บทพูด Bad Boy ภาคแรก ทีมงานเขียนบทไม่ทัน Will Smith, Martin Lawrence ด้นสดกันเอง
จุดเริ่มต้นหนังแอ็คชั่นคอเมดี้ 2 นายตำรวจแห่งไมอามี่ ที่แจ้งเกิดให้ Will Smith, Martin Lawrence โด่งดังไปชั่วข้ามคืนพร้อมกับๆสร้างชื่อให้ผู้กำกับโนเนมในเวลานั้นดังไปด้วยนั้นคือ Micheal Bay เต็มไปด้วยความยากลำบาก เพราะทั้งหมดยังไม่มีใครโด่งดังเลยสักคนพวกเขาคือมือใหม่ การทำงานเบื้องหลังจึงเป็นไปด้วยความไม่พร้อมเลยสักอย่าง งบประมาณการถ่ายทำที่น้อยจนต้องควักเงินกันเอง แถมบทหนังก็เขียนไม่ทันวันเปิดกล้อง ทีมงานเลยต้องมาแก้ปัญหาด้วยการให้ 2 นักแสดงนำด้นสดกันเอง แต่ทว่ามันกลายเป็นเคมีที่ลงตัวนำพาหนังเรื่องนี้ทะยานไปข้างหน้าทำกำไรมหาศาล จนหนังได้ไปในที่สุด
กว่าที่ Bad Boy จะกลายเป็นหนังแฟรนไชส์ที่ประสบความสำเร็จ สร้างชื่อให้ Will Smith, Martin Lawrence กลายเป็นนักแสดงชื่อดังได้นั้น แต่จุดเริ่มต้นจริงๆของหนังภาคแรกในปี 1995 เป็นไปด้วยความยากลำบาก ในเวลานั้น Micheal Bay คือผู้กำกับหน้าใหม่ในวงการหนังเพราะเขาคือผู้กำกับเอ็มวีที่ผ่านงานโฆษณามาก่อน และ Bad Boy คืองานชิ้นแรกของเขา ทีมงานทุกคนในกองถ่ายก็ใหม่หมด ทำให้บทหนังเขียนสคริปต์ไม่ทัน พวกเขาจึงแก้ปัญหาด้วยการให้ Will Smith, Martin Lawrence ด้นสดบทพูดเองซะเลย ปล่อยให้นักแสดงใช้ความคิดสร้างสรรค์กันให้เต็มที่ อาศัยอินเนอร์ของทั้งคู่เข้ามาช่วย ปรากฏว่ามันดันกลายเป็นเคมีที่ลงตัว
“บทหนังมันห่วยจริงอะไรจริง” Micheal Bay ยอมรับตรงๆเขาเลยต้องแก้ปัญหาในระหว่างถ่ายทำให้ Will Smith, Martin Lawrence ด้นสดกันไปเลย “แต่ผมก็คิดซะว่า เอาน่ะ อย่างน้อยสิ่งที่ Bad Boys มีก็คือสองนักแสดงนำที่เคมีโคตรจะเข้ากัน” การเลือกใช้วิธีนี้เพื่อทำให้หนังไม่ต้องพึ่งพาบทตามไดอาล็อก 3 คีย์แมนหลักต่างมานั่งพูดคุยกันก่อนว่าซีนนี้จะพูดอะไร ทิศทางไปทางไหนก่อนถ่ายทำ แนวคิดนี้ทำให้หนังมีความสดใหม่ บทพูดในแต่ละฉากสร้างความทรงจำมากมายให้คนดู
นอกจากบทพูดที่ด้นสดกันเองของ 2 นักแสดงนำ หนังก็มีทุนสร้างที่น้อยนิดมาก เพราะโคลัมเบีย พิคเจอร์ส ให้งบประมาณให้กับทีมงาน 19 ล้านเหรียญ พวกเขาไม่อยากลงทุนกับหนังที่มีดารานำเป็นดาวตลกผิวสีที่ไม่ได้มีผลงานหนังมากมายหนัก แถมทีมงานก็เป็นคนทำโฆษณาไม่ใช่คนวงการหนัง แม้จะมีโปรดิวเซอร์หนังดังอย่าง Jerry Bruckheimer และ Don Simpson หนุนหลังอยู่ก็ตาม เมื่อได้งบประมาณน้อยต้องถ่ายทำหนังแบบจำกัด พวกเขาต้องวางแผนใหม่แก้ปัญหาถ่ายทำหนังแบบเฉพาะหน้าไปเรื่อยๆ จนงบที่มีใกล้หมดเพราะฉากแอ็คชั่นในหนังที่เยอะทำให้เสียเงินจนไม่พอจะถ่ายทำฉากใหญ่ในช่วงโค้งสุดท้าย ปรากฏว่าเงินไม่พอจริงๆ และค่ายหนังก็ปฏิเสธที่จะให้ทุนสร้างเพิ่มแล้ว
เมื่อเข้าตาจน Micheal Bay ผู้มีแพชชั่นในการทำหนังแอ็คชั่นจึงตัดสินใจควักเงินส่วนตัว 25,000 ดอลลาร์ ถ่ายทำฉากสำคัญตอนท้ายเรื่อง ฉากที่ Martin Lawrence ต้องยิงคนร้ายบนเครื่องบิน เพราะผู้กำกับคนดังเชื่อว่าซีนนี้จะเป็นไคลแม็กซ์ของหนังที่คนดูจะจดจำหนังได้ สุดท้ายความบ้าระห่ำของ Bad Boys ที่อัดแน่นด้วยฉากแอ็คชั่นของนักแสดงที่ไล่ล่ากันอย่างเมามันส์ หนังทำเงินไปถึง 141 ล้านเหรียญจากการฉายทั่วโลก ผู้ชมมากมายเทใจให้กับหนังเรื่องนี้ นสร้างรากฐานที่แข็งแรงมาจนถึงปัจจุบัน Will Smith กลายเป็นนักแสดงชั้นนำ Micheal Bay ได้ทำหนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์มาตลอด
“ตอนเรานำหนังไปทดลองฉายรอบแรก พอถึงจังหวะที่วิลล์วิ่งไปโดยที่เสื้อเชิ้ตปลิวไสว ผู้หญิงก็ร้องกรี๊ดกันเกรียวกราว ตอนนั้นแหละที่เราเชื่อแล้วว่าเขาต้องดัง” Jennifer Clyne โปรดิวเซอร์หนังกล่าวในตอนนั้น