เพราะตั้งแต่ยุค 1987 จากภาคแรกมา เราก็ได้ดูเจ้า Predator ออกมาเชือดคนอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นในฉบับคอมมิค หรือหนังก็มีออกมาหลายต่อหลายภาค ซึ่งแค่ของหนังเอง ก็มีกลุ่มคนดวงซวยมาเผชิญหน้ากับมันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Predator บุกเมือง หรือ Cross ไปเจอกับ Alien ที่ต่างดาวจากค่ายเดียวกัน และล่าสุดก็ได้มีโอกาสย้อนสู่ในยุคโบราณกันอีกครั้งใน Prey ซึ่งก็เผื่อใครดูแล้วจะติดใจ วันนี้เลยอยากไปไล่เรืยงไปถึงภาคก่อนๆ ให้ดูกันว่ามันมีภาคไหนมาก่อนแล้วบ้าง

Predator (1987) – คนไม่ใช่คน

ผู้พันดัทช์ นายทหารพร้อมหน่วยที่ได้รับภารกิจมาช่วยเหลือตัวประกันที่เป็นรัฐมนตรีในป่าแห่งหนึ่งของเม็กซิโก แต่เมื่อมาถึงกลับพบกับศพทหารหน่วยพิเศษมากมายที่ถูกฆ่าถลกหนังทิ้ง เสมือนไม่ใช่ฝีมือมนุษย์ จนทำให้พวกเขายิ่งแค้นเคืองกลุ่มก่อการร้ายเข้าไปใหญ่ และกำจัดพวกมันจนสิ้นซาก ถึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วเป็นภารกิจช่วยตัวประกันหลอก แต่ก่อนจะกลับ พวกเขาดันต้องเผชิญกับสิ่งมีชีวิตที่เป็นนักล่าขั้นเทพ ที่ค่อยๆ เอาชีวิตทีมของเขาไปทีละคนๆ 

การเปิดตัว Predator นักล่าของเผ่า ย้วดจา เป็นครั้งแรก ด้วยไอเดียตั้งต้นว่าจะเอามนุษย์ที่แข็งแกร่งอย่าง อาร์โนล ไปต่อยกับใครได้อีก ซึ่งสุดท้ายก็ลงเอยด้วยการมนุษย์ต่างดาวสุดโหดไปลุยด้วย เพื่อให้ อาร์โนล ตกอยู่ในสถานะของมวยรองกับเขาบ้าง หลังจากที่เป็นตัวเอกเทพที่ชนะมาหมด จนได้ความแปลกใหม่ในแบบที่คอหนังไม่เห็นมาก่อน ทั้งสกิล และเทคโนโลยีในการล่า รวมถึงฉากไคลแม็กซ์ดวลเดี่ยวที่ทำออกมาได้เดือดถึงใจก็ไม่แปลกนักหากมันจะเป็นภาคที่มีแฟนๆ ตามมาจนถึงทุกวันนี้และยกให้เป็นภาคที่ดีที่สุดมาโดยตลอด

Predator 2 (1990) – คนไม่ใช่คน 2: บดเมืองมนุษย์

10 ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรก ได้เกิดสงครามกลางเมืองระหว่างแก๊งยาเสพติดในกรุงลอสแองเจลิส และมีการนองเลือดในแบบที่ฝ่ายก็บอกว่าตัวเองไม่ได้ทำ จนทำให้ ผู้หมวดแฮริแกน ต้องลงพื้นที่มาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่จะพบว่าสิ่งที่ฆ่าทั้งสองแก๊งก็คือ Predator ที่คราวนี้มันเข้ามาในเมืองนั่นเอง แถมมันยังเล็งแฮริแกนไว้เป็นเหยื่อที่เตรียมล่าเป็นหลักอีกด้วย

หลังจากภาคแรกประสบความสำเร็จไปแบบทั้งด้านรายได้และคำวิจารณ์ ภาคต่อจึงเตรียมเข็นออกมาในทันที และย้ายฉากหลังไปที่เมืองแทน แต่อาร์โนล นักแสดงตัวเอกจากภาคแรกที่ดังขึ้นจากช่วงที่ผ่านมา กลับยังไม่ถูกใจสิ่งนี้ แถมผู้กำกับเดิมก็ดังจาก Die Hard ไปอีก จนทำให้โครงการต้องหาทีมใหม่ทั้งทีมสร้างและนักแสดง เมื่อผลออกมาตอนฉายโรงก็ทำให้รายได้ดันไปไม่ถึงเป้า เพราะคนไม่ค่อยเข้าใจเท่าที่ควร และไม่สนุกเท่าภาคแรก แต่สุดท้ายในตอนที่ออกแผ่น มันก็สร้างกลุ่มแฟนคลับภาค 2 ขึ้นมาได้อย่างเหนียวแน่น และมีคนเห็นคุณค่าของไอเดียแปลกใหม่มากมายของภาคนี้

AVP: Alien vs. Predator (2004) – เอเลียน ปะทะ พรีเดเตอร์ สงครามชิงเจ้ามฤตยู

อเล็กซา เล็กส์ วู้ดส์ หนึ่งในสมาชิกในทีมผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ที่ได้รับมอบหมายให้เข้าไปลงพื้นที่สำรวจกระแสความร้อนที่ผุดขึ้นมาในทวีปแอนตาร์คติก เมื่อขุดลึกลงไปพวกเขากลับได้พบปิรามิดประหลาด ที่ดูเหมือนเป็นส่วนผสมของวัฒนธรรมในหลายสัญชาติ ไม่ทันไรในสถานที่แห่งนี้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนทำให้พวกเขาต้องติดอยู่ข้างในและไม่สามารถติดต่อสู่โลกภายนอกได้ อีกทั้งยังพบกับเรื่องราวสยองกว่านั้น เมื่อพบว่านี่คือลานฝึกนักล่าต่างดาวอย่าง Predator ที่สร้างสถานที่แห่งนี้เอาไว้ เพื่อให้นางพญาเอเลี่ยนปล่อยลูกๆ มาให้มันล่า

รู้สึกว่าคนที่ไม่ได้ผูกพันหรือมีความทรงจำดีๆ กับหนังทั้งสองเรื่องในภาคแรกๆ สักเท่าไร แล้วมองให้มันเป็นหนังเรื่องใหม่ ระหว่างต่างดาว 2 ตัวไปเลย จะดูสนุกไปกับหนังได้มากกว่า เพราะหากมีภาพจำที่ดีมาแล้วเนี่ยอาจจะต้องผิดหวังกันสักหน่อย กับการที่เอา 2 ตำนานมาเผชิญหน้ากันได้เบาหยองเหลือเกิน ทั้งความสมเหตุสมผล ทั้งฉากต่อสู้ต่างๆ ก็เรียกได้ว่าธรรมดาจนไม่สมศักดิ์ศรีกันเลย แต่ทั้งนี้มันก็ยังมีกลุ่มแฟนคลับที่ชอบหนังเรื่องนี้อยู่แบบมากๆ ทั้งไอเดียเล็กๆ จากหัวกะโหลกเอเลียนในยาน Predator 2 และต่อยอดมาสู่การซัดกันในเรื่อง ก็สาแก่ใจแฟนๆ อยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

AVPR: Alien vs Predator – Requiem (2007) – สงครามเอเลียนปะทะพรีเดเตอร์ 2

หลังจากที่ Alien ได้ผุดออกมาจากร่างของ Predator ใน AVP ภาคก่อน นำมาสู่ Predalien ต่างดาวสยองลูกผสมพันธุ์ใหม่ ที่ทำลายทุกอย่างจนขวางหน้า จนทำให้ยานลำนี้ตกลงมายังเมืองเล็กๆ ในโลกอีกครั้ง พร้อมกับภารกิจในการแพร่พันธุ์ ด้วยการฝังร่างตัวอ่อนลงในมนุษย์ในเมือง และได้ Predator ลงมาตามล่าพวกมันอีกครั้ง

ในภาคนี้ปรับโหมดกลับมาเป็นเรท R อย่างที่ควรจะเป็น เพราะภาคก่อนหน้ามีแค่เรท PG-13 เท่านั้น แต่ความโหดที่เพิ่มมา ก็ไม่ได้ทำให้หนังสนุกขึ้นแต่อย่างใด เพราะหนังเต็มไปด้วยฉากมืดทึมๆ จนดูไม่รู้เรื่องอีกหลายฉาก ทำให้การปะทะของมันเป็นอะไรที่แห้งมาก ในส่วนของมนุษย์เองก็เป็นส่วนเกินอย่างแท้จริง ไม่มีตัวละครแกร่งแบบภาคก่อนด้วย การกระทำตัวละครก็ออกมาเป็นเกรดบีทำให้หลายคนยิ่งดูก็ยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่ จนกลายเป็นว่าเป็นภาคต่อของหนังที่พังอยู่แล้ว ก็พังให้มันยับยิ้งกว่าเดิมไปอีก

Predators (2010) – มหากาฬพรีเดเตอร์

รอยซ์ หนึ่งในชายที่ร่วงหล่นลงมาจากฟ้า พร้อมทั้งกลุ่มคนปริศนาอีกคน ที่เต็มไปด้วยคนที่เหมือนจะไม่ใช่คนดีเท่าไรนัก เพราะมีทั้งนักโทษ ยากูซ่า พ่อค้ายา ต่างๆ เมื่อพวกเขาลงมาได้ จึงพยายามหาคำตอบว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน จนได้เผชิญกับศพแปลกๆ จนได้พบกับ โนแลนด์ ชายที่ถูกเอามาปล่อยไว้ก่อนหน้า และได้เล่าว่าแท้จริงแล้วพวกเขาถูกปล่อยออกมาเพื่อเป็นเหยื่อในการล่าของเหล่า Predator นั่นเอง

หนังอีกภาคของ Predator ที่สาแก่ใจแฟนๆ อยู่ไม่น้อย จากแรกเริ่มเดิมทีจะได้ Rebert Rodriguez มาเป็นผู้กำกับ แต่ดันติดเลยเปิดโอกาสให้ Nimrod Antal มาโชว์ฝีมือแทน ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่ได้ดี รวมถึงการพยายามหยิบเอากิมมิคเก่าๆ มาใช้ เพื่อให้แฟนๆ ได้คิดถึงด้วย โดยเฉพาะ Andrian Brody เองก็ถึงขนาดฟิตหุ่นล้ำแบบสุดๆ เพื่อฉากสุดท้ายในการเผชิญหน้ากับ Predator ที่ให้ความรู้สึกคล้ายต้นฉบับแบบไม่มีผิด นับเป็นอีกภาคที่ยังหยิบมาดูเรื่อยๆ ก็สนุกได้ไม่น้อยเลย

The Predator (2018) – เดอะ เพรดเดเทอร์

ควินน์ แม็คเคนน่า ทหารมือซุ่มยิงที่รอดชีวิตจาก Predator ภายในป่าแห่งหนึ่งของประเทศเม็กซิโก แต่เพื่อนๆ ร่วมรบของเขากลับต้องเสียชีวิตอย่างอนาถ จนทำให้เขาต้องถูกควบคุมตัวใบบำบัดในกลุ่มทหารผ่านศึก แต่แล้วลูกชายของเขา ก็ดันได้รับอุปกรณ์ของ Predator ที่เขาเองส่งมาไว้ที่บ้านก่อน จนกลายเป็นสัญญาณเรียก Predator ให้มายังโลก ควินน์และบรรดาทหารผ่านศึกที่มีปัญหาทางจิตทั้งหลาย จึงเป็นความหวังเดียวที่จะปกป้องเมืองแห่งนี้

เหมาะกับคนที่กำลังมองหาความแปลกใหม่จากหนังชุดนี้อยู่โดยที่ไม่ต้องยึดติดกับอะไรแบบเดิมๆ มากนัก จนทำให้คนที่ชื่นชอบในความคลาสสิคของการบู๊ขรึมในภาคก่อนๆ ก็อาจจะหงุดหงิดที่เห็นมันถูกเปลี่ยนโทนไปได้ถึงขนาดนี้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าถ้าลองเปิดใจก็น่าจะพบกับความสนุกในเวอร์ชั่นนี้อยู่ไม่น้อย เพราะความตลกร้ายของผู้กำกับนั้นเอามาใส่เข้ากับหนังชุดนี้ได้ดีมากๆ และสร้างสีสันให้กับหนังได้เป็นอย่างดี

Prey (2022) – เพรย์

นารู วัยรุ่นสาวของเผ่าอินเดียแดง ที่หวังอยากจะเป็นนักรบที่ดีได้เหมือนพี่ชายตัวเอง เพื่อที่จะได้ล่าสตัว์และปกป้องครอบครัวได้ แต่เธอนั้นต้องผ่านการยอมรับในพิธีล่าสิงโตเสียก่อน เธอจึงพยายามฝึกฝนตัวเองอยู่เรื่อยมา จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอกำลังฝึกแกะรอยอยู่นั้น ก็ได้พบกับยานประหลาดที่มาเยือนใกล้ถิ่นทื่อยู่ของเผ่า แถมยังพบกับการตายแปลกๆ ของสัตว์ต่างๆ จากฝีมือสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ จนกระทั่งเธอได้พบกับนักล่า Predator ที่มาฝึกล่าบนดินแดนแห่งนี้เหมือนกัน

แม้จะเป็นภาคใหม่ แต่ตัวหนังก็ถูกไปเซตฉากหลังให้อยู่ในยุคอินเดียแดง และการล่าอาณานิคมของชนผิวขาวที่เริ่มมารุกล้ำดินแดนมากขึ้น ซึ่งมันก็มีประเด็นให้พอพูดถึงได้มากมาย ทั้งในด้านตัวเอกหญิงและการยอมรับ การเป็นชนกลุ่มน้อยต่างๆ นานา และพอโยน Predator ลงไป สิ่งที่ได้มันก็คือความเดือดดาลที่ทำออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ เพราะไม่ใช่แค่มนุษย์ที่ย้อนยุค แต่ Predator เองก็มีเทคโนโลยีที่ยังไม่เหนือชั้นมากด้วย (แต่ก็ยังถือว่าเทพอยู่ดี) มันเลยออกมาได้ฉากไคลแม็กซ์ที่ค่อนข้างทรงพลังไม่แพ้ภาคไหนๆ เลยทีเดียว ไม่แปลกใจที่คนจะชื่นชอบกันมากๆ