ScoopConjuring3_00

The Conjuring : The Devil Made Me Do It เมื่อปีศาจบังคับให้ผมฆ่าคน ตามมาดูเรื่องจริงจากอีกคดีหลอนของวอร์เรน

The Conjuring: The devil made me do it เป็นหนังภาคที่ 3 ของหนังชุด The Conjuring และเป็นเรื่องที่ 8 ของจักรวาลหนังชุดนี้ ซึ่งก็ยังคงเอาเนื้อหาจากคดีจริงของสามี ภรรยานักปราบผีมาใช้ในเรื่องราวอยู่เหมือนเดิม

ย้อนกลับไปปี 1981 นั้น Ed และ Lorraine ถูกขอความช่วยเหลือให้ไปช่วยดูอาการของ David Glatzel เด็กน้อยที่มีลักษณะเหมือนผีเข้าอย่างรุนแรง ในขณะที่พวกเขากำลังทำการไล่ผีนั้น Arne Johnson แฟนหนุ่มของพี่สาว David ก็บอกให้ปีศาจปล่อย David แล้วเอาตัวเขาไปแทน จนสถานการณ์ทุกอย่างก็เหมือนจะสงบลง แต่แล้วไม่กี่วันต่อมา Arne ก็ได้ฆ่า Bruno Sauls เจ้าของที่ดินที่เป็นเพื่อนกับเขาโดยการใช้มีดแทงไม่ยั้ง โดยที่อ้างว่าทำลงไปเพราะถูกปีศาจควบคุมอยู่ จนทำให้ Ed และ Lorraine ต้องเข้ามาช่วยพิสูจน์ในสิ่งนี้ต่อกระบวนการกฏหมาย

 แล้วเรื่องจริงเป็นอย่างไร? [ข้อมูลในเรื่องจริง อาจเปิดเผยเนื้อหาของหนัง]

ในเรื่องจริงที่เกิดขึ้นนั้นก็คล้ายคลึงกับในหนังอยู่มาก จากการที่ Arne Johnson นั้นให้ปีศาจย้ายจากที่สิงตัวน้องชายของแฟนสาว มาเข้าร่างตัวของเขาเอง ในวันที่คู่สามี ภรรยา Warrens ไปช่วยไล่ผีให้กับ David อยู่พอดี ซึ่ง Debbie แฟนสาวของเขาก็ได้บอกกับตำรวจว่า ในกระบวนการไล่ผีในแต่ละครั้งนั้น (โดย Ed มีภูติผีปีศาจในร่างเขาอยู่ถึง 43 ตัว) Johnson จะมีอาการแปลกๆ มากมาย ทั้งการเห็นภาพหลอน ทั้งลักษณะท่าทางเลียนแบบสัตว์ ทั้งๆ ที่ในชีวิตปกติเขาไม่เคยเป็นเช่นนี้เลย แถมอาการเหล่านี้ก็ยังเหมือนกับตอนที่ David น้องชายของเธอโดนสิงไม่มีผิด แต่ในขณะที่คนใกล้ตัวหลายคนก็มองเป็นแค่อาการทางจิต

คดีนี้เป็นฆาตกรรมครั้งแรกในรอบหลายปีในเมือง Brookfield, Connecticut ที่เงียบสงบมาโดยตลอด จนมันกลายเป็นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก เพราะตามรูปคดีนั้น Arne ก็กระหน่ำแทง Alan Bono (แต่ในหนังใช้ชื่อว่า Bruno Sauls) ด้วยมีดพกที่ยาวถึง 5 นิ้วหลังจากทั้งคู่เพิ่งจะกินข้าวกลางวันด้วยกันมา และมีรายงานว่าทั้งคู่ทะเลาะกันมาก่อน อาจจะเป็นความหึงหวงในตัวของ Debbie แฟนสาวของ Arne เอง โดยตำรวจมาพบเขาห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 ไมล์ในวันเดียวกันที่เกิดเหตุ โดยเขาอ้างว่าเขาไม่สามารถจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เลย รวมถึง Debbie ก็ยังอ้างว่าตอนที่ก่อเหตุ Arne ก็เหมือนตกอยู่ในภวังค์แบบคนไม่มีสติด้วย

หลังจากตำรวจควบคุมตัวไป Arne เองก็ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าปีศาจมันสั่งให้เขาทำจนกลายเป็นพาดหัวหนังสือพิมพ์ใหญ่โตในช่วงนั้นว่า “Devil made me do it” จนกระทั่งคู่สามี ภรรยา Warrens นั้นก็ต้องออกสื่อสาธารณะอีกครั้งเพื่อชี้แจงในสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งกล่าวถึงการมีส่วนร่วมของพวกเขาตั้งแต่การไล่ผีให้กับ David แล้ว แต่ Carl Glatzel ผู้เป็นน้องชาย David ที่ไม่เชื่อเรื่องนี้แต่แรกก็มองว่า Warrens ทั้งสองทำไปเพื่อเงิน และหาซีนให้กับตัวเอง เพราะสุดท้ายแล้วทั้งคู่ก็ได้ทั้งชื่อเสียง และมีการออกหนังสือถึงเหตุการณ์ดังกล่าวออกมาด้วย

การไต่สวนเริ่มขึ้นช่วงเดือนตุลาคมปี 1981 ที่ได้ทนายอย่าง Martin Minnella มาช่วยว่าความเรื่องที่ Arne ถูกปิศาจควบคุมในขณะก่อเหตุ ไม่ใช่เจตนาของตัวเขาเอง แต่ทางศาลเองก็ต้องปฏิเสธเหตุผลนี้ เพราะมันไม่สามารถหาหลักฐานและข้อพิสูจน์ได้ ซึ่งทางคณะลูกขุนก็ต้องอึ้งไปตามๆ กันเพราะไม่เคยได้ยินข้อโต้แย้งแบบนี้ในศาลมาก่อน แต่แล้วหลังจากใช้เวลาพิจารณาคดีถึง 3 วัน กว่า 15 ชั่วโมงที่คณะลูกขุนตัดสินใจ สุดท้ายแล้ว Arne ก็ได้รับข้อหาฆาตกรรมในขั้นต้น และถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 10-20 ปี

แต่ด้วยความประพฤติตัวอย่างดี สุดท้ายแล้วโทษจึงลดลงเหลือเพียง 5 ปีเท่านั้น โดยเขาก็ได้แต่งงานกับ Debbie แฟนสาวในช่วงเขาติดคุก โดยทั้งคู่ได้ออกมาใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเงียบๆ มีลูกด้วยกันสองคน และไม่กลับไปพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย

ถ้าทำภาค 4 จะมีอะไรต่อ?

จักรวาลของหนังชุด The Conjuring นับเป็นอีกจักรวาลที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก จากการที่หนังสามารถทำรายได้ได้เป็นอย่างดีในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาคหลักหรือภาคเสริมต่างๆ นานา แต่ทว่าในภาค 3 นี้ก็จะเห็นได้ว่าคู่สามี ภรรยา Ed และ Lorraine Warrens ในช่วงอายุที่เริ่มมากขึ้นแล้ว เพราะฉากหลังปี 1981 ก็เป็นช่วงที่พวกเขาอยู่ในวัย 54-55 ปีแล้ว แต่ก็ยังเหลือเวลาอีกกว่า 10 ปี ก่อนที่พวกเขาจะเลิกทำอาชีพนี้ โดย Ed Warren เสียชีวิตก่อนในปี 2006 จากนั้น Lorraine Warren ก็เพิ่งเสียชีวิตเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมาในวัย 92 ปี

ซึ่งจากการสัมภาษณ์ผู้กำกับภาคล่าสุดอย่าง Michael Chaves แล้ว เขาก็จะใช้เวลากับภาคต่อๆ ไปของ Conjuring ในการสำรวจคดีของพวกเขาในยุค 80s ไปก่อน เพราะมันเป็นยุคที่ผู้คนหวาดกลัวกับลัทธิซาตานกันอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นช่วงที่ Lorriane นั้น เข้าไปช่วยงานกับนักสืบและตำรวจเป็นจำนวนมาก จนเป็นวัตถุดิบชั้นดีที่น่าจะเอาไปต่อยอดและเล่าเรื่องได้อีกหลายภาคกันเลย