HaileeSteinfeldMovie_00

รวมหนังน้อง Hailee Steinfeld ก่อนมาเป็น Hawkeye คนใหม่

จนถึงตอนนี้ก็ต้องเรียกได้ว่า Hailee Steinfeld ก็เป็นคนดังอีกคนที่น่าจับตามองอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นในสายของดารานักแสดง หรือผลงานการเป็นศิลปินนักร้องของเธอก็ล้วนทำออกมาได้ดีเหลือเกิน จนกระทั่งตอนนี้ที่มาถึงบทบาทล่าสุดที่เป็น Kate Bishop สาวน้อยที่จะมารับช่วงต่อจาก Hawkeye ก็ทำให้คนรู้จักเธอมากยิ่งขึ้นไปอีก วันนี้เราเลยอยากจะมาเปิดประวัติและผลงานของสาวน้อยสุดน่ารักคนนี้กัน

Hailee Steinfel เกิดเมื่อวานที่ 11 ธันวาคมปี 1996 ที่ California และเริ่มเข้าวงการด้วยการเล่นหนังเล็กๆ มามากมายก่อนที่จะไปเข้าตาพี่น้องโคเอน และโด่งดังมาจากบทหลักของ True Grit จนเป็นที่น่าจับตามองในทันที ซึ่งเมื่อเล่นหนังได้สักพักก็ได้มีการออกอัลบั้มของตัวเองที่มีชื่อว่า Love Myself ด้วย ซึ่งงานเพลงก็นับว่าไม่ธรรมดาแถมยังเทียบพวกนักร้องรุ่นพี่ได้เลย จนได้ออกเพลงตามออกมาอีกมากมาย ก่อนที่จะค่อยๆ โด่งดังมาขึ้นเรื่อยๆ และเข้าสู่จักรวาล Marvel เพื่อรับช่วงต่อจาก Hawkeye รุ่นพี่ด้วย ส่วนผลงานเด่นเรื่องอื่นๆ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ลองมาดูกัน

True Grit (2010) – สาวน้อยล้างแค้นให้พ่อ

แมตตี้ รอสส์ สาวน้อยที่สูญเสียพ่อ จากการถูกยิงตายอย่างเลือดเย็นจากชายที่ชื่อว่า ทอม เชนีย์ ที่เป็นผู้ปล้นทองและฆ่าพ่อของเธอ แถมเขายังหนีไปยังถิ่นของเหล่าอินเดียแดง เธอจึงออกเดินทางมายังเมืองฟอร์ทสมิธ และได้ขอความช่วยเหลือจาก รูสเตอร์ ค็อกเบิร์น เจ้าหน้าที่ขี้เมาประจำเมืองอย่างจำใจ จนทำให้ทั้งคู่นั้นต้องร่วมกันออกเดินทางเพื่อตามล่า ทอม เพื่อเป็นการล้างแค้นให้กับพ่อให้ได้

เรียกได้ว่าเป็นหนังแจ้งเกิดของน้อง Hailee เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะได้ประกบกับดาราใหญ่ๆ รุ่นพี่อย่าง Jeff Bridges, Josh Brolin และ Matt Damon ซึ่งรัศมีการแสดงของตัวเธอเองก็ไม่น้อยหน้า เพราะเธอได้รับบทที่ค่อนข้างมีความซับซ้อนทางอารมณ์อยู่ไม่น้อย ทั้งในแง่ที่เธอเองก็ยังเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ในใจก็ร้อนรุ่มไปด้วยแรงแค้น จนทำให้เธอเองก็มีชื่อเสนอเข้าชินงออสการ์ในสาขาดาราสมทบหญิงยอดเยี่ยม และ BAFTA ในสาขาดารานำหญิงยอดเยี่ยมซะด้วย แม้ว่าจะไม่ไ่ด้ 2 รางวัลใหญ่นี้มาครอง แต่ก็เดินหน้ากวาดจากสำนักอื่นๆ มาอีกมากมายจนกลายเป็นที่จับตาของวงการได้ในทันที

Begin Again (2013) – ลูกสาวที่กลับมาสนิทกับพ่ออีกครั้ง

แดน โปรดิวเซอร์ตกอับ เพราะไม่เคยรู้เอนจอยกับศิลปินและแนวเพลงใหม่ๆ อีกแล้ว วันหนึ่งเขาได้บังเอิญมาพบกับ เกรต้า สาวที่มีเสียงไพเราะ กับแนวเพลงในแบบที่เขาตามหา แดน จึงชวนเธอให้ได้มามีโอกาสมาทำงานร่วมกัน ซึ่งในขณะนั้น เกรต้า เองก็เพิ่งเลิกรากับแฟนหนุ่มที่มาทำตามฝันด้วยกัน แต่ด้วยความโด่งดังของอีกฝ่าย ประกอบความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เลยทำให้ เกรต้า แยกออกมาพอดี และได้ลองตัดสินใจร่วมงานกับแดน จนก่อให้เกิดเป็นความสัมพันธ์ที่ชวนประทับใจ

สำหรับเรื่องนี้บทของน้อง Hailee แม้จะน้อย แต่กลับน่ารักมากๆ ด้วยความที่หนังมันเป็น ฟีลกู้ดอยู่แล้ว ก็เลยจะมีมุมน่ารักสดใส และความสัมพันธ์พ่อลูกที่ชวนอบอุ่นหัวใจอยู่ ซึ่งใน Begin Again เธอก็รับบทของลูกสาวของ แดน ที่ห่างเหินกับพ่อ แต่ก็ได้กลับมาสนิทกันอีกครั้งเพราะดนตรี นับว่าเป็นโอกาสดีๆ ที่เธอได้ร่วมเล่นในหนังสายอินดี้แต่กลายเป็นแมสสุดๆ ในบ้านเรา จนทำให้หลายๆ คนก็เริ่มรู้จักน้อง Hailee ในเรื่องนี้ รวมถึงความสามารถทางดนตรีของน้องด้วย

Romeo and Juliet (2013) – สาวน้อยผู้ตกหลุมรักหนุ่มจากตระกูลคู่อริ

มอนเตคิว และ คาปูเล็ต ของสองตระกูลที่เป็นอริกันมาแต่ช้านาน และเจอกันทีไรก็ได้แต่ต้องปะทะกันมาโดยเสมอ จนกระทั่งวันหนึ่ง โรมิโอ หนุ่มรูปงามจากมอนเตคิว ที่พยายามแสวงหารักแท้ ก็ได้มาพบกับ จูเลียต หญิงสาวสวยจากคาปูเล็ต จนทำให้เขาตกหลุมรักเธอในทันที ในขณะเดียวกันทางจูเลียตก็ดูมีใจให้กับเขาเช่นกัน ความรักของทั้งคู่จึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งที่รุนแรงของสองตระกูลจนนำไปสู่โศกนาฏกรรมของความรักที่ทุกคนรู้ดี

Romeo and Juliet คือบทประพันธ์ของ วิลเลี่ยม เชคสเปียร์ ที่ถูกนำมาผลิตออกมาในรูปแบบต่างๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า และแต่ละเวอร์ชั่นก็มักจะหาทางฉีกตัวเองออกมาเพื่อไม่ให้ซ้ำหรือหลุดกรอบจากต้นฉบับมากขึ้น (อย่างตัวฉบับปี 1996 ของผู้กำกับ Baz Luhrmann ที่ปรับให้เข้ากับยุคสมัยและเป็นแก๊งสเตอร์มากยิ่งขึ้น) แต่สำหรับฉบับ 2013 นี้คือการกลับไปสู่รากเหง้าของมันอีกครั้ง แม้กระทั่งบทพูดก็ยังใช้ตามต้นฉบับจนดูหวานเลี่ยนอยู่ไม่น้อย ซึ่งในเรื่องก็ต้องน้อง Hailee มารับบทเด่นเป็น Juliet เลย ใครอยากเห็นน้องสายหวานๆ เจ้าบทเจ้ากลอนก็ต้องดูเรื่องนี้แหละ

Pitch Perfect 2 & 3 (2015) – สาวเสียงใสน้องใหม่วงประสานเสียง

HaileeSteinfeldMovie_04

หลังจากที่ เบคก้า ได้ขึ้นเป็นหัวหน้าวงประสานเสียง Barden Bellas แล้วพาทีมไปคว้าแชมป์อะแคพเพลล่าในระดับวิทยาลัยมาได้ถึง 3 สมัย แต่ชื่อเสียงก็ต้องพังพินาศเมื่อสมาชิกอย่าง เอมี่ ได้สร้างความอับอายอย่างใหญ่หลวงต่อหน้าประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา แต่โอกาสไม่จบเท่านั้น เมื่อพวกเธอได้รับโอกาสอีกครั้งเป็นตัวแทนที่ไปเข้าแข่งขันอะแคพเพลล่าในระดับโลกที่ประเทศเดนมาร์ก พวกเธอจึงต้องเตรียมตัวกันให้ดีอีกครั้งเพื่อกู้ชื่อเสียงคืนมา พร้อมทั้งแก้ปัญหาที่เข้ามาในชีวิตของสมาชิกแต่ละคน 

หลังจากที่ภาคแรกประสบความสำเร็จอย่างเปรี้ยงด้วยต้นทุนหนังที่ไม่สูงมาก แต่กลับกวาดรายได้ไปมากมาย จนไม่แปลกที่หนังจะมีภาคต่อมาอีกถึง 2 ภาค โดยเป็นการเล่าต่อจากความสำเร็จของภาคแรก รวมถึงเพิ่มตัวละครใหม่อย่าง Emily ที่รับบทโดย Hailee Steinfield มาเป็นน้องใหม่เฟรชชี่ ที่ต้องเข้ามาเผชิญกับความวุ่นวายในทีมของรุ่นพี่แต่ละคน โดยเธอเองนั้นก็มีความหวังที่จะตามรุ่นพี่ให้ทัน เพราะแม่ของเธอนั้นก็เป็นสมาชิกของวงรุ่นบุกเบิกเช่นกัน ทำให้น้องค่อนข้างมีบทมากเลยทีเดียว อีกทั้งเราจะยังได้เห็นผลงานการร้องเพลงของเธอที่เป็นความสามารถที่โดดเด่นอีกอย่างของเธอเลย

The Edge of Seventeen (2016) – วัยรุ่นสาวกับปัญหาน่าปวดหัว

เนดีน สาววัยรุ่นวัย 17 ปี ที่มีความรู้สึกนึกคิดแบบวัยรุ่น นั่นก็คือความหัวรั้น ชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น และรู้สึกว่าตัวเองนั้นถูกต้องอยู่เสมอ จนทำให้เธอไม่ได้มีเพื่อนคบมากนัก ยิ่งวันหนึ่งที่เพื่อนสนิทของเธอดันมาคบกับพี่ชายของเธอเองก็ยิ่งทำให้เกิดปัญหาแตกหักกันบานปลายเข้าไปใหญ่ แล้วเธอก็ได้พบกับ บรูเนอร์ คุณครูวัยกลางคนที่เป็นผู้รับฟังที่ดี แต่บางทีก็เหมือนจะช่วยอะไรไม่ได้เลย ที่ไปๆ มาๆ ก็กลายเป็นเหมือนที่พักใจสำหรับวัยรุ่นหัวร้อนอย่างเธอ แล้วเธอจะผ่านช่วงอายุฮอร์โมนพุ่งพล่านแบบนี้ไปได้หรือไม่

อีกหนังวัยรุ่นแท้ๆ ที่เล่าปัญหาแบบวัยรุ่นจริงจัง นั่นหมายความจริงๆ แล้วปัญหาในหนังหากมองจากมุมผู้ใหญ่ก็คือขี้ประติ๋วมาก แต่กลับกันหากมองมุมวัยรุ่นก็คือปัญหาโลกแตก แต่ความสนุกคือมันก็เป็นหนังที่ให้ผู้ใหญ่ดูให้เข้าใจวัยรุ่นได้ ในขณะเดียวกันวัยรุ่นก็น่าจะได้รับอะไรดีๆ จากมุมมองผู้ใหญ่ ซึ่งน้อง Hailee เองก็รับบทนี้ได้ดีมาก เพราะเธอก็มีทั้งนิสัยที่ชวนหงุดหงิดตามประสาวัยรุ่นเอาแต่ใจ แต่ในขณะเดียวกันเราก็อยากให้เธอนั้นดูผ่านอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตไปได้ และดูเธอเติบโตขึ้นตามสไตล์ของหนัง Coming-of-Age จริงๆ

Bumblebee (2018) – สาวน้อยในสงครามหุ่นเหล็ก

ในปี 1987 “B-127” หุ่นนักรบของฝั่ง Autobots ได้ถูกส่งมายังโลกเพื่อเตรียมกองกำลังเอาไว้ เพื่อที่จะทำสงครามกับฝ่าย Decepticons แต่เมื่อมาถึงนั้นเขาก็ได้อยู่สภาพบาดเจ็บและสูญเสียอุปกรณ์ในการสื่อสาร รวมถึงความทรงจำ จนต้องมาหลบซ่อนอยู่ในสุสานซากรถแห่งหนึ่ง จนกระทั่ง ชาร์ลี สาวน้อยวัย 18 ก็ได้พบกับซากของรถเต่าสีเหลืองคันนี้และได้ปลุกชีพมันกลับขึ้นมาอีกครั้งในชื่อ “Bumblebee” ในขณะที่ัฝั่ง Decepticons ก็ส่งมือสังหารมาตามล่าพวกเขาต่อเช่นกัน ทำให้ทั้งคู่จึงต้องร่วมมือกันเพื่อต่อสู้และเอาชีวิตรอดจากเครื่องจักรสังหารของอีกฝ่าย

หลังจากที่ทำหนังหุ่นยนต์ตีกันแบบเอาใจเพศชาย จนที่ฟาดกันเละเทะไม่ใช่แค่หุ่นยนต์ในเรื่อง แต่กลับเป็นคุณภาพของหนังด้วย ทำให้คนดูภาคหลังๆ ก็เริ่มเบือนหน้าหนีกันแล้ว หนัง Bumblebee จึงเปรียบเสมือนฮีโร่ที่มากอบกู้หนังชุดนี้ โดยให้ตัวเอกเป็นวัยรุ่นสาวที่แสดงโดยน้อง Hailee และเน้นในเรื่องมิตรภาพระหว่างเธอกับเจ้าหุ่นยนต์เหลืองขวัญใจคนดูอย่าง Bumblebee ที่ใส่หัวใจลงในหนังจนมีเรื่องราวและคุณภาพที่โดดเด่นกว่าหลายๆ ภาคที่ผ่านมา แถมยังได้รับความอบอุ่นหัวใจกลับไปด้วย พร้อมกับคำวิจารณ์ที่ไปในทางดีไม่น้อย นับเป็นหนัง Blockbuster เรื่องแรกของน้อง Hailee เลยก็ว่าได้

Spider-Man: Into Spider-verse – สาวแมงมุม Spider-Gwen

ไมลส์ โมราเลส วัยรุ่นหนุ่มผิวสีที่มีชีวิตธรรมดาๆ ในโรงเรียน กลับโดนแมงมุมที่อาบรังสีกัดจนกลายเป็น Spider-Man ซึ่งวันหนึ่งเมื่อเครื่องเร่งอนุภาคในเมืองเกิดระเบิด จนทำให้เขาได้พบกับเหล่า Spider-man จากมิติอื่นๆ อีกมากมายที่จะเข้ามาร่วมมือกัน เพื่อหยุดยั้งมหันตภัยจากเหล่าร้ายหลายตัว เพื่อให้โลกกลับสู่สภาวะเดิมให้จงได้

Hawkeye ไม่ใช่หนัง Marvel เรื่องแรกที่ต้อง Hailee มีส่วนร่วม แต่กลับเป็น Spider-Man ฉบับ Animation เรื่องนี้ต่างหาก ที่น้องได้เข้าไปพากษ์เสียงตัวละครหลักอย่าง Spider-Gwen ที่เป็น Spider-Man จากอีก Universe ที่มีความเท่โฉบเฉี่ยวได้ใจ ซึ่งถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะเราจะไม่ได้เห็นหน้าของน้อง Hailee แบบหนังเรื่องอื่นๆ แต่แค่ฟังเสียงหวานๆ ของน้องก็นับว่าเป็นที่น่าพอใจแล้ว เพราะน้องเหมาะกับงานพากษ์อยู่ไม่น้อยเลย

Dickinson (2018) – กวีหญิงชื่อดังหัวทันสมัย

เรื่องราวตั้งแต่วันรุ่นของ เอมิลี ดิคคินสัน นักกวีหญิงที่ยิ่งใหญ่อีกคนของชาวอเมริกัน ที่เมื่อเธออายุ 17-18 ปี ก็เป็นหญิงสาวที่มีความคิดสมัยใหม่ จนกลายเป็นคนแปลกในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ ชนชั้น และสถานภาพต่างๆ ที่ยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับมากนัก ทำให้เธอต้องฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ เพื่อสวมวิญญาณนัดเขียนและผลิตผลงานเขียนออกมาให้คนสามารถยอมรับให้ได้

ซีรี่ส์จาก Apple TV ที่น้อง Hailee ได้รับบทหลักเป็น Emily Dickinson ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น ซึ่งเธอก็แบกมันเอาไว้ได้ดีจริงๆ กับการสวมบทของตัวละครย้อนยุค แถมยังเป็นคนจริงๆ ในประวัติศาสตร์ โดยเน้นเรื่องแนวคิดหัวใหม่ ทันสมัย รวมถึงฉากที่เวลาจินตนาการเรื่องราวต่างๆ ก็ล้วยทำออกมาได้สร้างสรรค์ เหมือนเอาเด็กวัยรุ่นยุคนี้ไปสวมร่างคนยุคนั้นได้ดีจริงๆ นับเป็นซีรี่ส์อีกเรื่องที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงมากนัก ส่วนนึงเพราะมันเกี่ยวกับเรื่องบทกวีที่คนไทยอาจจะไม่ได้อินเท่าไร แต่ถ้าลองเปิดใจดูจะพบว่ามันเป็นซีรี่ส์ที่สนุกดีอีกเรื่องนึงเลย

Arcane (2021)

วายและพาวเดอร์ สองเด็กสาวที่อยู่ในเมือง Zaun เมืองชนชั้นลากที่แสนยากไร้ โดยมีเมืองร่ำรวยด้านบนอย่าง Piltover คอยควบคุมอยู่ โดยเธอสองคนอยากที่จะหลุดพ้นจาชีวิตแย่ๆ นี้ จึงวางแผนกับผองเพื่อนเพื่อขึ้นไปยังเมืองข้างบน เพื่อไปขโมยของวิจัยของนักวิทยาศาสตร์มาขาย แต่แล้วกลับพบของสำคัญอย่าง เฮ็กซ์เทค ที่เป็นส่วนผสมระหว่างวิทยาศาสตร์เวทมนตร์ จนทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่าง 2 เมืองมากขึ้นไปอีก

อีกหนึ่งอนิเมชั่นชั้นเยี่ยมของปีบน Netflix ใครๆ ต่างก็สรรเสริญถึงความดีงามของมัน ไม่ว่าคนดูเหล่านั้นจะเป็นแฟนเกมของต้นฉบับอย่าง League of Legend หรือไม่ก็ตาม ด้วยความที่มันทำภาพออกมาสวยมาก พร้อมกับเนื้อเรื่องสุดเข้มข้น ลงลึกระดับการเมืองที่ชวนคิด รวมถึงตัวละครที่โดดเด่นจนไม่แปลกใจนักที่มันจะเป็นผลงานชั้นเยี่ยมในสายตาของใครหลายคน ซึ่งนอกจากนี้ก็น่าจะรวมถึงทีมพากษ์เสียงที่ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดีด้วย โดยอย่างน้อง Hailee ที่ได้มีโอกาสพากษ์เสียงเป็นตัวหลักอย่าง Vi ก็น่าชื่นชมมากจริงๆ