The Nice Guys (2016)
กายส์ นายแสบมาก
คะแนน
โกดังหนัง
งานสืบสวนสอบสวนผสมผสานมุกตลกสุดฮา มาพร้อมกับพล็อตเรื่องที่มีกลิ่นอายหนังยุค 70 แถมบทหนังหลอกล่อคนดูตลอดเวลาเป็นงานที่เจ๋งมากๆ
คำคมจากภาพยนตร์
"You know who else was just following orders hitler."
"คุณก็รู้ว่ามีใครบ้างที่ทำตามคำสั่งของฮิตเลอร์"
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ Holland March นักสืบเอกชนต้องมาร่วมมือกับ Jackson นักเลงมาดโหด เพื่อสืบสวนหาเบาะแสหาตัวคนร้ายที่ก่อคดีฆากตรรมปริศนาแถมยังมีหญิงสาวที่ถูกลักพาตัวไป พวกเขาเลยละทิ้งความบาดหมางเพื่อช่วยกันหาตัวฆาตกรคนนี้ให้ได้ก่อนทุกอย่างจะสายไป
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ The Nice Guys นี่เป็นหนังตลกสืบสวนสอบสวนที่โคตรฮาโคตรเดือดโคตรมันส์ที่ลีลาการเล่าเรื่องจัดจ้านมากพล็อตเรื่องสลับซับซ้อนการไขคดีที่ชิบหายวาป่วง การหยิบโครงเรื่องแบบสไตล์ย้อนยุคกลิ่นอายแบบ 70 ใส่ความเป็นหนัง Buddy คู่หูลงไป หนังเรื่องนี้ค่อนข้างมีชั้นเชิงในการเล่าเรื่องที่มีความดิบเถื่อน เล่นกับความบังเอิญได้พอเหมาะพอเจาะแถมกัดจิกกัดสังคม หนังเขียนบทได้ค่อนข้างดี และพาคนดูลุ้นไปกับการสืบคดีตลอดทั้งเรื่อง หนังจะค่อยๆ คลี่ปมออกมาเรื่อยๆ จนเฉลยในตอนท้าย
รีวิว / สรุปเนื้อหา
ไม่แปลกใจว่าทำไมป๋า Robert Downey ถึงชอบและอยากทำงานกับ Shane Black กับ เพราะบทหนังแต่ละเรื่องเขาสร้างสรรค์ได้สนุกสนานรู้จังหวะจะหลอกล่ออะไรใส่คนดู กลายเป็นว่าเรื่องนี้แม่งสลับซับซ้อนคาดเดาคนร้ายไม่ถูกว่าบทสรุปเรื่องนี้ไปไหน Way ไหน ตลอดทางหนังมีจุดพลิกแพลงให้ผู้ชม สอดแทรกความสับสนวุ่นวาย ทั้งพฤติกรรมความคิดของตัวละคร จุดเด่นของหนังไม่ได้เล่นแค่ประเด็นไขคดีหาตัวคนร้าย แต่ยังบาลานซ์จังหวะให้กลายเป็นงานสืบสวนสอบสวนที่ผสมปนเปไปกับความตลกยิ่งมุขผ่านความเพี้ยนความบ้าบอของ 2 ตัวละครหลักที่แตกต่างกันสุดขั้ว นักสืบและนักเลงที่ไม่น่าจะจับมือเป็นคู่หูกันได้ แถมยังเป็นงานที่แฝงกลิ่นอายของความเป็นงานยุค 70 ที่ไม่ได้พูดแค่บรรยากาศอารมณ์หนัง แต่ยังพูดถึงความเลวร้ายของวัฒนธรรมยุคนั้น เช่น ธุรกิจหนังโป๊, การค้าบริการทางเพศ, อิทธิพลของสื่อที่เริ่มมีอิทธิพล หรือจะเป็นจรรยาบรรณของอาชีพนักสืบที่บางคนก็ทำงานกับคนมีเงินก็เท่านั้น หนังหยอกล้อแบบเจ็บแสบต้องคารวะผู้กำกับที่ตีความได้บันเทิง
ชอบการเซ็ตติ้งเรื่องราวในหนังที่ใช้ธีมยุค 70 มันเป็นยุครุ่งเรื่องของอเมริกาที่อิทธิพลมากมายเริ่มมีบทบาทกับชีวิตผู้คน มันกลายเป็นสีสันจัดจ้าน เป็นความบันเทิงที่ครบเครื่องโปรดักชั่นหนังเองก็ทำให้ผู้ชมเชื่อสนิทใจว่าเป็นยุค 70 ยุคโลกี อุตสาหกรรมหนังโป๊กำลังรุ่งเรื่อง และบ้านเมืองเต็มไป เพราะเรื่องนี้กลายเป็นที่ที่แพร่หลายในวงกว้างกลายเป็นธุรกิจมืดที่โยงใยกับผู้มีอิทธิพล ไหนจะเป็นเรื่องความละเอียดของทีมงานที่สร้างสรรค์ เฟรมภาพ โลเคชั่น การเลือกโลเคชั่น คอสตูมเสื้อผ้าหน้าผมนักแสดง แสงสีของหนัง ฉากต่างๆเลยสาดแสงนีออนแล้วมันเย้ายวนใจซะเหลือเกินมันทำให้ผู้ชมได้นึกภาพตามไปได้ แถมยังวิจารณ์แวดวงหนังโป๊ในยุคนั้นได้เจ็บแสบ นี่ยังไม่รวมถึงฉากแอ็คชั่นที่มันส์ชิบหาย เล่นใหญ่เลือดสาด พังทุกอย่างที่ขว้างหน้าไปอีก
ที่ชอบที่สุดคงเป็นการจับคู่กันของ Ryan Gosling และ Russell Crowe 2 พระเอกต่างยุคที่รับส่งมุขกันรัวๆ โดยเฉพาะ Ryan ออกมาแนวรั่วตลกโป๊กฮาแบบที่ได้ใจแฟนคลับ ได้เห็นความเพี้ยนๆแบบที่เขาไม่เคยทำมาก่อน แบบตลกก็ฮากร๊าก บทดราม่าก็เข้าขั้นหนักหน่วง ไม่คิดว่าเขาจะปล่อยคาแรกเตอร์ 2 อารมณ์ออกมาได้ในเรื่องนี้ ซึ่งมันเป็นเรื่องยากมากๆ พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นนักแสดงคุณภาพและไต่เต้าขึ้นมาเป็นพระเอกเบอร์ต้นๆของวงการด้วยฝีมือล้วนๆ ส่วน Russell คือส่วนผสมที่ลงตัวของหนัง ค่อนข้างชอบจังหวะนรกที่ 2 นักแสดงเล่นร่วมกันมันกลายเป็นว่าเป็นความเพี้ยนความฮาแบบที่ไม่ต้อง Fake เป็นความบันเทิงที่ครบรสดี
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- Russell Crowe และ Ryan Gosling วางแผนสร้างภาคต่อเอาไว้แต่เมื่อรายได้หนังไม่เข้าเป้า ทำให้แผนพัง