Heat (1995)

คนระห่ำคน

Heat Poster
9/10

คะแนน
โกดังหนัง

งานทริลเลอร์อาชญากรชั้นยอดแห่งยุค 90 โจรปล้นแบงก์วัดกึ่๋นกับตำรวจได้แบบมีชั้นเชิงทำให้เราได้ลุ้นตื่นเต้นไปในทุกๆฉาก

หมวดหมู่ : Action Crime
สัญชาติ : American
กำกับโดย : Michael Mann
ความยาว : 2 ชั่วโมง 52 นาที
นักแสดงนำ : Robert De Niro, Al Pacino, Val Kilmer

คำคมจากภาพยนตร์

"A guy told me one time, "Don't let yourself get attached to anything you are not willing to walk out on in 30 seconds flat if you feel the heat around the corner."
"อย่างที่เขาว่าเอาไว้ ถ้าอยากเป็นอาชญากร ก็จงอย่าผูกพันธ์กับใครหรืออะไรในชีวิตอย่างเด็ดขาด เพื่อที่จะได้หนีตำรวจภายใน 30 วินาที โดยที่ไม่โดนจับอยู่ที่มุมถนน"

เรื่องย่อ

หนังเล่าเรื่องราวการไล่ล่าหักเหลี่ยม ชิงไหวชิงพริบ ระหว่างทีมตำรวจแอลเอหน่วยปราบอาชาญากรปล้น ที่นำทีมโดย วินเซนต์ ตำรวจมาดเก๋าที่ครั้งนี้ต้องก่อกรไล่จับกับยอดทีมโจรปล้นมืออาชีพที่รู้ทัน พวกตำรวจทุกฝีก้าว นำทีมโดย นีล แม็คคอลนีย์ ที่กำลังวางแผนปล้นธนาคารครั้งใหญ่อยู่ กับปมชีวิตของทั้งฝ่ายตำรวจและโจรที่ไม่ได้ราบรื่นผาสุขตลอด แต่การปล้นครั้งนี้มันกลับยากและวุ่นวายขึ้นเมื่อ นึ่งในลูกทีมของนีลเกิดหักหลัง ทำให้เกิดการไล่ล่าตามหาตัวบงการขึ้น ทั้งตำรวจ โจร ไล่ล่ากันไม่พอ โจรยังต้องไล่ล่ากันเองอีกด้วย

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Heat จัดว่าเป็นหนังแอ็คชั่นทริลเลอร์ที่คลาสสิกดุเดือดเรื่อง 1 ในช่วงยุค 90 นอกจากนักแสดงชั้นนำอย่าง อัล ปาชิโน่ และ โรเบิร์ต เดอ นีโร ที่มาห่ำหั่นในบทตำรวจและโจรนี่คือสิ่งที่ทำให้หนังมีเอกลักษณ์การหักเหลี่ยมเฉือนคมกันในทุกๆซีน ไม่มีใครเหนือกว่าใคร เนื้อหากระหน่ำด้วยฉากแอ็คชั่นบทสนทนาที่มีชั้นเชิง ใครชอบหนังปล้นหนังสืบสวนสอบสวนเรื่องนี้ตอบโจทย์

  • สายหนังแนวปล้น
  • สายหนังแอ็คชั่น
  • สายหนังสืบสวนสอบสวน

รีวิว / สรุปเนื้อหา

เห็นได้ชัดเลยว่าหนังเรื่องนี้มีอิทธิพลมากต่อหนังแนวปล้นในยุคหลังๆที่เจริญรอยตามทั้ง The Town, Den Of Thieves, The Dark Knight ที่หยิบประเด็นการปล้นมาใช้เล่าเรื่อง เนื้อหาไม่ได้มีแค่การปล้นที่ตื่นเต้นแต่ยังมีพล๊อตเสริมทั้งดราม่าระหว่างตัวละครในแก๊งด้วยกันและดราม่ารูปแบบนักเลงกับตำรวจ ซึ่งไมเคิล มานน์ทำตรงนี้ออกมาได้ดีมาก ๆ หนังแบ่งการเล่าเรื่องเป็นของสองตัวละครนำซึ่งบทหนังชีวิตส่วนตัวของสองตัวละครเข้มข้นมาก ๆ เช่นเดียวกับฉากแอคชั่นที่ทำได้สมจริง โดยเฉพาะฉากยิงกันหน้าธนาคารซึ่งนับเป็นฉากหนึ่งในตำนานหนังปล้นธนาคารมันคือการไล่ล่าที่โคตรสนุกเลย บทหนังไม่มีความเก่าเมื่อเอามาดูในยุคใหม่ยังมีความร่วมสมัยมากๆ
.


หนังเรื่องนี้มันสนุกที่เราได้เห็นแง่มุมตัวละครได้ชิงไหวชิงพริบกันอย่างสนุก ระหว่างตำรวจและกลุ่มโจร คน 1 วางแผนดักอีกฝ่าย ส่วนอีกคนวางแผนแก้เกมอีกฝ่ายได้อย่างชาญฉลาด เราชอบที่หนังเปิดโอกาสให้ตัวละครตำรวจและหัวหน้าโจรมาเผชิญหน้ากันสนทนากันกลางร้านกาแฟ พูดคุยกันแบบมีมิตรไมตรี เราไม่เห็นอะไรแบบนี้ในการสร้างหนังที่พาตัวละครคนละขั่วมาเจอหน้ากัน กลับกลายเป็น 1 ฉากที่ให้ความรู้สึกเท่ห์มาก ที่ต่างฝ่ายต่างพูดกันอย่างมีชั้นเชิง เหมือนเป็นการประกาศจุดยืนของทั้งฝ่ายและส่งให้ครึ่งหลังของหนังเข้มข้นมาก ๆ หนังไม่ได้ไปอัดฉากแอ็คชั่น ดูเอามัน ยิงกัน สู้กันอย่างเดียว แต่ยังใส่เนื้อเรื่องและตัวบทที่ดีมากกว่าจะขายแต่ฉากแอ็คชั่น หนังยังมีความซับซ้อน เป็นการปล้นซ้อนปล้น หักหลังกันในทีมปล้นอีกด้วย
.


นักแสดงชุดนี้คือที่สุดในการดำเนินเรื่อง Robert De Niro, Al Pacino สื่อสารบทบาทตำรวจและโจรได้อย่างดีมาก ใช้อาวุธจริงได้อย่างกับเป็นมืออาชีพ ทั้งปืนสั้น ปืนยาว เพื่อความสมจริงในการแสดง ซึ่งออกมาดูสมจริงมาก ไม่แพ้การใช้ปืนในหนังเแอ็คชั่นในยุคปัจจุบัน นอกจากฉากบู๊แล้วการแสดงในซีนที่เผชิญหน้ากันหรือในบทบาทตัวเองก็ทำได้ดีเหลือเชื่อ มันเลยกลายเป็นลิสต์หนังชั้นดีที่คุณควรต้องดูเลยล่ะ

เกร็ดจากหนังเรื่องนี้

  • ฉากเผชิญหน้าระหว่าง วินเซนต์ ฮันนา และ นีล แม็กคอเลย์ ไม่มีการซ้อม อัล ปาชิโน่ และ โรเบิร์ต เดอ นีโร เล่นจริงไม่มีซ้อม
  • คีอานู รีฟส์ เกือบได้แสดงบท คริส ไชเฮอร์ลิส ถ้าหาก วาล คิลเมอร์ ไม่ไปรับเล่นแบทแมนเสียก่อน
  • ตัวละครในเรื่องได้แรงบันดาลใจมาจากคนจริงๆ
  • ฉากดวลปืนกลางถนนไม่ใช้เทคนิก CGI