In Youth We Trust (2024)

วัยหนุ่ม 2544

In Youth We Trust Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

งานคุณภาพ หยิบชีวิตนักโทษมาตีแพร่ได้น่าประทับใจ สะท้อนความโหดร้ายคนคุกได้ถึงแก่น องค์ประกอบหนังครบเครื่องมากๆ

หมวดหมู่ : Crime Thriller
สัญชาติ : Thai
กำกับโดย : Puttipong Nakthong
ความยาว : 2 ชั่วโมง 10 นาที
นักแสดงนำ : Nat Kitcharit, Itkron Pungkiatrussamee, Arak Amornsupasiri

คำคมจากภาพยนตร์

“อย่ารู้เยอะ อย่าคิดมาก อย่าสร้างปัญหา”

เรื่องย่อ

เผือก นักเรียนอาชีวะ ที่มีแม่เป็นคนขายยา ดันตัดสินใจผิดพลาด ยิงคนตายเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ท้ายที่สุดโดนจับ และถูกส่งตัวไปอยู่ในคุก ชีวิตใหม่กลายเป็นนักโทษ โลกใบใหม่ที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย และต้องดิ้นรนเพื่อให้มีลมหายใจต่อไป

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับวัยหนุ่ม 2544 เป็นหนังทริลเลอร์ที่เหมาะกับแฟนหนังสายรางวัลดราม่าที่มาด้วยประเด็นที่ดาร์คหดหู่รุนแรง จำลองโลกในห้องขังในมุมมองใหม่ ตีแพร่ให้ผู้คนภายนอกได้สัมผัสถึงความอันตราย ถ้าหากผิดพลาดแค่ครั้งเดียวหายนะอาจมาเยือนแบบไม่ทันตั้งตัว พี่พุฒิ ผู้กำกับเดินหน้าทำหนังในแนวทางถนัด หยิบประเด็นคนชายขอบกลุ่มคนที่ถูกมองข้ามในสังคม และหยิบความดาร์คความโหดร้าย

รีวิว / สรุปเนื้อหา

ดูเหมือนว่าเรื่องราวของ 4 Kings ดูธรรมดาไปเลย เมื่อวัยหนุ่ม กลายเป็นงานที่คุณภาพของผู้กำกับไปแล้ว หนังยังคงยึดแนวทางเดิมการหลงผิดความคึกคะนองการตัดสินใจที่ผิดพลาดกลายเป็นตราบาปชีวิต กลายเป็นนักโทษที่ต้องเผชิญหน้ากับโลกที่อันตราย ชีวิตหลังกำแพงหดหู่กดดันกว่าชีวิตทั่วไป ตัวละครได้พบถึงโลกที่เขาไม่มีสิทธิ์มีเสียง หรือตัดสินใจอะไรได้เลย เขาถูกกดขี่จากผู้คุมและนักโทษที่อยู่มาก่อนเล่นงานสาระพัด เพียงเพราะเขาเป็นน้องใหม่ หนนังพาผู้ชมไปสัมผัสระบบการเมืองการปกครองที่เน้นความรุนแรง ชีวิตเผือกบัดซบหนักเขาแทบไม่มีพื้นที่ ไร้แสงสว่างที่จะเป็นตัวของตัวเองชาวความห้าวแบบเด็กช่างได้เลย คุกวัยหนุ่มสถานที่ที่ไม่มีใครอยากมาอยู่ หนำซ้ำยังต้องอยู่ในเกมการต่อสู้ของ คนคุกที่ต่างฉกชิงเพื่อให้ตัวเองเป็นใหญ่เหนืออีกฝ่ายของบ้านคลองเตยและบ้านฝั่งธน แทบไม่ต่างจากชีวิตคนทั่วไปที่ห่ำหั่นเพื่อกดอีกฝ่ายที่อ่อนแอกว่าเลยด้วยซ้ำ ยิ่งเวลาผ่านไปจากสถานที่ที่คิดจะขัดเกลาตัวละครหลักให้เป็นคนอื่น แต่ชีวิตดันเข้าไปอยู่ในสารบบคนคุก ต้องดิ้นรนรอดพ้นจากการกลั่นแกล้งเพื่อมีลมหายใจในอีกวันต่อไป

ค่อนข้างชอบที่ผู้กำกับเลือกจะถ่ายทอดเนื้อหาจนได้เห็นถึงความโหดร้ายในสังคมคนคุก โลกที่คนทั่วไปไม่เคยเห็นสภาพเป็นอยู่มาก่อน หนังมีเซ็ตติ้งโลเคชั่นที่ไม่ได้เยอะ คุกที่เพชรบุรี พี่พุฒิ ถ่ายทอดออกมาได้โคตรดี ทั้งแง่งานภาพ ดนตรีประกอบ หรือการจัดวางฉากปะทะกันของตัวละคร มันทำให้เห็นชีวิตคนในโลกสีเทาที่ไร้ความหวังไร้แสงสว่างไร้โอกาส หนังสร้างบรรยากาศหดหู่ กดดันไปหมด การตัดต่อหนังเลยทำออกมาได้สนุกกว่า 4 Kings 2 ภาคแรกด้วยซ้ำ จุดนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าผู้กำกับถ่ายทอดออกมาได้จริงจังใส่ใจในทุกรายละเอียด และทำออกมาได้อย่างปราณีต

การแสดงของบรรดาพระเอกคู่บุญของพี่พุฒิ จาก 4 Kings ทั้ง 2 ภาค ที่รอบนี้ เล่นได้โคตรดี ปล่อยของกันเต็มที่ ณัฏฐ์ กิจจริต สลัดภาพจำเดิมๆ สู่บทคนคุกหน้าใหม่ที่เผชิญหน้ากับความหวาดกลัว และต้องแก้ปัญหาเอาตัวรอดไปวันๆในคุก ภาพของเผือกที่คุณแวนแสดงเอาไว้ คือภาพสะท้อนของคนที่ช็อคและรับมือไม่ได้กับแวดล้อมที่เขาไม่เคยสัมผัส ได้เห็นพฤติกรรมจากความคึกคะนอง บันดานโทสะจนกลายเป็นบาดแผลที่เขาไม่มีวันลบมันออกไปได้ พี่เป้ อารักษ์ ที่ลบภาพพระเอกหนังซีรีส์มากมายทิ้งไป เป็นคนเลว อำมหิต จ่าฝูงบ้านคลองเตย พร้อมจะเล่นงานทุกคนที่ขว้างหน้าถ้าหากไม่เคารพกฏที่ตั้งเอาไว้ เอม ภูมิภัทร ที่ช่วงหลังงานแสดงเยอะมากๆ การปรากฏตัวของเขาเรื่องนี้ คือผ้าขาว คนดวงซวยที่เผชิญหน้ากับความรักความไว้ใจแต่กลับมาทำร้ายจนได้พบชีวิตที่บัดซบแบบนี้ ท็อป ทศพล ชายหนุ่มที่คงเหมาะกับบทคนเลวสายบวกจริงๆ เห็นความตั้งใจและความพยายามคุ้มค่าแล้ว จ๋าย ไททศมิตร ยอมรับตรงๆว่านี่คือนักแสดงคุณภาพ ได้เห็นมิติตัวละครที่รักพวกพ้อง มีความยุติธรรม, เบนจามิน โจเซฟ วาร์นี นายแม่งโคตรเท่ห์ในบทฝรั่ง ใจนักเลง กล้าได้กล้าเสีย บ้าบิ่นมุทะลุ แต่สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นคนไม่ยอมให้ใครมากดขี่

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • บทบาทฟลุ๊ค ผู้กำกับเขียนมาเพื่อ เอม ภูมิภัทรเท่านั้น
  • นรสิงห์ในวัยหนุ่ม ถูกวางตัวโดยไม่มีบทพูด เน้นแสดงผ่านสีหน้าและแววตาเท่านั้น และต้น อรุณพงศ์ ต้องออกแบบการแสดงขึ้นมาเอง
  • จี๋ สุทธิรักษ์ มาปรากฏตัวในเรื่องด้วย พากย์เสียงเป็นดีเจ
  • เรือนจำเก่าที่เพชรบุรี เกือบจะถูกทิ้งไปแล้ว ปัจจุบันถูกปรับปรุงเพื่อเป็นโลเคชั่นถ่ายหนัง