Insidious (2010)

วิญญาณตามติด

Insidious Poster
8/10

คะแนน
โกดังหนัง

หนังผีในยุคที่ไม่ต้องเอาผีมาหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไป แต่โผล่มาแบบตัวเป็นๆ แต่ยังคงความสยองได้เป็นอย่างดี และใส่อารมณ์ขันเข้ามาได้ลงตัวมากๆ

หมวดหมู่ : Horror Mystery Thriller
สัญชาติ : American
กำกับโดย : James Wan
ความยาว : 1 ชั่วโมง 43 นาที
นักแสดงนำ : Patrick Wilson, Rose Byrne, Ty Simpkins

คำคมจากภาพยนตร์

"It’s not the house that is haunted. It’s your son.”
“ไม่ใช่ที่ตัวบ้านหรอกที่ถูกผีสิง แต่เป็นลูกของพวกคุณต่างหาก”

เรื่องย่อ

จอร์ช และ เรไน แลมเบิร์ธ คู่สามีภรรยาที่เผชิญกับเรื่องราวประหลาด เมื่อลูกชายคนโตของพวกนั้น ตกอยู่ในอาการโคม่า เมื่อพาไปหมอและใช้วิธีการรักษาในหลายๆ ทาง แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ทำให้พวกเขาจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากหมอผี เอลิส ที่บอกกับพวกเขาว่า ลูกชายของพวกเขานั้น วิญญาณออกจากร่างไป และถูกปีศาจตัวนึงจับเอาไว้ในโลกหลังความตาย ในขณะที่บรรดาภูตผีจากอีกฝั่งก็เริ่มรุกรานครอบครัวนี้มากขึ้น เพราะหวังยึดร่างลูกชายของพวกเขา ทำให้ทั้งสองสามีภรรยา รวมถึงทีมงานแม่หมอ จึงต้องร่วมมือกันทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ลูกชายของเขาติดอยู่ในโลกนั้นไปตลอดกาล

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Insidious นั้นจะเหมาะสำหรับคอหนังสยองขวัญเป็นอย่างมาก และสร้างความแปลกใหม่จากหนังสยองขวัญเดิมๆ ที่เคยทำมาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะคอหนังผีแบบ Hardcore ที่ชอบในส่วนของบรรยากาศชวนหลอน ผีโผล่มาแบบไม่ต้องหลบ และเสียงประกอบที่ทำเอาโสตประสาทหวั่นไหว ถ้าชอบหนังสไตล์นี้อย่าง The Conjuring, Sinister หรือ Amity Ville Horror ที่จัดเต็มความสยอง แล้วมีเวลาตามต่อไปกับภาคต่อๆ ไป ของ Insidous เพื่อประกอบเรื่องราวแล้วล่ะก็ ขอแนะนำเอาเข้าลิสท์กันเอาไว้ได้เลย 

  • สายหนังผีสุดสยอง
  • สายหนังสยองขวัญจัดเต็ม
  • สายหนังหมอผี คนทรง

รีวิว / สรุปเนื้อหา

นับเป็นอีกหนึ่งหนังสยองขวัญยุคใหม่ ที่ทำให้ผู้กำกับอย่าง เจมส์ วาน นั้นส่องประกาย ถึงความสามารถในการทำหนังสยองขวัญอย่างเต็มที่ จากก่อนหน้าที่มีหนังไอเดียดีอย่าง Saw ภาคแรกเท่านั้น ซึ่งใน Insidious นี้ แม้พล็อตเรื่องจะไม่ได้แปลกใหม่นัก กับหนังสยองสไตล์บ้านผีสิง ที่ครอบครัวหนึ่งจะต้องเผชิญ แต่ทว่าหนังกลับใส่ลูกเล่นต่าง ๆ มากมายที่ช่วยยกระดับให้มันกลายเป็นหนังสยองขวัญที่มีชั้นเชิงมากยิ่งขึ้น ทั้งในส่วนของบรรยากาศสุดหลอนที่ไม่น่าไว้วางใจ ตั้งแต่ในบ้านของโลกคนปกติ ยันโลกความตายที่เรียกได้ว่าชวนหลอนกันแบบจัดเต็มมาก

นอกจากนี้ตัวหนังยังดีไซน์แก๊งผีให้ออกมาหลอนตับแตก แต่ละตัวคือไม่มีกั๊ก ไม่มีมาแบบแอบหลบๆ ซ่อนๆ กันเลย แต่ละตัวคือโผล่มาให้เห็นแบบตัวเป็นๆ เห็นชัดๆ (โดยเฉพาะแก๊งผียิ้มหวาน) ซึ่งพอบรรดาผีเหล่านี้ถูกยัดเข้ามาใส่ในบรรยากาศที่สุดสยอง รวมถึงซาวน์ดนตรีประกอบที่ชวนป่วนประสาทแล้ว ยิ่งทำให้การปรากฏตัวของผีแต่ละครั้ง ก็สร้างความน่ากลัวได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว และที่สำคัญคือผีในเรื่องนี้ออกบ่อยแบบไม่เลือกเวลา ไม่ว่าจะเป็นกลางวันกลางคืน หรือตัวละครจะทำกิจวัตรประจำวันใด ๆ ก็มีโอกาสที่ผีจะโผล่ได้หมด จนเรียกได้ว่าหนังสร้างองค์ประกอบที่เอื้อต่อการให้ผีออกได้ดีมากๆ แม้ว่าจะใช้ต้นทุนที่ไม่สูงก็ตาม และได้ผลดีเลย

อย่างที่บอกไปในข้างต้น แม้หนังจะมีพล็อตไม่ต่างอะไรจากหนังสยองขวัญเรื่องอื่น แต่การบิดนิดเปลี่ยนหน่อยของหนัง อย่างทีมหมอผีที่ดูเหมือนจะสายไสยศาสตร์ แต่อุปกรณ์ต่าง ๆ กับดูเป็นวิทยาศาสตร์มาก รวมถึงมุขตลกที่สอดแทรกเข้ามาเป็นระยะ ก็ช่วยผ่อนคลายความเครียดจากเรื่องราวในหนังได้เป็นอย่างดี ในส่วนพาร์ทการข้ามโลกไปมาก็มีความแปลกใหม่ชวนลุ้น จนไม่แปลกใจที่สุดท้ายแล้ว Insidious จะกลายเป็นเป็นหลักไมล์สำคัญของหนังสยองขวัญยุคใหม่ที่เป็นที่ชื่นชอบเป็นอย่างมาก และมีหนังสยองขวัญตามมาอีกหลายเรื่องที่ใช้ Reference จากเรื่องนี้ จนสุดท้ายหนังก็ประสบความสำเร็จจนคลอดภาคต่อมาได้อีกถึงภาคที่ 4 เลยทีเดียว

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • หนังเรื่องนี้ใช้เวลาถ่ายทำเพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น แถมใช้ทุนต่ำมากๆ ที่ 1.5 ล้านเหรียญ แต่ได้รายรับจากทั่วโลกไปเกือบ 100 ล้านเหรียญ (สุดจริง!)
  • เสียงดนตรีที่บาดหูชวนหลอนของธีมหนังนั้น เป็นการใช้ ไวโอลิน ถึง 33 ตัวเพื่อสร้างสรรค์มันออกมา