Caught Stealing (2025)

คนเดือดขวางทางโจร

Caught Stealing Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

หายนะคนดวงซวย ที่เล่าเรื่องมันส์ชิบหาย

หมวดหมู่ : Comedy Crime
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Darren Aronofsky
ความยาว : 1 ชั่วโมง 47 นาที
นักแสดงนำ : Austin Butler, Zoë Kravitz, Matt Smith

คำคมจากภาพยนตร์

"What happened to me? You're just shit out of luck."
"เกิดอะไรขึ้นกับกู มึงก็แค่ซวยไปไง"

เรื่องย่อ

Hank Thompson อดีตนักกีฬาผู้ตกอับมีปมในใจ ปัจจุบันกลายเป็นบาร์เทนเดอร์ตกอับใช้ชีวิตไปวันๆใน New york ชีวิตเขาไม่ได้น่าจะเข้าไปพัวผันเรื่องอาชญากรรมได้ ทว่าการรับเลี้ยงแมวของเพื่อนข้างห้องที่พาหายนะมาให้เขาไม่ทันตั้งตัวเมื่อมีมาเฟียรัสเซียมาทวงเงินเพื่อนเขา แต่ดันโดนซ้อมปางตายแถมยังเสียไตไปข้างหนึ่ง ท้ายที่สุดเขาได้รู้ว่าเพื่อนข้างห้องเป็นพ่อค้ายา และเรื่องราวบานปลายไปยังคนรอบข้าง ท้ายที่สุด บาร์เทนเดอร์หนุ่มต้องดิ้นรนด้วยทักษะที่ตัวเองมี ก่อนที่เขาจะกลายเป้นศพ

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Caught Stealing เป็นหนังที่เหมาะกับสายหนังอาชญากรรมตลกร้ายที่พล็อตเรื่องโคตรสนุก หายนะคนดวงซวยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ดันมารับเคราะห์ในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้สร้างเอาไว้ หนีตายดิ้นรนสู้แบบคนจนตรอกในดงที่เต็มไปด้วยอาชญากร หนังวิพากย์วิจารณ์ผ่านความโลภอำนาจของเงินตราที่ใครเห็นก็ต้องคว้าเอาไว้  มันเต็มไปด้วยความเลวร้าย ด้วยสถานการณ์บีบขั้นตัวละครทำให้เธอกลายเป็นเหยื่อและกลายเป็นฆาตกรเข้าไปอยู่ในวงจรที่เธอไม่ได้รู้จักมาก่อนเลยด้วยซ้ำ หนังเองก็ตีความได้สนุกผ่านปมที่น่าสงสัยพอคลี่คลายเรื่องราวชวนเหว่อต้องยกเครดิตให้มือเขียนบทที่สร้างเรื่องราวได้โคตรเจ๋งมากๆ

รีวิว / สรุปเนื้อหา

เป็นหนังที่มีการเล่าเรื่องผ่านตัวละครห่วยๆที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง สนุกไปวันๆ ติดเหล้าสร้างปัญหา บ้าเซ็กซ์ ไม่รู้ว่าชีวิตต้องการอะไร หนังค่อยๆพูดถึงวันซวยๆที่เขาต้องแบกรับปัญหาในเรื่องที่ตัวเองไม่ได้สร้างไว้ซะด้วย หนังมันมาด้วยท่าทางทริลเลอร์จริงจัง ผ่านตัวละครที่เข้าไปอยู่ในสมรภูมิมาเฟีย นักฆ่า นักค้ายา ตำรวจเลว มันเป็นเรื่องใหญ่ที่เขาจะแบกรับไว้ จากความฝันเป็นนักกีฬา ดันมาหนีตายเพราะความซวยที่เข้าไปยุ่งไม่เข้าเรื่อง ชอบจังหวะหนังที่มันแปลกแตกต่างจากสไตล์เดิมๆของ Darren Aronofsky ส่วนตัวคิดว่าเขาไม่ใช่ผู้กำกับที่ทำหนังอาร์ตดูยาก แต่ยังยอดเอกลักษณ์เฉพาะตัวปัญหาปมในใจของตัวละครที่สลัดความผิดหวังไม่ออก ดันมาเจอหายนะที่ใหญ่เกินจะสู้ แต่ดันพาคนรอบข้างซวยไปด้วยอีก

มองไกลๆก็คล้ายๆเรื่องตลก 69 ในพาร์ทผู้ชายที่มาด้วยท่าทางจริงจัง ดิ้นเพื่อความอยู่รอด หาเหลี่ยมหามุมเอาตัวรอดในดงอาชญากรที่ไม่มีใครไว้ใจได้สักคน เพื่อนก็วางให้เขาเป็นแพะรับบาป ตำรวจที่จ้องจะจับเขา มาเฟียรัสเซียที่โหดเหี้ยม นักฆ่าที่กวนตีน เขาต้องงัดสกิลที่มีเอาตัวรอดจากปัญหาบ้าๆนี่ Darren Aronofsky ไม่ได้ทำหนังยุ่งยากซับซ้อนกลับทำออกมาบันเทิง เล่าเรื่องสนุก ผ่านสภาพสังคมเสื่อมโทรม คนที่ไร้โอกาสไร้ความหวัง ไม่มีอะไรที่เป้นชิ้นเป็นอันต่อสู้กับความซวยเรื่องที่ตัวเองไม่ได้สร้างปัญหา มันบานปลาย จังหวะการเล่าเรื่องลุ้นเอาใจช่วยให้ตัวละครรอด ในจังหวะนรกชิบหาย มันทำให้เห็นว่าบางครั้งคนจนตรอกสู้ตายเฮือกสุดท้ายมันพร้อมจะดิ้นรนทำอะไรบ้าๆ ก้าวผ่านความกลัวความกดดัน

หนังขายการแสดงของ Austin Butler ที่เรื่องนี้ขายความหล่อ ที่ต้องงัดสกิลหนีตายแบบตลกร้าย ได้เห็นมิติใหม่ๆที่ไม่ได้ขายฉากแอ็คชั่นบ้าพลัง เน้นการเอาตัวรอด แก้ปัญหาที่ละเรื่อง Darren Aronofsky ผู้กำกับดึงศักยภาพได้เห็นมิติใหม่ทั้งความอ่อนแอภายในจิตใจ ความหวาดกลัว ความขี้ขลาด แต่ก็มีความสู้ตายจนเฮือกสุดท้ายเพื่อความอยู่รอด ดูก็รู้ว่าหนังเรื่องนี้ได้รับอิทธิพลมาจากหนังของ Alfred Hitchcock ตัวละครดวงซวย The Wrong Man ต้องมาทำภารกิจบ้าๆอะไรไม่ได้รู้ แต่บรรยากาศหนังไม่ได้มืดหม่น หดหู่สิ้นหวัง แต่มันมีความกวนตีนสอดแทรกลงไป ที่สำคัญหนังยังใส่พล็อต MacGuffin เพื่อพาผู้ชมขับเคลื่อนความสนุกไปพร้อมๆกับตัวละครติดตามเรื่องราวที่เขาติดตามสิ่งที่ยังไม่ชัดเจนในตอนต้นเรื่อง จนกระทั่งเรื่องราวเดินทางมาถึงจุดที่ความลับของ MacGuffin ถูกเปิดเผย ซึ่งมันเต็มไปด้วยการลุ้นเพื่อพาเรื่องราวไปสู่สิ่งไม่คาดฝัน ซึ่งตลอดทั้งเรื่องมันเป็นแบบนั้นจริงๆ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • Darren Aronofsky ผู้กำกับใช้เวลา 16 ปีในการดัดแปลงนิยายเล่มนี้เป็นภาพยนตร์
  • Austin Butler เพิ่มน้ำหนักไป 35 ปอนด์เพื่อให้ได้หุ่นที่เฟิร์ม