![](https://kodungmovie.com/wp-content/uploads/2021/05/About-Time-3.jpg)
About Time (2013)
ย้อนเวลาให้เธอ (ปิ๊ง) รัก
![About Time Poster](https://kodungmovie.com/wp-content/uploads/2021/05/Poster-About-Time.jpg)
คะแนน
โกดังหนัง
หนังฟีลกู้ดที่อบอวลไปด้วยความสุขของการใช้ชีวิต ทั้งพาร์ทความรักและครอบครัว นำการย้อนเวลามาเป็นกิมมิคที่เข้ากับหนังมากๆ เป็นหนังที่ต้องตกหลุมรักทั้งน้ำตา
คำคมจากภาพยนตร์
“I just try to love every day as if it was the final day of my extraordinary, ordinary life.” “ผมก็แค่ใช้ชีวิตในทุกๆ วันให้เหมือนมันเป็นวันสุดท้ายในชีวิตที่สุดแสนจะพิเศษ ในชีีวิตธรรมดาของผม”
เรื่องย่อ
ทิม เลค ชายหนุ่มแสนธรรมดา ที่ในวัย 21 ได้ค้นพบว่าตัวเองมีพันธุกรรมหนึ่ง ที่ผู้ชายในตระกูลนี้จะสามารถย้อนเวลาได้ โดยข้อจำกัดก็คือสามารถย้อนไปในการแก้ไขชีวิตตัวเองได้ แต่ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์หรืออะไรได้ เขาเลยมีความตั้งใจจะเอาพลังที่ว่านี้ไปใช้ในการจีบสาวที่เป็นเรื่องยากสำหรับเขา จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาก็ได้พบกับ สาวสวยที่ชื่อ แมรี่ เขาได้ใช้พลังการย้อนเวลาวนกลับไปจนจีบเธอติด พร้อมทั้งแก้ไขสิ่งต่างๆ ในชีวิิต แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ต้องพบว่าพลังที่เขามีนั้น กลับส่งผลกระทบกับชีวิตเขามากกว่าที่คิด และในบางครั้งมันก็ไม่ได้ใช้แก้ได้ทุกปัญหาเสมอไป
หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ About Time เหมาะอย่างมากสำหรับคนที่กำลังมองหาหนังฟีลกู้ด มองพลังบวกให้กับชีวิต ทั้งมุมมองด้านความรัก และความสัมพันธ์ในครอบครัว ที่หนังเรื่องนี้มีทุกอย่างที่มองหาเลย เพราะทั่้งพาร์ทความโรแมนติกก็ทำออกมาได้น่ารัก หรือพาร์ทดราม่าก็อบอุ่นหัวใจดี อีกทั้งในพาร์ทของการย้อนเวลาก็ทำออกมาเข้าใจง่ายๆ ไม่ได้เน้นความสมจริงให้มาปวดหัว (ซึ่งหากใครจะมาหาความไซไฟให้มองผ่านไปเลย) จนทำให้มันเป็นหนังรักฟีลกู้ดข้อคิดดีๆ อีกเรื่องที่จะทำให้หัวใจคนดูพองโตได้เป็นอย่างดีหลังดูจบ พร้อมกับน้ำตาแห่งความประทับใจกันได้เลย หากใครที่ชอบหนังรักย้อนเวลาแบบ The Time Traveler Wife แล้ว เรื่องนี้จะเป็นโทนว่าเวลาที่น่ารักสดใสกว่าจนอยากแนะนำ
- สายหนังรักฟีลกู้ด
- สายหนังรักโรแมนตกครอบครัว
- สายหนังรักข้ามเวลา
รีวิว / สรุปเนื้อหา
หนังรักที่หลายคนหลงรัก จากการหยิบกิิมมิคเรื่องการย้อนเวลามาใส่ในชีวิตคนธรรมดา โดยที่ไม่ต้องเน้นความสมเหตุสมผล หรือ Butterfly Effect ตามสไตล์หนังย้อนเวลาแบบ Sci-Fi แต่ฉีกรูปแบบให้เป็นหนังดราม่า โรแมนติก ที่ใส่ความแฟนตาซีจ๋าๆ ในเรื่องย้อนเวลากันเข้าไปเลย ซึ่งก่อนอื่นๆ ต้องขอชมการแสดงของ Domhnall Gleeson ในบทผู้ชายซื่อๆ ธรรมดาๆ ที่ดูเป็นแบบนั้นจริงๆ กับในส่วนของ Rachael McAdams ที่ปกติก็น่ารักในทุกๆ เรื่องอยู่แล้ว พอมาเรื่องนี้ที่บทดูส่งไปอีก ก็ต้องละลายตายไปกับรอยยิ้มของเธอได้เลยทีเดียว ซึ่งเคมีของทั้งคู่ในเรื่องก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี เป็นคู่ที่น่ารักมากๆ
![](https://kodungmovie.com/wp-content/uploads/2021/05/About-Time-1-1024x536.jpg)
แต่หนังเรื่องนี้ไม่ได้มีดีแค่พาร์ทที่เป็นความโรแมนติกเท่านั้น เพราะทีเด็ดของหนังจริงๆ ก็คือความสัมพันธ์ในครอบครัวซะมากกว่า โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของพ่อ-ลูกในเรื่อง ที่ถ่ายทอดออกมาได้สวยงามมาก จนอดน้ำตาไหลไปด้วยความปลื้มปริ่มกับเรื่องราวของพวกเขาไม่ได้เลย ด้วยการดำเนินเรื่องสนุก มีการหยอดมุขน่ารักๆ เข้ามาตลอดทั้งเรื่อง ในพาร์ทดราม่าก็ไม่ได้ดึงให้คนดิ่ง แต่เต็มไปด้วยความรัก ความเข้าใจเสียมากกว่า ก็ทำให้หนังมีความฟีลกู้ดในทุกอณูที่ทำให้คนดูสามารถอมยิ้ม หัวเราะ ไปกับๆ ทุกฉากของหนังได้เลย
![](https://kodungmovie.com/wp-content/uploads/2021/05/About-Time-2-1024x536.jpg)
ในส่วนที่ทำให้หนังโดดเด่นมากกว่าหนังรักเรื่องอื่นๆ ของ Richard Curtis ก็คงเป็นในเรื่องของแนวคิดที่เติบโตขึ้นของผู้กำกับ ที่ในเรื่องนี้เขาก็ดึงเอาประสบการณ์และการมองชีวิตมาใช้ปรับเข้ากับหนัง และมอบข้อคิดดีๆ ในเรื่องการใช้ชีวิตที่ไม่มีวันย้อนกลับได้เหมือนอย่างตัวเอกในเรื่องจนทำให้เราอยากใช้ทุกวันในชีวิตให้เหมือนเป็นวันสุดท้าย เก็บเกี่ยวความสุขที่อย่างที่ผ่านมาในชีวิตให้ได้มากที่สุด จนไม่แปลกนักที่หนังเรื่องนี้จะเป็นที่รักของใครๆ หลายคนแม้ว่ามันจะไม่ใช่หนังดีระดับสายรางวัล แต่ใน 2 ชั่วโมงของมันก็ได้มอบสิ่งดีๆ ให้หัวใจคนดูพองโต และเต็มอิ่มไปด้วยความรู้สึกดีๆ
เกร็ดจากหนังเรื่องนี้
- ความเซอร์ไพร์ซอีกอย่างของหนังอังกฤษเรื่องนี้ในตลาดต่างประเทศ ก็คือเมื่อได้ออกฉายในเกาหลีนั้น มีคนตีตั๋วดูหนังเรื่องนี้ถึง 3 ล้านคน จนทีมงานเองยังต้องประหลาดใจ ซึ่งเอาจริงๆ แล้วส่วนตัวก็มองว่ามันก็มีฟิลลิ่งเมโลดราม่าสไตล์เกาหลีอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
- แม้ว่าจะเป็นหนังอังกฤษ ที่ถ่ายทำในอังกฤษ แต่ดาราดังๆ แต่ละคนในเรื่องกลับมีหลากหลายสัญชาติที่ไม่ใช่อังกฤษเลยดังนี้ Domhnall Gleeson เป็นคนไอริช, Rachel McAdams เป็นแคนาเดียน ส่วน Margot Robbie (ที่ออกมาไม่กี่วิ…) ก็เป็นคนออสเตรเลียน