It’s a Summer Film (2022)

(เกือบจะไม่ได้) ฉายแล้วหน้าร้อนนี้

It’s a Summer Film Poster
8.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

โดนใจเราไปเต็มๆ หนังเติมเต็มความฝันของคนอยากทำหนัง ทุนไม่เยอะแต่มีแพชชั่นทำเพื่อความสุข บทหนังเล่าเรื่องได้เป็นธรรมชาติ ทำให้ผู้ชมอิน อมยิ้ม หัวเราะลั่นโรง ไม่แปลกใจที่โดนใจแฟนหนังไปเต็มๆ

หมวดหมู่ : Comedy Drama
สัญชาติ : Japanese
กำกับโดย : Soushi Matsumoto
ความยาว : 1 ชั่วโมง 37 นาที
นักแสดงนำ : Marika Itō, Yuumi Kawai, Daichi Kaneko

คำคมจากภาพยนตร์

"การได้ทำในสิ่งที่รัก มันก็คือความสุขในตัวมันเอง สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ ผลลัพธ์ ในตอนสุดท้าย แต่มันคือสิ่งที่เกิดขึ้น ระหว่างทาง"

เรื่องย่อ

เด็กหญิงมัธยมปลายผู้หลงไหลในหนังซามูไร และ หนังย้อนยุคตามประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น แต่เธอกลับไม่มีโอกาสที่จะได้สร้างหนังซามูไรที่โรงเรียนของเธอเพราะชมรมหนังที่เธออยู่สนใจทำแค่หนังแนวโรแมนติกดราม่ามากกว่า วันหนึ่งเท้าเปล่าได้พบกับรินทาโร่ เด็กหนุ่มปริศนาผู้ที่เหมาะสมตามอุดมคติกับบทซามูไรตัวเอกของหนังที่เธอจะสร้าง เท้าเปล่ากับเพื่อนสนิทของเธอสองคน โฟมว่ายน้ำ(ฉายา) และ บลูฮาวาย(ฉายา) ก็ได้ชักชวนรินทาโร่มาเป็นพระเอกในหนัง อีกทั้งเธอยังรวบรวมทีมงานและนักแสดงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ทว่าระหว่างการถ่ายทำนั้นเท้าเปล่าได้ค้นพบว่ารินทาโร่เป็นผู้เดินทางข้ามเวลา!

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ It’s a Summer Film เป็นหนังวัยรุ่นที่คงจะโดนใจคนทำหนังไปเต็มๆ การเป็นทีมงานสร้างหนังไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ไม่ใช่งานที่สนุก หนังจึงเจาะลึกการทำงานของคนเบื้องหลังที่ฝันอยากทำหนัง งบไม่ได้เยอะ ทำเพราะใจรักล้วนๆ ภาพหนังจึงดูสนุกเหนื่อยล้าระหว่างทางการ แต่ในเวลาเดียวกันหนังก็เปิดพื้นที่ให้เราได้คิดว่าชีวิตเราต้องการอะไรในเมื่อเลือกจะทำสิ่งที่รักที่ชอบสิ่งทีี่ได้กลับมาคือความสุขที่หาอะไรมาทดแทนไม่ได้ คนที่มุ่งมั่นเพื่อความฝันมากกว่าจะเดินตามกระแสสังคมคงมีแรงใจที่จะสู้ชีวิตต่อไป คนทำหนังคนที่ใช้ชีวิตเพื่อความฝันนี่คือหนังที่ควรค่าแก่การดูเลย

 

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ตอนดูเรื่องนี้จบเราสามารถตีความออกมาได้หลายมุมมอง แต่ในฐานะที่ทำงานในเชิงสร้างสรรค์และชีวิตผูกติดกับภาพยนตร์มาโดยตลอด หนังเรื่องนี้สามารถเติมเต็มห้วงอารมณ์ความรู้สึกออกมาได้แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย มีแรงใจมีไฟที่จะเดินหน้าโดยไม่ต้องแคร์หรือยึดยงกับไอเดียซ้ำซากจำเจ เปลี่ยนพลังเปลี่ยนความชอบเป็นเนื้อหามันย่อยทำให้เรามีคุณค่าทำงานออกมาตามฝันตามใจตัวเอง ผู้คนมากมายยึดติดกับกรอบเดิมๆ หนังสไตล์เดิมๆเอาใจคนกลุ่มเดิม จนลืมนึกไปว่าหนังมีหลากหลายแนวเด็กสาว 3 คน จึงทำหนังในสไตล์ที่ชอบมันซะเลย ไหนๆก็จะเรียนจบแล้วก็ทิ้งทวนมันสักหน่อย คนมากมายเวลาเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างหนึ่งมักจะลองผิดลองถูก พวกเขาก็ถลำหาแนวทางตัวเอง จนรู้คำตอบว่าเราควรทำหนังด้วยภาษาตัวเองที่อยากจะเล่า อาจมาด้วยความคิดที่บ้าบิ่น ต้นทุนน้อย แต่ไม่ได้เป็นปัญหา ในเมื่อชอบหนังซามูไรยุคเก่า ทางออกเดิมก็คือทำในสิ่งที่รักไปเลยดีกว่า

หนังจะดีไม่ดีอยู่ที่เราเลือกจะสื่อสารมากกว่า 3 สาวเลือกจะทำโดยไม่แคร์ไม่มาฟูมฟายในตอนหลัง พวกเขาใส่ใจใส่ความรู้สึกตัวเองลงไป หนังมันดูจับต้องง่าย น่าอิจฉาที่เด็กมัธยมญี่ปุ่นมีช่วงเวลาชีวิตที่ได้รู้ได้ทดลองว่าตัวเองเหมาะว่าจะไปทางไหนได้ทำอะไร ไม่ต้องมามยึดติดว่าเออเราต้องเรียนมหาลัย นี่คือช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ อยากทำอะไรก็ลองมันให้สุดในปีสุดท้ายตอนมัธยม พล็อตหนังไม่ได้แค่วนเวียนด้วยแพชชั่นอยากจะทำหนัง แต่มันคือการค้นหาหนทางการทำหนังมันต้องเจออุปสรรคปัญหาอะไรตามมา เราพร้อมรับมือกับปัญหาที่เราคาดไม่ถึงหรือเปล่า หนังสอดแทรกถึงการทำงานโดยรวมที่เราจะได้เห็นมุมมองทัศนคติแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันจะต้องแก้แต่ละจุดแต่ละปมกันไป 3 สาวทำหนังแบบบ้านๆไร้เดียงสา พอเล่าเรื่องผ่านมุมมองผู้หญิงมันค่อนข้างลงตัว บททำมาได้กลมกล่อม ตอนดูจบแล้วรู้สึกชอบทันที เพราะเนื้อหาปลุกไฟในตัวได้มากจริงๆ

ส่วนในพาร์ทนักแสดง ที่ได้ มาริกะ สมาชิกรุ่นแรกของวงไอดอล Nogizaka46 มารับบทนำหั่นผมสั้นลุกทอมบอยห้าว ๆ ที่คลั่งไคล้หนัง สาวที่บ้าบิ่นพลังทางการแสดงเหลือร้าย สาวลุคสมัยใหม่ที่คลั่งไคล้หนังซามูไรโบราณ หัวหอกสำคัญในการเดินทางสร้างหนัง ซีนสุดท้ายชอบเธอมากเข้าใจแล้วว่าทำไมเธอถึงเป็นขวัญใจแฟนๆสายไอดอล พลังงานเยอะมาก ขณะที่นักแสดงสมทบคนอื่นๆ อย่าง ยูมิ คาวาอิ กับ คิราระ อิโนริ กลุ่มคนอยากทำหนัง ทั้งคู่ซัพพอร์ทนางเอกได้ดีมาก เมื่อเข้าฉากร่วมกัน 3 คน เอเนจี้มาเต็ม ผลักดันให้เนื่อหาสนุกตั้งแต่ต้นจนจบ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • เว็ปไซต์ Rotten Tomatoes ให้คะแนนรีวิวหนังเรื่องนี้ 100 %
  • ตอนที่ฉายที่เฮ้าส์สามย่านเทศกาลหนังญี่ปุ่น 3 รอบ หนังถูกจองตั๋วเต็มหมดทุกที่จนถึงแถวหน้า