ChrisPratt_00

7 สิ่งที่คุณอาจไม่เคยรู้ กับหนุ่มหน้าทะเล้น Chris Pratt

หากนับดาราชื่อดังในยุคนี้ ก็น่าจะต้องมีชื่อของ Chris Pratt ติดเป็นแน่ เพราะถึงแม้ว่าเขาจะโลดแล่นในวงการมานาน แต่ส่วนมากก็ยังเป็นตัวประกอบมาโดยเสมอ จนกระทั่งเมื่อเขาได้มารับบท Star-Lord ในจักรวาล Marvel ก็ส่งให้ผลให้ชื่อของเขาดังเป็นพลุแตกและกลายมาเป็นที่จับตาในทันที ด้วยความที่ผู้กำกับอย่าง James Gun ก็ทำ Guardian of the Galaxy ออกมาได้ดีมีสไตล์ รวมถึงยังปั้นตัวละครให้มีคาแรคเตอร์ที่น่าจดจำก็ไม่แปลกใจนักว่าทำไมถึงได้ตัวละครที่มีเสน่ห์ขนาดนี้ออกมา

จนกระทั่งมาถึงหนังอีกชุดที่เขาก็ได้เป็นตัวเอกแบบเต็มตัวอย่าง Jurassic World ที่ท่าฝึก Raptor กลายมาเป็นอีกฉากที่น่าจดจำและเป็นมีมที่ดังมาจนถึงตอนนี้ แม้ว่าหนังชุดนี้จะมีคุณภาพขึ้นๆ ลงๆ บ้าง แต่สำหรับภาคปิดอย่าง Dominion ก็เป็นอะไรที่ต้องไปตามดูอยู่ดี และด้วยความดังของเขา วันนี้เราก็เลยอยากจะพาไปรู้จักแง่มุมที่น่าสนใจ หรือ Fun Facts ของชายคนนี้ให้มากขึ้น เผื่อว่าจะมาสมัครเป็นแฟนคลับเขาแบบเต็มตัว

1. เขาเรียนไม่จบ เพราะออกจากมหาลัยมาตามความฝัน

หลังจากเรียนจบ High School ในรัฐ Washington แล้ว เข้าก็ได้ไปเรียนการแสดงในมหาวิทยาลัยในชุมชนแห่งหนึ่ง แต่ว่าหลังจากเรียนไปได้ครึ่งทาง เขาก็เริ่มรู้ว่ามันไม่ใช่ทางสักเท่าไร เลยตัดสินใจลาออกมาตามหาตัวเองซะเลย แล้ววิถีในการตามหาตัวเองก็เขาก็เต็มไปด้วยอาชีพที่นึกไม่ถึง แต่ก็ทำให้ตัวเองอยุ่รอดมาได้ ไม่ว่าจะเป็นงานแจกคูปอง เป็นบ๋อย หรือแม้กระทั่งเป็นนักเต้นจั้มบ๊ะ ที่กำลังจะพูดถึงในข้อต่อไป

2. เขาเคยเป็นทั้งเด็กเสิร์ฟ และหนุ่มเต้นจ้ำบ๊ะมาก่อน

ไม่ต่างจากดารา Hollywood หลายๆ คนที่เคยมีชีวิตเป็นเด็กเสิร์ฟมาก่อน ในระหว่างที่รองาน Cast ต่างๆ ซึ่ง Chris เองก็เป็นหนึ่งในนั้น เพราะเขาเคยทำงานที่ร้าน Bubba Gump Shrimp ที่อยู่ใน Hawaii และได้พบกับดาราอย่าง Rae Dawn Chong ที่เป็นแรงบันดาลใจให้เขามาเป็นนักแสดงด้วย

แต่ในส่วนของงานเต้นจ้ำบ๊ะนั้น เขาทำมันตั้งแต่ตอนอายุ 14 แล้ว เพราะเขาเคยให้สัมภาษณ์กับ Buzzfeed ว่า เขาชอบมากๆ ที่จะเปลือยกาย และเขาก็เปลือยกายบ่อยมากๆ เพราะมันทำให้เขารู้สึกเป็นอิสระดี ก็เลยคิดว่า ไหนๆ เปลือยแล้วถ้าได้ตังด้วยก็คงดีแหละนะ ก็เลยเป็นที่มาของงานนี้

3. เขาเคยมีแฟนเก่า ที่เป็นสายตลกเหมือนกันอย่าง Anna Faris

Chris เจอกับ Anna ครั้งแรกตอนปี 2007 ในหนังเรื่อง Take Me Home Tonight และทั่งคู่ก็ได้มาแต่งงานกันในปี 2009 และมีลูกชายคนนึงด้วยกันในปี 2012 ด้วยความที่พวกเขาเป็นสายฮาด้วยกันทั้งคู่ เลยเกิดเคมีที่เข้ากันได้ไม่ยาก อีกทั้งงานอดิเรกของทั้งสอง ยังเป็นการสะสมซากแมลงที่เหมือนกันด้วย เลยทำให้พวกครองรักกันมายาวนานไม่น้อย ก่อนที่จะเลิกรากันไป 

4. แฟนสาวคนปัจจุบัน คือลูกสาวคนเหล็ก

หลังจากการเลิกราของพวกเขาที่ทำเอาแฟนๆ ใจสลาย แต่ไม่กี่ปีต่อมา Chris ก็ได้มีความสัมพันธ์ใหม่กับ Katherine Schawarzenegger ซึ่งก็คือลูกสาวคนสวยของคนเหล็ก Arnold Schwarzenegger นั่นเอง โดยเขาได้พบกับ Katherine ในโบสถ์แห่งนึงตอนปี 2018 ก่อนที่ในปีต่อมาพวกเขาได้ไปแต่งงานกันด้วยพิธีที่สวยงามใน Montecito, California จนเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมานั้น พวกเขาก็ได้ลูกสาวที่น่ารักชื่อว่า Lyla Maria ด้วย

5. เขามีความสามารถพิเศษ ในการเล่นมวยปล้ำ

นับเป็นความสามารถอีกอย่างสำหรับชายคนนี้ที่ได้ลองอะไรที่หลากหลาย เพราะว่าโดยปกติเขาก็เล่นกีฬา เข้าฟิตเนสอยู่แล้ว การที่เขาเล่นมวยปล้ำด้วย ก็เป็นการฝึกทักษะการต่อสู้ที่ช่วยในอาชีพนักแสดงของเขาได้เยอะ และยังเป็นส่วนนึงที่ทำให้เขาสามารถปรับร่างกาย เพิ่มหรือลดน้ำหนัก และปรับทรงของหุ่นได้ตามบทบาทที่เขาจะเป็น เหมือนอย่างตอนที่เขาไปรับบท Star-Lord นั้นก็เป็นการลดน้ำหนักลงไปได้มากเลยทีเดียวเพื่อบทบาทนี้

6. เขามีสัตว์เลี้ยง เยอะแทบจะเป็นสวนสัตว์

ปกติเรามักเห็น Chris เป็นคนประเภทรักหมารักแมว แต่จริงๆ แล้วเขานั้นรักสัตว์แทบจะทุกชนิดโดยเฉพาะพวกสัตว์แปลกๆ ด้วย เพราะเขาเคยเปิดเผยว่า เขามี สุนัขทั้งพันธุ์ปั๊กคู่นึง และชิวาว่า กิ้งก่า ชื่อ Puff มีปลาทองอีก 5 ตัว มีปลาออสการ์ ปลา Pacus มีกบแอฟริกัน นี่ยังไม่รวมพวกต้นไม้กินแมลงอีกมากมาย แล้วก็ต้นบอนไซด้วย นอกจากนี้เขายังชอบ Tweet เกี่ยวกับพวกคนที่ล่าสัตว์ด้วย ว่าเป็นการกระทำที่แย่มากๆ และด่าพวกคนกลุ่มนี้ทุกครั้งที่มีโอกาส นับว่าเป็นคนรักสัตว์ตัวจริงเลย

7. เขาเคยปฏิเสธ บทของ Star-Lord กับ Marvel

แม้ว่าเกือบทุกคนจะลงความเห็นว่า Chris Pratt เหมาะกับบท Star-Lord อย่างแท้จริง แต่จริงๆ แล้วในตอนที่ผู้กำกับ James Gunn กำลังหาดารามารับบทนี้นั้น ก็มี Chris Pratt นั่นแหละที่เข้าตา แต่ Chris เองในตอนนั้นกังวลทั้งเรื่องหุ่นของตัวเองที่ค่อนข้างอวบในช่วงนั้น รวมถึงไม่มั่นใจที่จะรับบทใหญ่ขนาดนี้ได้ แต่สุดท้ายแล้ว เมื่อเขาได้มาทดลองออดิชั่น James Gunn ก็ยืนยันว่าเขาคือคนที่ใช่ และการจุดเปลี่ยนในวงการ ที่ทำให้เขาดังเปรี้ยงมาจนถึงทุกวันนี้