Love Actually (2003)

ทุกหัวใจมีรัก

Love Actually Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังรักประจำช่วงคริสมาสต์ของทุกปี ที่ใครๆ ก็มักหยิบมาดูซ้ำ ด้วยความรักที่อบอุ่นหัวใจ ผ่านเรื่องราวที่หลากหลาย ไม่แปลกใจที่ใครๆ ต่างก็หลงรัก

หมวดหมู่ : Comedy Drama Romantic
สัญชาติ : British
กำกับโดย : Richard Curtis
ความยาว : 2 ชั่วโมง 15 นาที
นักแสดงนำ : Hugh Grant, Martine McCutcheon, Liam Neeson

คำคมจากภาพยนตร์

“Let me say, without hope or agenda. Just because it’s christmas (and at christmas you tell the truth). To me, you are perfect.”
“ให้ผมได้บอกอะไรสักอย่าง โดยที่ไม่มีความหวังหรือเจตนาแอบแฝง เพราะนี่คือคริสมาสต์ (และคริสมาต์ ก็ทำให้เราได้บอกความจริง) ว่าคุณคือคนที่สมบูรณ์แบบสำหรับผม”

เรื่องย่อ

หนังรวมความรักของหลากหลายตัวละครที่เกิดขึ้นในช่วงคริสมาสต์ กับความรักหลากหลายรูปแบบ จากหลากหลายเงื่อนไข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ นายกรัฐมนตรีหนุ่มโสด ที่ตกหลุมรักกับผู้ช่วยของตัวเอง นักเขียนหนุ่ม กับการพบรักกับสาวใช้ที่ต่างภาษา คู่สามีภรรยาที่ครอบครัวดูดี แต่ฝ่ายชายเริ่มปันใจให้หญิงอื่น หนุ่มที่แอบชอบภรรยาของเพื่อนตัวเอง พ่อเลี้ยงที่สอนความรักให้กับลูกชาย สาวอเมริกันสุดเฉิ่มที่ปิ๊งรักกับหนุ่มที่ทำงาน ร็อคสตาร์ที่พยายามกลับสู่วงการ เด็กน้อยกับดาวโรงเรียนในฝัน ที่จะมาเติมเต็มให้ช่วงคริสมาสต์ ให้อบอวลไปด้วยเรื่องของ “ความรัก” แม้ว่ามันจะมีทั้งเรื่องที่สมหวังหรือผิดหวังอยู่บ้างก็ตาม

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Love Actually นั้น คือหนังรักดีๆ อีกเรื่อง ที่ผสมผสานเรื่องราวหลากหลายคู่ หลากหลายรูปแบบของความรัก ที่เอาตัดต่อผสมก้ันได้อย่างอบอุ่นหัวใจ  ซึ่งมันจะเหมาะมากๆ กับคนที่ชอบดูหนังรัก หรืออินกับเรื่องราวรักๆ อยู่แล้ว เพราะหนังน่าจะมีเรื่องราวที่โดนๆ ใจเราอยู่บ้างแหละ จากความหลากหลายที่มีของมัน แถมในทุกๆ ช่วงคริสมาสต์มันก็ยังเป็นหนังประเพณีที่คนมักหยิบมาดูกันอยู่ตลอด ซึ่งคนที่ไม่ใช่คอหนังรักก็ยังน่าจะพอดูไหว ด้วยความที่ไม่ได้หวานเลี่ยนจ๋าๆ แต่แฝงด้วยแง่มุมชีวิตที่น่าสนใจ ทำให้มันก็น่าจะเหมาะกับใครหลายๆ คนในวงกว้างอยู่ไม่น้อย ใครที่ชอบหนังรวมรักอย่าง Valentine’s Day หรือ ์New Year’s Eve แล้ว Love Actually คือต้นตำรับของหนังรวมรักเลยแหละ

  • สายหนังโรแมนติกคอเมดี้
  • สายหนังรวมรักหลายคู่
  • สายหนังรักคริสมาสต์

รีวิว / สรุปเนื้อหา

เรียกได้ว่าเป็นหนังรักประจำช่วงคริสมาสต์กันไปแล้ว เพราะไม่ว่าจะผ่านไปสักเท่าไร ผู้คนก็ยังจะพูดถึง และหยิบเอา Love Actually มาดูกันอยู่เสมอ จนแทบจะกลายเป็นสัญลักษณ์กันเลย ด้วยความที่ตัวหนังที่มีหลากหลายความสัมพันธ์ เลยทำให้เชื่อว่าคนที่เคยมีประสบการณ์ความรัก ก็น่าจะมีเรื่องที่โดนๆ ใจอยู่บ้างอย่างน้อยๆ ก็สัก 1-2 เรื่อง ให้พอที่จะเชื่อมโยงให้เข้ากับตัวละครกันได้ หลายๆ คนที่ดูหนังเรื่องนี้จึงอาจจะมีคู่ที่ชอบในใจแตกต่างกันออกไป แล้วแต่ว่าจะอินได้กับประสบการณ์แบบไหนมากกว่า

ในส่วนการตัดต่อของหนังก็ค่อนข้างกลมกล่อมอยู่เหมือนกัน แม้ว่าจำนวนคู่จะมีมากมายประมาณ 9-10 คู่ กับเวลาของหนังที่มีแค่เพียง 2 ชั่วโมง 15 นาทีเท่านั้น ก็ทำให้หลายเรื่องที่อยู่ในนี้ค่อนข้างมีความเบียดเสียดกันอยู่ไม่น้อย ซึ่งข้อดีก็คือทุกเรื่องเน้นแต่ๆ เนื้อๆ แทบจะไม่มีน้ำ เล่าไว ให้เข้าใจง่าย และยิงตรงประเด็นในทันที เลยทำให้หนังไม่ค่อยมีช่วงที่น่าเบื่อเลย เพราะแต่ละเรื่องต้องใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดเล่าออกมาให้คนอินไปกับหนังให้ได้เนื้อหาครบถ้วนที่สุด แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังต้องมีเวลาพอให้คนดูได้อินไปกับความสัมพันธ์เหล่านี้ได้ด้วย ซึ่งก็เรียกว่าหนังทำออกมาได้ค่อนข้างดีเลย

ตัวหนังเองค่อนข้างมีฉากน่าจดจำ ฉากขยี้เยอะแยะมากมาย จนทำให้หลายๆ ฉากในหนัง แม้ว่าเราจะไม่อิน แต่มันก็ขยี้จนฝังลึกลงไปในความทรงจำได้อยู่ เช่น ฉากตัวละครชูป้ายบอกรักแฟนเพื่อน ฉากการพูดกันคนละภาษาในประโยคสุดท้ายของคู่นักเขียนและสาวใช้ หรือพาร์ทน้องเด็กจีบสาวอะไรแบบนี้ เป็นต้น มันเลยทำให้หนังค่อนข้างอยู่ยงคงกระพันและเป็นที่พูดถึงมาได้โดยตลอด ด้วยฝีมือการกำกับและเขียนบท Richard Curtis ที่ปกติก็เขียนบทหนังออกมาได้รู้จุดหนักจุดผ่อน และจุดขยี้ที่ดีอยู่แล้ว การที่หนังออกมาหลายตัวละครก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด แถมยังทำได้ดีเสียด้วย แม้ว่าหลังๆ จะมีหลังความรักหลายคู่ออกมาบ้าง แต่ก็ยังไม่มีเรื่องไหนที่กลมกล่อม และอบอุ่นหัวใจได้เท่ากับ Love Actually แล้วจริงๆ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • Bill Mack และ Joe ผู้จัดการของเขานั้น คือตัวละครที่ไม่ได้ไปเชื่อมโยงกับคู่อื่นๆ ในเรื่อง ในขณะที่ตัวละครอื่นๆ นั้นมีความเชื่อมโยงกันไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง
  • จริงๆ ตัวหนังมีคู่ที่เป็นดาราหนังโป๊อีกคู่หนึ่ง ที่ฉายในบางประเทศ และในฉบับ Unrated Edition เท่านั้น
  • Andrew Lincoln ที่รับบท Mark (คนที่ยืนถือป้ายให้ Keira นั้นแหละ) นั้น เริ่มคิดตั้งแต่ต้นแล้วว่าตัวละครของเขามันมีความเป็นพวกถ้ำมองที่น่าขยะแขยงอยู่ไม่น้อย จนตอนหนังออกมา บางคนก็มองว่าโรแมนติก แต่บางคนก็มองว่าเขาคือ Stalker โรคจิตอยู่เหมือนกัน