ที่สำคัญตัวอย่างที่ว่ามันเต็มไปด้วยปริศนามากมายสำหรับสาวก The Matrix ที่ติดตามกันมาตลอดถึง 3 ภาค และแม้ว่าจะดูจบแบบวนซ้ำไปมาก็ยังไม่สามารถแน่ใจได้ว่า เรื่องราวในภาคนี้จะเกี่ยวกับอะไรด้วยซ้ำ แต่ที่รู้ๆ คือมันกลับมีเสน่ห์ดึงดูดเราเข้าอย่างจัง จนอยากที่จะมาชวนคุยและถามกันต่อว่า ในสิ่งที่สงสัยกันนี้ แฟนๆ The Matrix จะมีความคิดอย่างไรกัน?’

เกิดอะไรขึ้นกับ Neo?

จากไตรภาคที่ผ่านมาทุกคนย่อมรู้ตอนจบของตัวละครกันดีอยู่แล้วว่ามันจบลงอย่างไร เพราะ Neo หรือ Thomas Anderson ได้จากไปแล้ว จากการพลีชีพในการต่อสู้กับ Agent Smith เพื่อให้ทุกอย่างมันจบลง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น แม่หมอ Oracle ก็เคยบอกเอาไว้ในตอนจบไตรภาคว่า Neo นั้นไม่ได้ตายสนิทแบบที่ใครเข้าใจ แต่กลับคืนชีพกลับมาในรูปแบบบางอย่างแทน

ทำให้สิ่งที่คนสงสัยกันมากในตอนนี้ว่า นี่คือ Neo คนที่เรารู้จักอยู่ใช่ไหม และถ้าใช่ในตอนนั้นเขาจะรอดมาได้อย่างไร แต่ทุกอย่างที่ออกมาตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะจดจำ Trinity ไม่ได้ รวมถึงยังดูไม่มีความทรงจำกับการเป็น Neo เลย ในขณะที่หลายๆ ฉากมันทำให้เราเห็นว่าชายคนนี้กำลังเดินทางแบบเดิมเพื่อเข้าสู่โลก The Matrix อีกครั้ง อย่างการตามกระต่ายขาวไป จนทำให้น่าสนใจมากว่าแท้จริงแล้ว Neo นี้จะเป็น Neo คนเดิมหรือเป็นเพียงร่างที่ถูกใส่ความทรงจำหรือโปรแกรมในโลก The Matrix อยู่กันแน่

เนื้อเรื่องจะเกี่ยวกับอะไร?

เชื่อว่านอกจากทีมงานแล้วคงเดากันได้ยากจริงๆ เพราะจากตัวอย่างที่ออกมานั้น แทบจะไม่ทำให้เรารับรู้ที่มาหรือที่ไปจากการทิ้งห่างมาหลายปีขนาดนี้ คนดูตัวอย่างจะเห็นแค่ว่า เราได้พบกับ Neo และ Trinity อีกครั้ง แต่ดูเหมือนพวกเขาจะจำอดีตของกันและกันไม่ได้เลย ในส่วนของยาสีฟ้าและยาสีแดง ก็ยังกลับมาอีกครั้ง เพื่อให้ Neo เลือกทิ้งยาสีฟ้าไป แล้วไปลุยกันต่อในโพรงกระต่ายด้วยยาสีแดงแทน จนทำให้ภาพจำของ The Alice in Wonderland ก็กลับมาอีกครั้ง 

จนเรียกได้จากตัวอย่างที่แกะกันมา ไม่อาจทำให้เราทราบได้เลยว่าเนื้อหามันจะเกี่ยวกับอะไรกันแน่ เพราะในความเป็นภาคต่อของมัน ก็ดูเหมือนจะมีฟิลลิ่งของการรีบู้ต ที่นำฉากเก่าๆ ที่ชวนคิดถึงมาใช้อยู่ไม่น้อยเลย จนเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะหาว่ามันเชื่อมโยงกับไตรภาคก่อนหน้านี้มาได้อย่างไร

ตัวละครกลับสู่โลก The Matrix อีกครั้ง?

แม้ว่าทีมงานชุดดำดูเหมือนจะหายไปจากเรื่องแทบทั้งหมด แต่ด้วยฉากแอคชั่นที่ออกมา ไม่ว่าจะเป็นพลังหยุดกระสุน หรือทักษะต่อสู้ต่างๆ ก็ทำให้เรารู้สึกได้ว่าจริงๆ แล้วพวกเขากลับมาในโลก Matrix อีกครั้ง แม้ว่าคราวนี้โทนสีออกจะเปลี่ยนจากเขียวๆ ตุ่นๆ เป็นสีส้มแทนก็ตาม แต่ฉากแอคชั่นที่เหนือมนุษย์ทั้งหลาย รวมถึงพลังใหม่ของ Neo ก็พอจะบอกได้ว่านี่ไม่ใช่โลกแห่งความจริงแน่ๆ อยู่แล้ว

นอกจากนี้ Mr. Anderson แม้ว่าจะไม่ใช่หน้าที่คุ้นเคย แต่ด้วยสูทดำบวกกับแว่นดำก็ทำให้เรารู้ทันทีว่าพวกเขาก็กลับมาเช่นกัน ทำให้โลกของ The Matrix ที่เห็นอยู่นี่น่าจะเป็นเวอร์ชั่นที่อัพเกรดอย่างแน่นอนเมื่อดูจากความทันสมัยที่เกิดขึ้น ต่างจากการใช้โทรศัพท์ตู้ในสมัยก่อนมากๆ ทำให้ชวนสงสัยว่า หรือนี่จะเป็นการ Reboot โลก The Matrix อีกครั้ง (เพราะ Architect เคยบอกว่ามีการ Reboot กันมาบ่อย เพราะมีผู้ตื่นรู้ และรู้ว่าตัวเองอยู่ในโลกเสมือนไม่ใช่โลกความจริง) ซึ่งสิ่งที่ชวนสงสัยอย่างมาก คือหลังจากที่ Neo ได้ทำสัญญาสงบศึกกับเครื่องจักรไปแล้วว่าจะไม่ไล่ล่ามนุษย์ที่ไม่เต็มใจจะเข้าไปในโลกนั้นอีก ถึงได้กลับไปอยู่ในนั้นกันอย่างถ้วนหน้า

ดาราเดิมตัวละครใหม่กับดาราใหม่ตัวละครเดิม?

แน่นอนว่าเราได้เห็นนักแสดงหลักของหนังชุดนี้อย่าง Keanu Reeves (ในมาด John Wick) ในบท Neo, มี Carrie-Anne Moss ในบท Trinity รวมถึง Jada Pinkett Smith ในบท Niobe (ที่ไม่ไดฌผล่อในตัวอย่าง) รวมถึงนักแสดงประกอบอีกหลายคนที่เราคุ้นตากันดีจากไตรภาคที่แล้ว แต่ที่น่าสนใจก็คือ ดาราที่น่าจะเป็นหัวหอกของเรื่องอย่าง Laurence Fishburne ในบท Morpheus หายไปไหน และเหตุใดจึงต้องใช้ Yahya Abdul-Mateen มารับบท Morpheus ในวัยที่หนุ่มกว่าแทน 

ซึ่งหากเป็นดาราอย่าง Hugo Weaving ที่เคยรับบท Agent Smith จนติดตายังพอเข้าใจได้ ว่าเกิดจากตารางงานที่ไม่ตรงกันทำให้เขาต้องทิ้งบทเดิมไปอย่างน่าเสียดาย แต่ดาราอย่าง Fishburne เองก็แปลกใจมากที่ไม่มีชื่อเขาปรากฏในหนังเรื่องนี้ โดยเขายังได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Collider ในปีนี้ว่า “ผมไม่ได้อยู่ในหนัง The Matrix ภาคใหม่ และคุณคงต้องไปถาม Lana Wachowski เองว่าทำไม เพราะผมเองก็รู้คำตอบในเรื่องนั้นเหมือนกัน” สิ่งนี้ก็น่าสนใจว่าหนังมีเหตุผลอะไรที่ต้องปรับให้ Morpheus เด็กลง ในขณะที่ตัวละครอื่นๆ มีอายุมากขึ้นตามกาลเวลา

จุดจบ หรือจุดเริ่มต้นครั้งใหม่?

จากปรากฏการณ์ในภาคแรก ที่สร้าง Pop Culture ระดับโลกที่ไม่ว่าคอหนังคนไหนก็ต้องรู้จักกับ The Matrix อย่างแน่นอน เพราะหนังไม่เพียงแค่สร้างความแปลกใหม่ในวงการหนัง ทั้งการเล่าเรื่องสุดล้ำ เทคนิคยอดเยี่ยมจากฉากแอคชั่นต่างๆ รวมไปถึงการออกแบบทุกสิ่งที่ทุกอย่างออกมาใหม่ได้อย่างน่าจดจำเหลือเกิน ซึ่งจากปลายทางของภาค Revolution นั้น หากจะมองให้เป็นตอนจบที่ลงตัวมันก็ถือว่าได้ แม้ว่าคุณภาพมันจะยังสู้สองภาคก่อนไม่ได้ก็ตาม

ดังนั้นการถือกำเนิดใหม่ ตามชื่อของ Resurrection นั้น ก็น่าจะมีโอกาสเป็นจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ของเรื่องราว ที่มีการวางแผนถึงภาคต่อๆ ไปแล้วมากกว่าที่จะเป็นแค่จุดจบ แต่ทว่ามันจะสามารถปรากฏการณ์ระดับโลกได้อย่างที่เคยหรือไม่ ส่วนนี้เราคงต้องไปลุ้นกันในช่วงสิ้นปี ทั้งลุ้นว่าหนังจะปังหรือไม่ รวมถึงลุ้นว่าตอนนั้นประเทศเราจะเปิดโรงหนังได้หรือยัง?