เรื่องย่อ

แม็กซ์ และแอนนี่ คู่รักที่แต่งงานกันมาพักใหญ่ แต่กลับมีปัญหาระหองระแหงกันอยู่ในเรื่องที่มีลูกไม่ได้ ในคืนหนึ่ง บรู๊คส์ พี่ชายของ แม็กซ์ นั้นก็มาชวนพวกเขาและแก๊งบอร์ดเกม เพื่อจัดกิจกรรม Board Game Night กัน แต่เมื่อทุกคนไปถึงก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่ามีโจรมาลักพาตัวบรู๊คส์ไปต่อหน้าต่อตา แต่ที่น่าสงสัยก็คือ สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขาในตอนนี้ มันเป็นแค่เกมหรือมันเป็นเรื่องจริงกันแน่ จนทำให้พวกเขาแต่ละคนต้องเดินหน้าสืบสวนถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร

สำหรับ Game Night นั้น เป็นหนังสายบันเทิงอีกเรื่องที่มีครบรสทั้งเนื้อเรื่องแนวสืบสวนที่ดูสนุกมีจุดพลิกผันไปมา มีมุขฮาๆ ที่ยิงเข้าเป้าแทบตลอดทั้งเรื่อง มีพาร์ทดราม่าเบาๆ ที่สอดแทรกมาในหนังได้อย่างกลมกล่อม จนรู้สึกว่าใครที่หาหนังอารมณ์ดี หรือหนังตลกที่มีพล็อตเจ๋งๆ สักเรื่องแล้ว จะสามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างมาก เพียงแต่คนที่ไม่ใช่คอหนังอาจจะขำน้อยหน่อยกับบรรดามุขจิกกัดวงการฮอลลีวู้ดทั้งหลาย เอาเป็นว่าใครที่ชอบหนังอย่าง Horrible Bosses หรือ Tag แล้ว ต้องชอบเรื่องนี้อย่างแน่นอน

• สายหนังตลกสืบสวน
• สายหนังบันเทิงคุณภาพ
• สายหนังเล่นเกม

รีวิว / สรุปเนื้อหา

หนังสืบสวน-ตลกที่โคตรเฉียบในแบบที่ไม่ได้คาดหวังเอาไว้มาก่อน เพราะไม่นึกว่าการนัดกันของกลุ่มเพื่อนมาเล่น Board Game Night มาจะสามารถต่อยอดสร้างสรรค์อะไรมาได้ขนาดนี้ ซึ่งจริงๆ แล้วตัวบทมันแทบไม่มีอะไรว้าวเลย แถมยังดูออกจะคล้าย The Game ในโทนหนังที่ดูหฤหรรษ์ไปอีก จุดเด่นมันเลยเป็นจังหวะการเล่าเรื่องที่แม่นยำ รู้ว่าจังหวะไหนควรให้ตื่นเต้น จังหวะไหนควรตลก จะงหวะไหนควรผ่อน หรือจังหวะไหนควรเร่ง ที่ทำให้มันสามารถสร้างความน่าติดตามได้ตลอดทั้งเรื่องอย่างลื่นไหลได้อย่างน่าประทับใจมาก 

ในส่วนของพาร์ทสืบสวนออกหาความจริงนั้น มันเต็มไปด้วยลูกล่อลูกชน จากการที่ต้องมาทาย มาคาดเดา เพราะมันมีจุดพลิกผันกันแบบหน้ามือเป็นหลังมือกันอยู่ตลอดเวลา จนสุดท้ายก็เลิกเดาแล้วให้หนังมันลากเราไปให้เพลิดเพลินไปกับเรื่องราวจะดีกว่า ด้วยตัวละครที่มีมิติ และมีปมในชีวิตก็ทำให้การออกตามหาพี่ชายของ แม็กซ์ เต็มไปด้วยความน่าสนใจ และทำให้เราเข้าใจความนึกคิดของตัวละครมากขึ้น มันเลยกลายเป็นว่าหนังมีพาร์ทดราม่าความสัมพันธ์ของพี่น้องและชีวิตคู่เข้าไปด้วยแบบเนียนๆ 

จุดเด่นจริงๆ ของหนังน่าจะเป็นการยิงมุขตลกที่เข้าเป้ามาก คือเรียกได้ว่าความ Accuracy น่าจะอยู่ที่ประมาณ 80-90% เลย (แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ Sense of Humor ของแต่ละคน) แต่ละมุขล้วนมีความสร้างสรรค์ และปรับกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี หลายมุขในนั้นก็เป็นการจิกกัดวงการฮอลลีวู้ดมากมาย ยิ่งใครดูหนังมาเยอะๆ หรือรู้จักดารามากๆ ก็จะยิ่งขำไปกับมุขเหล่านี้ได้อีกเยอะ แถมในภาพรวมของหนังยังไม่มีมุกประเภทสกปรกหรือเสื่อมๆ อะไรให้อึดอัดใจกันสักเท่าไร เลยทำให้หนังมันทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีจริงๆ ในแง่ของการมอบความบันเทิงให้กับคนดูได้ตลอด 1 ชั่วโมงครึ่งนี้ รับรองว่าดูแล้วได้ยิ้มได้ฮากันแน่นอน