List 100 วายร้ายยอดเยี่ยมของสถาบันภาพยนตร์อเมริกัน (American Film Institute) มาจนถึงทุกวันนี้ เพราะลำพังแค่ชื่อของเธอที่มีศัพท์มาจาก Cruel ที่แปลว่าความโหดร้าย ประกอบกั
แม้ว่าเรื่องราวที่ผ่านมาของเธอจะเป็นที่โจษจันในฐานะวายร้ายผู้รักขนของสุนัขพันธุ์ Dalmatian เป็นอย่างมากและพยายามที่จะขโมยพวกมันมา เพื่อนำมาชุดขนสัตว์ในหนังชุด 101 Dalmatians แล้ว มาถึงในปีนี้ Disney กลับทำสิ่งที่ต่างออกไป โดยการให้ Cruella de Vil ขึ้นมาเป็นตัวเอก และให้เราได้เห็นที่มาที่ไปของตัวละครรายนี้ ว่าเธอมีพัฒนาการมาอย่างไร ที่ทำให้จากสาวไหวพริบดี ที่หวังเป็นดีไซน์เนอร์ชื่อดัง ถึงกลายมาเป็นวายร้ายสุดโหดในจักรวาลนี้ได้ใน Cruella ที่ชาวไทยตอนนี้น่าจะยังไม่ได้ดู เพราะที่อเมริกาฉายแบบ Premiere ที่ต้องจ่ายเพิ่ม $29.99 ส่วนของ Hotstar ต้องรอดูวี่แววกันอีกสักพัก
สู่จุดเริ่มต้นของนางมารร้าย Cruella
Cruella คือ Project Live-Action ของ Disney ที่ไม่เอา 101 Dalmatians มาดัดแปลงใหม่ เพราะเคยมีเวอร์ชั่นหนังอยู่แล้ว ก็เลยพลิกมุมกลับมาเล่าที่มาของตัวร้ายแทนซะเลย โดยที่อเมริกาออกฉายในโรงไปแล้วเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมๆ กับการปล่อยฉายทาง #DisneyPlus ซึ่งบ้านเราใครที่สมัคร Disney Hotstar อาจจะต้องรอไปก่อน
โดยหนังจะพาเราย้อนไปในกรุงลอนดอน ยุค 60s-70s เริ่มตั้งแต่ที่ตัวละครอย่าง Estella ได้เกิดขึ้นมา เธอเองเป็นเด็กสาวที่มีไหวพริบดี แต่ก็มีความแตกต่างจากคนอื่น ด้วยความที่มี 2 บุคลิกในตัวเอง หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่เลวร้ายมาในชีวิต ก็ทำให้เธอได้มาเข้าร่วมแก๊งเด็กกำพร้าอีก 2 คน และได้เติบโตมาด้วยกันจากการขโมยข้าวของเพื่อหาเลี้ยงชีพ
จนกระทั่งวันหนึ่งเธอก็มีความมุ่งมั่นอยากที่จะทำตามฝัน โดยการก้าวเข้าสู่โลกของแฟชั่น และหวังสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง ผ่านความคิดสร้างสรรค์ในงานออกแบบของเธอ จนกระทั่งเธอได้ร่วมงานกับ Baroness เจ้าแม่วงการแฟชั่นผู้ทรงอิทธิพล ทำให้เธอพบกับความจริงบางอย่าง ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเธอไปตลอดกาล และนอกจากนี้มันก็ได้ปลุกด้านมืดในตัวเธออย่าง Cruella ออกมาแทน Estella อีกด้วย
จุดกำเนิดบนโลกแห่งความจริง
Cruella de Vil เป็นตัวละครที่ออกมาโลดแล่นครั้งแรกในปี 1956 จากนิยายเรื่อง The One Hundred and One Dalmatians โดย Dodie Smith ที่เล่าถึงเรื่องราวของคู่สามีภรรยา Dearly ที่รักสุนัขดัลเมเชี่ยนเป็นชีวิตจิตใจ ต้องมาเผชิญหน้ากับ Cruella de Vil ในการที่จะมาพยายามขอซื้อลูกสุนัขจากพวกเขา แต่เมื่อพวกเขาไม่ยอม เธอจึงวางแผนที่จะขโมยเจ้าสุนัขตัวน้อยเหล่านี้ซะ จนทำให้พ่อ แม่ของเจ้าหมาจึงต้องออกตามหาลูกๆ ของมัน
จนกระทั่งในปี 1967 ก็ได้มีภาคต่อขึ้นมาอีกเล่ม ที่มีชื่อว่า The Starlight Barking ที่เล่าถึงเจ้าสุนัขที่เป็นลูกของ Pongo และ Perdita ในภาคแรก หลังจากที่เติบโตแล้ว ได้ตื่นขึ้นมา และพบว่าผู้คนรอบๆ ตัวหลับไหลลงไปเสียหมด มันเลยต้องออกผจญภัยเพื่อตามหาว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งในภาคนี้ก็ไม่ได้มีการปรากฏตัวของ Cruella เท่าไรนัก เพราะเธอเองก็เป็นหนึ่งในคนที่หลับอยู่เหมือนกัน ผลที่ออกมาก็คือนิยายไม่เป็นที่นิยมเท่ากับในเล่มแรก ส่วนสำคัญอาจเป็นเพราะการขาดวายร้ายอันทรงเสน่ห์อย่าง Cruella ไป เลยทำให้ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
Cruella de Vil ที่หลากหลายบนโลกภาพยนตร์
ภาพยนตร์เรื่องแรกของ The One Hundred and One Dalmatians ออกมาในรูปแบบ Animation ตอนปี 1961 โดยอยู่ภายใต้สตูดิโออย่าง Disney Animation Studio ที่คว้าลิขสิทธิจากนิยายมาได้ จนกลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้มากที่สุดในปีนั้น ที่ $102 ล้านเหรียญ เอาชนะหนังดังอย่าง West Side Story และ Gone With the Wind ไปได้
ซึ่งในภาคแรกนี้ก็เป็นการยึดเอาเนื้อหาจากนิยายมาโดยตรง ไม่ได้มีการปรับแต่งอะไรมากนัก นอกจากชื่อของตัวละครเอก จากสามี ภรรยา Dearly ก็เป็น Roger และ Anita Radcliffe แทน หนังได้รับความนิยมอย่างมากเมื่อออกฉายทั้งในแง่ของรายได้ และรางวัล BAFTA ในสาขา Animation ยอดเยี่ยมมาครอง อีกทั้งในปัจจุบันคะแนนในเว็บมะเขือเน่า Rotten Tomatoes ก็ยังมีนักวิจารณ์ชื่นชอบสูงถึง 98% และฝั่งคนดูที่ 76% เลยทีเดียว
โดยส่วนที่น่าชื่นชมเป็นอย่างมากก็คงหนีไม่พ้นตัวละครอย่าง Cruella ที่ทาง Disney ตั้งใจว่าจะปั้นให้เป็นวายร้ายในยุคใหม่ โดยได้รับแรงบันดาลใจภาพลักษณ์มาจากผู้หญิงคนหนึ่งในงาน Cocktail Party แต่ Marc Davis ผู้ออกแบบตัวละครนี้ก็ไม่เคยเอ่ยถึงว่ามาจากใครเพื่อเป็นการให้เกียรติกับเธอ แต่กลับพาดพิงถึงดาราอย่าง Tallulah Bankhead ว่าแรงบันดาลใจมาจากเธอคนนี้ และยังกล่าวอีกว่าเขาพยายามสร้างตัวละครให้ใกล้เคียงกับคนที่คุณไม่พึงประสงค์จะเจอที่สุด และเมื่อใส่เสียงพากษ์ของ Betty Lou Gerson เข้าไป ก็ทำให้ได้ตัวร้ายที่สมบูรณ์แบบขึ้น
หลังจากข้ามช่วงเวลามากกว่า 3 ทศวรรษ ในปี 1996 ก็เป็นยุคที่เริ่มทำหนังจาก Animation เป็นฉบับ Live Action กันมาขึ้น โดยมี 101 Dalmatians ออกมาโลดแล่นโดยใช้ทั้งคนจริง และสุนัขจริงเต็มเรื่องไปหมด ซึ่งคนที่ได้รับชมหนังแม้ว่าจะพอใจกับในแง่ความบันเทิง แต่ในส่วนของคุณภาพนั้น ก็พบว่าเทียบกับฉบับ Animation แทบไม่ติด แม้ว่าจะกวาดรายได้ถึง $136 ล้านในอเมริกา และ $320 ล้านทั่วโลก (นับเป็นตัวเลขที่สูงมากๆ) แต่คะแนนในเว็บมะเขือเน่าก็กลับได้เพียง 41% จากนักวิจารณ์ และ 40% จากฝั่งคนดู ก็นับว่าน้อยกว่าตัวต้นฉบับถึงครึ่งนึงเลย
แต่ถึงแม้ว่าตัวหนังจะไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบเท่าไรนัก หนังก็ยังมี Cruella ที่ในเวอร์ชั่นนี้ได้ดาราอย่าง Glenn Close มาเติมสีสันให้ จนเอาตัวรอดไปได้อยู่ โดยเธอเองนั้นถึงกับได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำในฐานะดารานำหญิงยอดเยี่ยม ในหนังประเภทตลกและเพลง ถึงจะไมไ่ด้รางวัลมาครอง แต่บทนี้ก็อีกบทบาทที่น่าจดจำอยู่มาก จนทำให้เธอได้กลับมารับบทนี้อีกครั้งในภาคต่ออย่าง 102 Dalmatians ตอนปี 2000
ด้วยความที่บทภาคต่อจากนิยายไม่ได้น่าสนใจนัก แถมยังไม่ได้มีซีนของ Cruella มากมาย หนังเองจึงเลือกที่จะสานต่อภาคต่อด้วยตัวเองดีกว่าที่จะอิงจากต้นฉบับ ผลที่ได้คืองานที่แทบจะเหมือนเดิมในทุกประการ จนกระแสวิจารณ์ก็ย้ำแย่ลงไปอีก โดยในเว็บมะเขือเน่ามีนักวิจารณ์ชอบเหลือเพียง 31% และ 32% สำหรับคนดูทั่วไป ประกอบกับรายได้ที่หายไปเยอะ จนทำให้ฉบับหนังก็ถูกพับโครงการไว้แต่เพียงเท่านี้
เมื่อเห็นว่าฉบับหนังไม่เวิร์กอีกต่อไปแล้ว Disney จึงกลับมาสู่รากเหง้าฉบับ Animation อีกครั้งใน 101 Dalmatians II: Patch’s London Adventure ที่ไปโฟกัสที่ตัวละคร Patch ลูกของตัวเอกในภาคแรกแทน จากเรื่องราวที่เขาพลัดหลงกับครอบครัว จนได้ไปเจอกับ Thunderbolt สุนัขรุ่นใหญ่ที่เป็นไอดอลของ Patch ทั้งคู่จึงได้ร่วมมือกัน เพื่อต่อกรกับ Cruella และทีม ที่หวังจะเอาสุนัขดัลเมเชี่ยนไปอีกครั้ง
ความน่าสนใจของ Cruella 2021 โดย Emma Stone
แม้ว่าที่ผ่านมานั้น ตัวละครอย่าง Cruella จะออกมาโลดแล่นนานเกินครึ่งศตวรรษกันแล้ว แต่ทว่าก็ยังไม่มีใครเคยได้รับรู้ถึงที่มาที่ไปของตัวละครนี้มาก่อน รวมถึงมิติด้านอื่นๆ ในชีวิตของเธอนอกจากการเป็นสุดยอดวายร้ายในแบบที่ผ่านมา จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากกับการที่หยิบเอาตัวละครนี้ให้กลายมาเป็นตัวละครเอก และเล่าเรื่องราวของเธอกันแบบเต็มซะเลย นับตั้งแต่เกิด ไปจนถึงตอนที่เธอเปลี่ยนตัวเองจาก Estella ไปเป็น Cruella (ตามเรื่องย่อในรูปที่ 1)
ซึ่งความน่าสนใจในเวอร์ชั่นนี้ก็คือแม้ว่าจะเป็นการย้อนฉากหลังไปในยุค 70s กรุงลอนดอน แต่แนวคิดต่างๆ และบริบทของเรื่องราวกลับมีความแปลกใหม่ ทั้งในเรื่องอิทธิพลของแฟชั่นในยุค ความขบถ ความเฟมินิสท์ต่างๆ นานา ที่ทำให้ Cruella ยังเป็นหนังที่ยังเข้ากับยุคสมัยนี้อยู่ ประกอบกับการสร้างที่มาที่ไปให้กับคาแรคเตอร์ตัวนี้ ก็ทำให้เราสามารถเข้าใจสภาพจิตใจของตัวละครที่เปลี่ยนแปลงไปได้ จนออกมาเป็นลักษณะของ Anti-Hero แทน แม้ว่าในช่วงที่ทำหนังทางทีมงานจะมีความกังวลมากก็ได้ตาม ว่าจะเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กับฆาตกรที่ฆ่าหมาหรือเปล่า แต่ดูท่า Disney ก็ดูจะมีทางลงเป็นของตัวเองเป็นอย่างดี เพราะทางค่ายก็ได้ออกแถลงการณ์ว่าในเรื่องไม่มีฉากทำร้ายสัตว์เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
และบทนี้ก็ได้มาสู่มือของสาวน้อยมาความสามารถอย่าง Emma Stone ซึ่งเธอเคยให้สัมภาษณ์ว่าเธอเองก็เป็นแฟนของตัวละครนี้้ และมันคงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น และน่าสนใจมาก ที่จะไปสำรวจถึงตัวละครให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเรารู้จักเธอแค่เพียงผิวเผินในมุมร้ายๆ แต่มันคงน่าสนุกไม่น้อยที่จะลงไปให้ลึกขึ้นว่าอะไรที่ทำให้เธอเปลี่ยนไป และอะไรที่ทำให้เธอกลายเป็นปีศาจเช่นนี้ ยิ่งตัวบทที่น่าสนใจมาประกอบกับการแสดงชั้นดีของ Emma อีกทั้งทีมงาน Costume ที่จัดเต็มเพื่อขับเน้นแฟชั่นในเรื่อง ก็น่าจะทำให้ Cruella ในเวอร์ชั่น 2021 นี้ น่าจะเป็นที่จดจำของแฟนๆ ได้ไม่ยากเลย