บทหนังดั้งเดิม No Time To Die ไม่มี Ana De Armas หรือ Paloma แต่ผู้กำกับอยากให้มีเธอมาปรากฏตัวในหนัง Paloma บทบาทสายลับ CIA คิวบา ของ Ana De Armas กลายเป็นตัวละครขโมยซีนที่ถูกพูดถึงใน 007 James Bond No Time To DIe พอสมควรแม้ว่าจะปรากฏตัวได้ไม่นาน แต่คาแรกเตอร์สายลับสาวที่บู๊แหลกสวยและสง่างามกลับสร้างความประทับใจให้แฟนหนังมากมาย จนมีเสียงเรียกร้องให้ทำภาคแยกตัวละครนี้เลยด้วยซ้ำ

แต่รู้หรือไม่ว่าที่มาที่ไปของตัวละครนี้เดิมที บทดั้งเดิมไม่มีอยู่ในหนังมาตั้งแต่แรก เพราะโครงเรื่องแรกไม่มีเธออยู่ในบทของ Neal PurvisRobert Wade 2 มือเขียนบท แต่เธอถูกใส่มาทีหลัง ในตอนที่ Cary Joji Fukunaga ผู้กำกับรู้สึกประทับใจอะไรบ้างอย่าง เมื่อตอนที่เห็น Ana แสดงในหนังเรื่อง Knives Out ที่ประกบกับ Daniel Craig พอดี ผู้กำกับเลยทำการพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว และตัดสินใจเขียนบทเพิ่มลงไปเพื่อนำ Ana กลับมาร่วมแสดงกับ Daniel ในหนังพยัคฆ์ร้ายเรื่องนี้.”ฉันคิดว่าตัวละครนี้ไม่มีอยู่ในหนังมาตั้งแต่แรก เราคุยกับ Cary ผู้กำกับ ว่าเขาต้องการให้ฉันแสดงในภาพยนตร์จริงๆ และพวกเขาก็ทำให้มันเกิดขึ้น ดฉันสนทนากับเขาเป็นเวลานานก่อนที่มันจะกลายเป็นจริง”

นอกจากไดอาล็อคหนัง No Time To Die จะไม่มีตัวละคร Paloma ที่แสดงโดย Ana De Armas และตัวละครนี้ถูกเติมเข้ามาในภายหลัง และบทจริงๆหน้าที่ของเธอจะมีแค่เป็นเพียงเจ้าหน้าสาวท้องถิ่นในคิวบาที่ทำหน้าที่ประสานงานช่วยเหลือ James Bond ในการทำภารกิจชิงตัว Dr.Valdo Obruchev มาจากองค์กร Spectre เท่านั้นเอง โดย Neal Purvis และ Robert Wade 2 มือเขียนบทหนังบอกว่า ตัวละครมีรายละเอียดที่เพิ่มขึ้นก็เพราะ ผู้กำกับ Cary Joji Fukunaga ที่ผลักดันให้ตัวละครนี้ได้เล่นฉากแอ็คชั่นร่วมกัน Daniel Craig มากกว่าจะเป็นเพียงแค่สาว Bond แต่งตัวสวยปรากฏตัวในหนัง

“เรามี Paloma ในบทของเรา แต่เธอเป็นเพียงแค่เจ้าหน้าที่ติดต่อสื่อสารประสานเท่านั้น แต่เป็นทาง “แครี่ (ผู้กำกับ) เขาต้องการมากกว่านี้ ดังนั้นจึงถือว่านั่นเป็นพื้นที่ที่ Phoebe Waller-Bridge (มือเขียนบทผู้หญิง) เข้ามาจัดการหนังเรื่องนี้” พวกเขาเห็นด้วยอย่างสุดใจ “มันสนุกจริงๆ”.การปรากฏตัวราวๆ 15 นาทีของ Ana De Armas กลายเป็นซีนที่ถูกพูดถึงมาก และเธอก็ขโมยซีนไปเยอะ จนแฟนหนังมากมายเรียกร้องอยากให้ดูหนังภาคแยกเวอร์ชั่นเธอ