Friday (1995)

ฟรายเดย์

Friday Poster
7.5/10

คะแนน
โกดังหนัง

ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของ F.Gary Gray กับเรื่องราวคนผิวสีในยุค 90 ที่สนุก และมีเสน่ห์ และเพลงฮิปฮอปที่น่าจดจำ

หมวดหมู่ : Comedy Drama
สัญชาติ : American
กำกับโดย : F. Gary Gray
ความยาว : 1 ชั่วโมง 31 นาที
นักแสดงนำ : Ice Cube, Chris Tucker, Nia Long

คำคมจากภาพยนตร์

"I know you don't smoke weed, I know this; but I'm gonna get you high today, 'cause it's Friday; you ain't got no job... and you ain't got shit to do."
“ฉันรู้ว่าปกตินายไม่ได้สูบกัญชาหรอก ฉันเข้าใจ แต่วันนี้ฉันจะต้องให้นายเมาให้ได้ เพราะวันนี้คือวันศุกร์ แถมนายก็ไม่มีงาน และไม่มีอะไรทำทั้งนั้น”

เรื่องย่อ

เคร็ก โจนส์ ชายหนุ่มที่เพิ่งโดนไล่ออกมาจากการขโมยของภายในร้านที่ตัวเองทำงานอยู่ ในวันศุกร์หลังจากนั้น เขาจึงเลือกใช้เวลาทั้งวันไปกับเพื่อนสนิทอย่าง สโม้กกี้ เพื่อที่จะหนีพ่อของเขาที่จะมาคอยเร่งรัดให้เขาหางานใหม่ในทันทีอีกด้วย ซึ่งในตอนนั้น สโม้กกี้ ก็กำลังมีปัญหาใหญ่พอดี เมื่อเขาดันดูดกัญชาที่ควรจะต้องเอามาขาย จากดีลเลอร์โรคจิตอย่าง Big Worm ไปจนหมด ทำให้เขาและเคร็ก จึงต้องพยายามหาเงินจำนวนนี้มาคืนแก๊งนักเลงให้ทันก่อนสิ้นวันศุกร์ ไม่เช่นนั้นแล้วนี่คงจะเป็นวันศุกร์สุดท้ายของพวกเขาเป็นแน่

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Friday นั้นจะเหมาะกับคนที่ชอบหนังสไตล์คนผิวดำ เพลงฮิปฮอปในยุค 90s หรือเป็นแฟนคลับของ Ice Cube กับ Chris Tucker มาตั้งแต่สมัยนั้น ก็น่าจะรู้จักและชอบหนังเรื่องนี้อยู่แล้วกันอย่างแน่นอน เพราะหนังมีครบองค์ประกอบ ทั้งความตลกแบบสไตล์ความวายป่วง กับเรื่องวุ่นๆ ที่เขียนบทมาสนุกดี พร้อมกับได้ดาราดังๆ ในยุคนั้นมาเล่น ถ้าชอบหนังสไตล์ Ice Cube แบบ Are We There Yet, Are We Done Yet หรือหนังตระกูล Friday ภาคอื่นๆ ในยุคหลังๆ แล้ว คิดว่าควรต้องไปตามหามาดูกันแน่ๆ

  • สายหนังผิวสี
  • สายหนังฮิปฮอป
  • สายหนังยุค 90s

รีวิว / สรุปเนื้อหา

Friday นับเป็นหนังที่น้อยคนในไทยจะรู้จัก เนื่องจากมันไม่มีฉายทั้งในโรงหรือการทำแผ่นออกมา (เพราะตอนนั้น ผู้กำกับ F. Gary Gray ยังไม่ดัง อีกทั้งยังเป็นหนังเรื่องแรกของเขา) แต่ภาคหลังๆ อย่าง Next Friday (2000) และ Friday After Next (2002) ก็เริ่มมีคนรู้จักเยอะขึ้นมาก (เชื่อว่าเห็นปกก็จะคุ้นว่า อ่อ มันคือเรื่องนี้นี่เอง) ซึ่งสำหรับภาคแรกของหนังชุดนี้นั้น ก็เป็นหนังที่จัดอยู่ในกลุ่มที่บันเทิงไม่น้อยกับเรื่องราวชวนหัว ของสองเกลอที่ต้องหาเงินมาคืนแก๊งนักเลง ที่ดูภายนอกอาจจะเป็นแค่หนังตลกธรรมดาทั่วๆ ไป

แต่จริงๆ แล้วมันก็พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเพื่อน ไปจนถึงวิถีชีวิตคนผิวสีในยุคนั้น อีกทั้งเรื่องของอาชญากรรมและความรุนแรงที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสนใจด้วย แถมในส่วนทีมดาราเองก็ทำหน้าที่ตัวเองได้เป็นอย่างดี และใครๆ ก็คงต้องชอบเสน่ห์เสียงสูงอันเป็นเอกลักษณ์ของ Chris Tucker ในเรื่องนี้ (และก็ยังติดสไตล์นี้ไปใช้มาโดยตลอด) รวมถึงการด้นสดในบทพูดอย่างลื่นไหลก็นับเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่คนชื่นชมเขามากๆ ยิ่งพอมาเล่นกับสายแรพอย่าง Ice Cube ยิ่งเป็นเคมีที่เข้ากันดีสุดๆ จนรู้สึกเหมือนพวกเขาเป็นซี้กันมากๆ ในเรื่องนี้

นับว่าเป็นหนังที่เริ่มต้นฉายแววของผู้กำกับ F. Gary Gray เลยก็ว่าได้ ที่แม้ว่าจะดูเป็นหนังทุนต่ำ แต่ก็คุมโทนอยู่และมอบความบันเทิงให้กับคนดูได้อย่างเต็มที่ และทำหนังได้อยู่ในกลุ่มหนัง “ดี” มาโดยตลอด จนไม่แปลกใจนักที่ในช่วงหลังๆ มานี้ เราจะได้เห็น F. Gary Gray ได้ขึ้นแท่นกำกับหนัง Blockbuster ใหญ่ๆ ทั้ง The Fate of the Furious (2017) หรือที่บ้านเราเรียกกว่า Fast 8 รวมถึง MIB: International ด้วย นอกจากนี้ก็ต้องให้เครดิตกับการเขียนบทของ Ice Cube และ DJ Pooh ที่สร้างพล็อตออกมาได้ดีและไม่กลวง ดูมีการขัดเกลามาพอสมควร เลยกลายเป็นการผสานระหว่างบทและการกำกับดี พอนำไปรวมกับ Soundtrack เพลงฮิปฮอปดีๆ ของยุคนั้น มันเลยกลายเป็นอีกงานดีๆ อีกงานหนึ่งที่อยากให้ลองได้หาดูกันจริงๆ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกของผู้กำกับ F. Gary Gray ที่เวลาถ่ายทำเพียง 20 วัน และมีต้นทุนสร้างเพียง 3.5 ล้านเหรียญ แต่แค่เปิดตัวสัปดาห์แรกก็กวาดรายได้ไปถึง 6.5 ล้านเหรียญ จนเรียกได้ว่าเป็นเกือบ 2 เท่าของทุนแล้ว แถมยังไปปิดด้วยตัวเลขที่สูงถึง 27 ล้านเหรียญเลยทีเดียว จนไม่แปลกใจนักที่หนังจะมีภาคต่อมาอีก 2 ภาค
  • Chris Tucker ทำหน้าที่ในบท สโม้กเกอร์ ได้ดีมากๆ จนมีชื่อเสนอเข้าชิงรางวัล MTV Movie Award (ซึ่งฮิตมากสำหรับวัยรุ่นยุคนั้น) ในสาขา Best Breakthrough Performance, Best Comedic Performance รวมถึง Best On-Screen Duo ร่วมกับ Ice Cube ด้วย